“เฉลิม” เมินข้อเสนอ 7 องค์กรภาคเอกชน ดันทุรังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งที่ยอมรับเองเป็น พ.ร.ก.เป็ดง่อย บังคับใช้ตามกฎหมายไม่ได้ หลังศาลมีคำสั่งห้าม 9 ข้อ ทำงงญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุมสะพานผ่านฟ้าฯ ฟ้อง “ธาริต” อ้างไม่เกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นกรรมการ ศรส. ยันพร้อมสู้คดี เพราะไม่มีคำสั่งให้ใช้อาวุธสลายการชุมนุม เชียร์ “ประยุทธ์” แจ้งความพวกแบ่งแยกประเทศ ท้ายุบ พท.จะตั้ง “พรรคทักษิณ” สู้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวถึงกรณี 7 องค์กรภาคเอกชนเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ว่า ตนแสดงความเห็นไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนตนปฏิบัติตามคำสั่ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับนี้บังคับใช้ไม่เข้มข้น เหมือนกับสมัยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เพราะจากคำสั่งห้าม 9 ข้อของศาลแพ่งแทบจะทำอะไรไม่ได้ กปปส.จึงฮึกเหิมเหมือนอันธพาล ถ้า 7 องค์กรภาคเอกชนมีใจเป็นธรรม มีวิจารณญาณจะไม่ออกมาพูด และเมื่อปี 2553 ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้สมบูรณ์แบบ แล้ว 7 องค์กรนี้ไปอยู่ที่ไหน วันนี้เหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากรัฐบาล แต่เป็นกลุ่มที่อกหักอยากมีอำนาจออกมาชุมนุม
“จากข้อห้ามของศาลแพ่ง 7 องค์กรภาคเอกชนได้ตรวจสอบหรือไม่ หรือพูดด้วยความสนุก เอาแต่ได้ ต้องนึกถึงหัวอกรัฐบาลเหมือนกัน เพราะพ.ร.ก.ฉบับนี้เป็น พ.ร.ก.เป็ดง่อย ไอ้พวกนี้มันวงการเดียวกันหมด จะเอาพรรคพวกมาเป็นนายกฯ 7 องค์กรรับงานมา ทำเป็นธุรกิจการค้ากระทบ ที่มันยุ่งเพราะผู้ชุมนุม ไม่ใช่รัฐบาล”
ผอ.ศรส.กล่าวว่า กรณีศาลอาญารับคดีญาติผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ฟ้องนายกฯ และ ศรส.พร้อมผู้เกี่ยวข้องนั้น ผู้ชุมนุมมีสิทธิไปฟ้อง แต่ตนไม่เข้าใจว่าทนายความที่ร่างคำฟ้องนายกฯ ไปฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการ ศรส.ได้อย่างไร เพราะไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งตน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และผู้ปฏิบัติหน้าที่นั้นยังเกี่ยวข้อง ถือว่าเป็นการฟ้องเหวี่ยงแห อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้สั่งฆ่าคนอย่างสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่มีร่างคำสั่งให้ใช้อาวุธสลายการชุมนุม และวันนี้ยังไม่รู้ว่าผู้ตายเสียชีวิตเนื่องจากอาวุธอะไร ใครทำให้ตาย การชันสูตรพลิกศพยังไม่เสร็จ และมาฟ้องนายกฯ กับตนได้อย่างไร อีกทั้งฝ่ายตำรวจก็ตายเช่นกัน ตนพร้อมที่จะขึ้นศาลด้วยตัวเอง
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า ส่วนข้อเสนอให้มีการเลือกตั้ง ส.ว.เป็นวันเดียวกันกับการเลือกตั้งส.ส.ใน 28 เขตที่เหลือ ตนเห็นว่าไม่ควรจะเป็นวันเดียวกัน เพราะชื่อก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ไปทำให้มั่วทำไม
ผอ.ศรส.กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ดูไม่ออกเพราะขึ้นลงเร็ว มีหลายสาย แต่ตนฟังธงว่าจะยังไม่สงบ ถ้ายังล้มรัฐบาลและนายกฯ ไม่ได้ ก็จะปั่นป่วนไปอย่างนี้ สิ่งที่ทำให้ทุกวันนี้น่าเป็นห่วงคือ ผู้ชุมนุมมีเบื้องหลัง และมีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามา แต่ไม่เปิดเผย สถานการณ์มีแนวโน้มยาว ต้องวิเคราะห์สัปดาห์ต่อสัปดาห์ คำตัดสินขององค์กรอิสระก็ทำให้ทั้งเสียว ทั้งหนาว แต่เมื่อรัฐบาลล้มไปแล้วเอาคนกลางมา ตามรัฐธรรมนุญมาตรา 7 แต่ยังมีมาตรา 181 ด้วย เมื่อคนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับก็จะยุ่ง มีม็อบเยอะ ส่วนที่คนเสื้อแดงจะเข้ามา กทม.นั้น ขอไม่แสดงความเห็น ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามใคร
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. สั่งดำเนินคดีต่อฝ่ายที่มีแนวคิดเคลื่อนไหวแบ่งแยกประเทศนั้น การที่ พล.อ.ประยุทธ์แจ้งความถือว่าถูกต้องแล้ว แต่ต้องให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาแก้ข้อกล่าวหา ถ้าปรากฏหลักฐานว่าผิดต้องสั่งฟ้อง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็พอใจ เพราะท่านทำหน้าที่ของท่านแล้ว
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นยุบพรรคเพื่อไทย จากการที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวประชดว่า “อย่าไปใส่ใจ ยุบเมื่อไหร่ก็ตั้งอีก ไม่มีปัญหา อยากยุบกันมากก็ตั้งพรรคใหม่ ทีนี้ผมจะใช้ชื่อพรรคทักษิณเลย ผมเป็นคนตั้ง ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ผมจะตั้งแล้วอาจจะเป็นหัวหน้าเอง โดยมีนายอดิศร เพียงเกษ เป็นเลขาธิการพรรค และนายอนันต์ ศรีพันธุ์ อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เป็นโฆษกพรรค จบไปเลยทีนี้ อยากยุ่งกันนัก”