“สมชัย” เตรียมเสนอที่ประชุม กกต.ให้พิจารณาผู้สมัคร ส.ส.พท.ออกช่อง 11 เข้าข่ายผิด กม.เลือกตั้ง พร้อมฟันช่อง 11 ยังดื้อปล่อยให้คน พท.จ้อ หลัง กกต.เรียกอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เตือนแล้ว ระบุข้อเท็จจริงชัดไม่ต้องสอบเพิ่ม ตีกันอธิบดีกรมกร๊วกอย่าอ้างไม่รู้กฎหมาย พร้อมจี้สำนักนายกฯ ส่งหลักฐาน “ปู” ทัวร์เหนือ-อีสานอิงหาเสียงใน 15 วัน พร้อมเรียกนายกฯ แจง คาด 1 เดือนได้ข้อสรุป
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ในวันนี้ (13 มี.ค.) ตนจะนำประเด็นที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกรายการที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กระเสียงแห่งประเทศไทย (ช่อง 11) ที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากอยู่ในช่วงที่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง เข้าหารือในที่ประชุม กกต.เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายชี้ว่าเรื่องดังกล่าวมีความผิดและมีโทษอย่างไรหรือไม่ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่ที่มติของที่ประชุม กกต. แต่ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องดังกล่าวคงไม่ต้องสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม เพราะข้อเท็จจริงปรากฏในผังรายการแล้ว และบางรายการก็เกิดขึ้นภายหลังจากที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ได้เข้ามาพบ กกต. และกกต.ก็ได้บอกถึงแนวทางการดำเนินการในช่วงที่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงก็เพียงพอแล้ว
“การดำเนินการดังกล่าวดูแล้วไม่เหมาะสม เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อเข้าสู่ช่วงที่มีการเลือกตั้ง สื่อทุกสำนักก็ระมัดระวังในการออกอากาศเพื่อไม่ให้เป็นการได้เปรียบหรือเสียเปรียบต่อคะแนนนิยมของผู้สมัครรายใดรายหนึ่ง อีกทั้งช่อง 11 อยู่ในฐานะเป็นสื่อของรัฐ ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องดูแลการออกอากาศอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และจะอ้างว่าเป็นการเช่าเวลาของเอกชนไม่ได้ เนื่องจากสถานีเป็นผู้วางกรอบนโยบายในการออกอากาศ และจะบอกว่าไม่รู้ข้อกฎหมายไม่ได้”
นายสมชัยยังกล่าวต่อถึงกรณีที่นายจเร ตันฑ์พรชัย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.สระบุรี พรรคเพื่อไทย ไปยื่นฟ้อง กกต.ต่อศาลปกครอง เพื่อให้ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งในเขต 3 จ.สระบุรี ว่า ข้อเท็จจริงนั้น กกต.ยังไม่สามารถประกาศผลคะแนนได้เนื่องจากการเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ และเชื่อว่าศาลปกครองก็ไม่น่าจะรับคำร้อง เพราะคะแนนการเลือกตั้งยังไม่มีการประกาศ หากประกาศผลไปจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อการเลือกตั้งที่เหลืออยู่ การที่ กกต.ยังไม่ประกาศผล เป็นการรักษาการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ไว้ไม่ให้เป็นโมฆะ อีกทั้งเชื่อว่าจะเป็นผลดี ไม่ทำให้ถูกนำไปเป็นหลักฐานให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะได้
นายสมชัยกล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องสืบสวนสอบสวนที่สำคัญที่ กกต.กำลังพิจารณาอยู่ คือ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่เขต 3 ที่มีผู้ร้องคัดค้านว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (เจ๊แดง พี่สาว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ที่ได้รับการเลือกตั้งมีการขนคนไปลงคะแนน เรื่องนี้ กกต.อยู่ระหว่างพิจารณาหลักฐานเพื่มเติม เนื่องจากดีวีดีที่บันทึกเหตุการนั้นมีเข้ามาเพิ่มเติม และหากว่าหลักฐานที่ได้มาไม่เพียงพอก็จะขอให้ทางจังหวัดสืบสวนเพิ่มเติม และคำร้องนี้ยังมีเวลาในการพิจารณาถึงเดือน พ.ค. และหากเห็นว่ามีความผิดก็จะส่งไปยังศาลอุทธรณ์ในภาคนั้น แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของ กกต.ว่ามีมติออกมาอย่างไร
ส่วนอีกเรื่องเป็นกรณีคำร้องคัดค้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ใช้ทรัพยากรของรัฐหาเสียงเลือกตั้งในการลงพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต.ขอขยายเวลาพิจารณาอีก 15 วัน เนื่องจากต้องรอหลักฐานที่เกี่ยวกับผู้ร่วมเดินทาง กำหนดการค่าใช้จ่ายต่างๆ จากสำนักนายกรัฐมนตรี ที่อ้างว่าไม่สามารถเข้าไปนำหลักฐานในทำเนียบรัฐบาลออกมาได้ เพราะมีการชุมนุมปิดล้อม
“การสืบสวนสอบสวนของ กกต.ต้องมีกรอบระยะเวลา และเราก็ให้ความเป็นธรรมในการขยายเวลาให้แล้ว และคิดว่าครั้งนี้จะเป็นการขยายเวลาครั้งสุดท้าย เนื่องจากทุกอย่างต้องมีกรอบเวลา ถ้าไม่ส่งหลักฐานมาเพิ่มก็จะพิจารณาเท่าที่มี หากปล่อยให้อ้างเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เท่ากับว่ารัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศได้”
นายสมชัยกล่าวว่า หลังจากนี้อาจจะเชิญนายกฯ หรือเลขาฯ นายกฯ มาชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังการรวบรวมเอกสารหลักฐาน ซึ่งคาดว่าอีก 1 เดือนข้างหน้าน่าจะได้ข้อสรุป
