xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อไทย” พล่านไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ อ้างไม่มีอำนาจตัดสินเลือกตั้ง 2 ก.พ.โมฆะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (ภาพจากแฟ้ม)
พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์คัดค้านศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเลือกตั้ง 2 ก.พ. ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องจากอาจารย์ธรรมศาสตร์เสนอ อ้างหลายองค์กรสมคบคิดล้มเลือกตั้ง จับผิดศาลลุกลี้ลุกลน ขยายเขตอำนาจไม่สิ้นสุด ยันไม่มีอำนาจวินิจฉัย โทษ กปปส.-ปชป.ขัดขวาง กกต.เกียร์ว่าง วอนจัดเลือกตั้งให้เสร็จๆ ก่อนชี้หน้าแหกปากพวกล้มประชาธิปไตย

วันนี้ (18 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรค นำโดย นายโภคิน พลกุล, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายภูมิธรรม เวชยชัย, พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ร่วมกันแถลงการณ์คัดค้านการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ว่า ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็น กรณีนายกิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอให้ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 ก.พ. 2557 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัย และคาดว่าจะมีคำวินิจฉัยในอีกไม่กี่วันข้างหน้านั้น

พรรคเพื่อไทยขอแถลงการณ์ว่า 1. ขอคัดค้านผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ไม่มีอำนาจที่จะส่งเรื่องดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ เพราะอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ก็ต่อเมื่อเห็นว่าบทบัญญัติใดของกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญเท่านั้น กรณีนี้จึงไม่อยู่ในอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ 2. เมื่อพิจารณาพฤติกรรมขององค์กรตามรัฐธรรมนูญหลายองค์กร ชี้ให้เห็นว่าการใช้ทฤษฎีสมคบคิด เพื่อมุ่งล้มการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 ตั้งแต่แรก 3. การล้มการเลือกตั้งด้วยกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกของคนในสังคมมากขึ้น เป็นการล้มล้างสิทธิของผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง

4. การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยเรื่องการเลือกตั้งโดยไม่มีอำนาจ นอกจากจะเป็นการไม่เคารพรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรมแล้ว ยังเป็นการขยายเขตอำนาจของตนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จะเกิดวิกฤตศรัทธาต่อระบบยุติธรรมของประเทศอย่างร้ายแรง 5. พรรคเพื่อไทยยอมรับต่อการกระทำขององค์กรตามรัฐธรรมนูญเฉพาะที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายเท่านั้น จะไม่ยินยอมต่อการกระทำใดอันเป็นการนอกเหนือรัฐธรรมนูญและกฎหมาย 6. พรรคจะยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยที่เป็นของประชาชน ไม่ใช่อำนาจอธิปไตยที่เป็นของศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ

7. การเลือกตั้งที่มีปัญหาเกิดจากการขัดขวางของกลุ่ม กปปส. และคนของพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงการละเลยต่อหน้าที่ของ กกต. ดังนั้น หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 เป็นโมฆะ จะถือเป็นบรรทัดฐานที่เลวร้ายของประเทศไทย และต่อระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย เพราะหากพรรคการเมืองใดรู้ว่าตนจะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งก็จะออกมาขัดขวางการเลือกตั้ง เพื่อทำให้การเลือกตั้งมีปัญหา แล้วให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ 8. เหตุผลที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่ว่าเรื่องการรับสมัคร 28 เขตเลือกตั้งที่ยังไม่สามารถทำได้ การเปิดรับสมัคร ส.ส.ไม่เที่ยงธรรม การเปลี่ยนสถานที่รับสมัครโดยไม่แจ้งให้ทราบ หรือข้ออ้างที่ว่าการนับคะแนนเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 ให้รอไปก่อน โดยที่ยังมีการเลือกตั้งไม่ครบถ้วนนั้น พรรคเห็นว่าปัญหาต่างๆ ดังกล่าว มีกฎหมายรองรับในการแก้ปัญหาได้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะอ้างว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะได้

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่า ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจพิจารณาเรื่องดังกล่าว และถือเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจ พรรคจึงขอคัดค้านการกระทำดังกล่าว โดยขอให้ กกต.ได้จัดการเลือกตั้ง ส.ส.ให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์โดยเร็วต่อไป สำหรับการดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีนี้เป็นไปอย่างลุกลี้ลุกลน มีพิรุธ เช่น การสั่งให้รัฐบาลทำคำชี้แจง ทั้งๆ ที่รัฐบาลไม่มีหน้าที่ และบังคับให้ต้องส่งคำชี้แจงมายังศาลภายในเวลา 16.30 น.ของวันจันทร์ที่ 17 มี.ค. 2557 ทั้งๆ ที่ส่งเอกสารให้รัฐบาลเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2557 และแม้รัฐบาลจะขอเลื่อนการชี้แจงออกไปถึง 17.00 น.ก็ไม่ยอม สรุปคือให้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อทำคำชี้แจง

นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการเคลื่อนไหวของ 6 องค์กรอิสระ เป็นเพียงฉากหนึ่งของขบวนการโค่นล้มประชาธิปไตย ซึ่งมีมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง จากการรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 เพียงแต่เปลี่ยนตัวเล่นให้ดูสมจริงสมจังมากขึ้นเท่านั้น จากพฤติกรรมและท่าทีของ 6 องค์กร ที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กกต.นั้นเป็นที่น่าเคลือบแคลงเป็นอย่างมาก ผู้ที่ทำผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง ทั้ง กปปส. และพรรคประชาธิปัตย์ที่บอยคอตและขัดขวางการเลือกตั้ง แต่ กกต.กลับไม่ดำเนินการใดๆ เลย แต่กับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยซึ่งปฏิบัติตามกฎเกณฑ์กติกาของระบอบประชาธิปไตยและกฎหมายทุกประการ กลับถูกจ้องเล่นงาน และหาเรื่องโจมตีได้ทุกเรื่อง เหมือนจะเป็นการสร้างเงื่อนไขเพื่อทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ เพื่อหาทางลงให้ กปปส. และเปิดทางให้พรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้ง หรือทำให้เกิดสุญญากาศ เพื่อนำไปสู่การใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 7 หรือการรัฐประหารต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะ พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างไร นายโภคินตอบว่า คงต้องมีการหารือกันต่อไป แต่ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยออกมาเราก็เพียงแต่แสดงจุดยืนก่อนว่า สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังทำอยู่นั้นมันไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ทุกศาลเวลามีคนไปฟ้อง ก็จะส่งคำร้องให้อีกฝ่ายเพื่อทำคำให้การส่งกลับไปให้ศาล ซึ่งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. ก่อนหน้านี้นั้น ส.ส. และ ส.ว. ไม่ได้ทำคำให้การกลับไปก็เพราะเขาเห็นว่าสิ่งที่ศาลกำลังทำอยู่นั้นศาลไม่มีอำนาจ ดังนั้นอยากถามกลับด้วยว่า สมมติว่าถ้ามีคนเอาเรื่องที่ร้องต่อศาลไม่ได้ไปร้อง แล้วศาลรัฐธรรมนูญก็รับเรื่องนั้นไว้ หรือหากศาลทำผิดกฎหมายเสียเอง แล้วพวกท่านจะทำอย่างไร คำวินิจฉัยที่ผูกพันทุกองค์กรนั้น ต้องเป็นคำวินิจฉัยโดยชอบใช่หรือไม่

ด้าน พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยพูดว่าไม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญทำผิดรัฐธรรมนูญเสียเองย่อมไม่มีผลผูกพันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 216 ซึ่งจะทำให้ไม่มีผลในทางปฏิบัติ


กำลังโหลดความคิดเห็น