“สุรชัย แซ่ด่าน” ไม่เข็ดคุก ปราศรัยหมิ่นเหม่ให้ร้ายสถาบัน ลั่นแดงต่อสู้เพื่อ “ประชาธิปไตยแบบไม่มีนามสกุล”

ASTVผู้จัดการ – สุดยอดเนรคุณ! “สุรชัย แซ่ด่าน” ปราศรัยลั่น เสื้อแดงต่อสู้เพื่อ “ประชาธิปไตยที่ไม่มีนามสกุล” ปั่นหัวสาวก อ้างพฤษภา 53 อำมาตย์-ปชป.กะฆ่าเสื้อแดง 2-3 หมื่นคน ไม่ใช่แค่ 80-90 คน พาดพิงโครงการในพระราชดำริ-สถาบันเบื้องสูงหนัก ทั้งๆ ที่เพิ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษเมื่อปลายปี 56

วานนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการพบว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair ของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และแกนนำคนเสื้อแดงที่หลบหนีหมายจับออกนอกประเทศไทย หลังเหตุการณ์สงกรานต์เลือดในปี 2552 ได้แบ่งปันคลิปวิดีโอจากเว็บไซต์ยูทิวบ์ ที่มีชื่อว่า “อ.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แม่ฮ่องสอน 20-03-2014” ซึ่งโพสต์เข้าสู่เว็บไซต์ยูทิวบ์เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 57 ที่ผ่านมา โดยผู้ใช้นามว่า RuMiCBR954

สำหรับคลิปวิดีโอชิ้นดังกล่าวมีความยาวทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 15 นาที 42 วินาที มีลายน้ำระบุชัดเจนว่าบันทึกและเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ thaivoice.org ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อความและคลิปวิดีโอที่มีเนื้อหาผิดกฎหมายจำนวนมาก เช่น คลิปวิดีโอปราศรัยหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของ ตั้ง อาชีวะ หรือ นายเอกภพ เหลือรา เป็นต้น โดยในคลิปล่าสุดนี้เป็นการปราศรัยของ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ สุรชัย แซ่ด่าน อดีตนักโทษการเมือง อดีตคณะทำงานพรรคไทยรักไทย โดยปัจจุบันเป็นนักปราศรัยของนปช.และหนึ่งในแกนนำกลุ่มแดงสยาม ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อพฤหัสบดีที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา

ในช่วงแรกของการปราศรัยนายสุรชัย ได้โจมตีว่า ฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณทั้งอำมาตย์ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) และกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พยายามหาเรื่องรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนเสื้อแดง และระบอบทักษิณว่ากำลังแบ่งแยกประเทศเป็น “สปป.ล้านนา” ซึ่งนายสุรชัยอ้างว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูลแม้แต่น้อย

“ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่าเส้นตื้นและก็อย่าหาเรื่อง วันนี้มันหาเรื่องมันไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรไปเล่นรัฐบาล เรื่องข้าวก็ไม่ได้แล้ว เรื่องเขาบริหารก็ไม่ได้แล้ว เรื่องสุดซอยก็ไม่ได้แล้ว วันนี้ไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรมาหาเรื่องรัฐบาล พอได้เรื่องนี้คว้าเลยครับ คว้าเลย (หัวเราะ) เอาเรื่องแบ่งแยกดินแดน ไอ้รัฐบาลนี้แบ่งแยกดินแดน โดยเฉพาะท่าน มท.1 (นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ) โดนหนักขึ้นปราศรัยตรงนั้น ... ทีนี้ไอ้เทพเทือกมันใกล้จะจมน้ำแล้ว วันนี้หมาเน่าลอยมามันก็คว้าครับ เอาขึ้นมาตี มาเป็นเงื่อนไขที่จะล้มรัฐบาล” นายสุรชัยกล่าว

จากนั้นกล่าวต่อว่าอยากให้คนเสื้อแดงทั่วประเทศ ตั้ง สปป.ให้หมดทั่วประเทศ เช่น สปป.ปาย สปป.แม่ฮ่องสอน สปป.ดอยคำ สปป.ดอยปุย เพราะจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้ฝ่ายต้านระบอบทักษิณตกใจ เพราะ สปป.ย่อมาจาก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน ซึ่งไม่มีนามสกุล

“... ไม่เอาแล้วนามสกุล นามสกุลยาวประชาธิปไตยไม่เห็นหรือที่หมอเหวงชอบประจำ ทุกคำเลย ประชาธิปไตยอันมีอะไรเป็นประมุขนั่นแหละ นามสกุลยาว พวกเราที่ต่อสู้ทุกวันนี้ต่อสู้เพื่อให้ได้ ‘ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข’ ผมว่าอะไรมึงบ้าหรือเปล่า วันนี้ก็ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอยู่แล้ว ยังต่อสู้เพื่อให้เป็นประมุขต่อไปอีกยังไงวะ ก็มันเป็นอยู่แล้วอ่ะ (ปรบมือ) เอ้อ! ถ้าต่อสู้วันนี้เพื่อยกเลิกนามสกุลเอ้อยังพอฟังได้มั่ง แต่มันก็ไม่กล้าพูด กลัวติดคุก เพราะฉะนั้นอย่าไปพูด

“ผมน่ะไม่เคยหรอก เมื่อตั้งเวทีเสร็จพอเวทีจบก็ไม่เปิด ไอ้เพลงปิดท้ายเวทีที่เขาเปิด ไอ้เพลง xxx ก็ต้องเปิดฮะ คนเขามาถามว่าเอ้ออาจารย์ทำไมแดงสยามไม่เปิดเพลง xxx บอกไปว่าถามไอ้คนคุมเครื่อง มันบอกว่าแผ่นไม่ได้เอามา จบแค่นั้นเอง (หัวเราะ-ปรบมือ) ผิดกฎหมายที่ไหน ไม่ได้เอาแผ่นมาแล้วเปิดได้ยังไง จบ คือพูดตรงนี้ไม่ได้เอาใจข้าศึก แต่ข้าศึกมันไม่ชอบเราหรอก แต่พวกเราเองหมั่นไส้ ไอ้ห่า กูสู้กับนามสกุล แล้วมึงจะเอานามสกุลมาใส่อยู่ตลอดเนี่ย (หัวเราะ) กูจะเปลี่ยนนามสกุล ไม่ใช่สู้เอานามสกุลเดิม” แกนนำแดงสยามกล่าวยืนยัน

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์เสื้อแดงเผาเมือง พฤษภาคม 53 ด้วยว่า จริงๆ ในเวลานั้นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รวมถึงคนที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้มีความต้องการจะฆ่าคนเสื้อแดงเพียง 80-90 คน แต่ต้องการจะฆ่าถึง 2-3 หมื่นคน

จากนั้นนายสุรชัยยังกล่าวพาดพิงไปถึง “ชื่อโครงการในพระราชดำริแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี” และสถาบันเบื้องสูง ซึ่งข้อความดังกล่าวหมิ่นเหม่ว่าอาจจะเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างรุนแรง

อนึ่ง เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2556 นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ซึ่งในเวลาอายุ 70 ปี เพิ่งได้รับการพระราชทานอภัยโทษ และปล่อยตัวจากกรณีที่ศาลตัดสินให้จำคุก 7 ปี 6 เดือน จากกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหลังจากการปราศรัยบริเวณใกล้ท้องสนามหลวง โดยตำรวจจับกุมนายสุรชัยตามหมายจับของศาลอาญาเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 54 และ ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกเมื่อ 28 ก.พ. 55 ทั้งนี้จากการพระราชทานอภัยโทษดังกล่าวทำให้นายสุรชัยได้รับโทษจำคุกเพียง 2 ปีกว่าเท่านั้น จากโทษทั้งหมดคือ 7 ปีครึ่ง