“สมชัย” จี้ช่อง 11 จัดผังรายการไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบเลือกตั้ง พร้อมเผยสั่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่งข้อมูลละเอียดยิบนายกฯทัวร์นกขมิ้น ระบุหลักฐานที่ให้มาสมบูรณ์แค่ 20 เปอร์เซ็นต์ ด้านเลขาฯ กกต.เผยกรมประชาฯ รับปากจะดูแลรายละเอียดเนื้อหารายการให้เป็นกลางมากขึ้น ด้านผู้แทนเลขาธิการนายกฯ แจงขอเวลาเอาเอกสารออกจากทำเนียบ ก่อนส่ง กกต.พร้อมยันนายกฯ หาเสียงนอกเวลาราชการ ใช้รถส่วนตัว
วันนี้ (26 ก.พ.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงการเชิญอธิดีกรมประชาสัมพันธ์ และ ผอ.ช่อง 11 มาชี้แจงกับ กกต.ว่า แม้รองอธิบดีจะมาแทนอธิบดีที่ติดราชการ แต่ กกต.ก็ยังยืนยันขอพบอธิบดี เพราะเป็นผู้กำกับนโยบาย โดยนัดหมายในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง ส่วนวันนี้ กกต.ได้แลกเปลี่ยนปัญหาการทำงานของสื่อของรัฐ โดยตั้งข้อสังเกต 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน เนื่องจากพบว่ามีหลายรายการสนทนา หรือสกู๊ปข่าว มีเนื้อหาที่อาจไม่ถูกต้อง เช่น ประเด็นชาวนาไม่ได้เงินจำนำข้าว เพราะ กกต.ไม่อนุมัติซึ่งไม่ถูกต้อง จึงอยากให้ช่อง 11 มีความละเอียดรอบคอบในการนำเสนอ
2.การนำเสนอเนื้อหารายการสนทนา ขอให้ดูสาระที่สนับสนุนการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.ตามช่วงเวลา ว่าประชาชนต้องรู้อะไรบ้าง เช่น ช่วงการลงทะเบียนใช้สิทธินอกเขต หรือบทบาทหน้าที่ ส.ว.เพื่อให้ประชาชนมีเกณฑ์ตัดสินใจเลือก ส.ว.อย่างเหมาะสม แต่ที่ผ่านมาช่อง 11 กลับเสนอตามกระแสความขัดแย้งทางการเมือง เช่น เรื่อง 28 เขต ควรเป็นพระราชกฤษฎีกา หรือประกาศ กกต.โดยให้ฝ่ายหนึ่งมาพูดฝ่ายเดียว จนกลายเป็นว่า กกต.ไม่ปฏิบัติหน้าที่ จึงควรพูดเรื่องที่เป็นประโยชน์มากกว่าการสร้างความขัดแย้งก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อองค์กรอิสระ ควรเชิญแขกที่มีความเป็นกลาง มีหลายมุมมองแนวคิด ไม่ใช่แนวทางใดแนวทางหนึ่งเท่านั้น
3.ระวังการนำเสนอข่าวช่วงเลือกตั้ง หรือวันลงคะแนนที่จะมีต่อไปในวันข้างหน้า เนื่องจากวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา มีรายการให้ความเห็นทางการเมือง ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อความได้เปรียบเสียเปรียบทางคะแนนเสียงของพรรคการเมือง โดยทาง ผอ.ช่อง 11 ก็ขออภัยในเหตุการณ์ในอดีต และรับปากว่าจะไม่ให้เกิดอีกในอนาคต
“ผมเองบอกว่าควรมีการปรึกษา ออกแบบร่วมกันให้มีกลไกหลักประกันไม่มีเนื้อหาที่เป็นปัญหาอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งจากนี้ไปรายการสดทุกอย่างควรคำนึงเนื้อหาที่เป็นประโยชน์มากกว่าการก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม” นายสมชัยกล่าว
ส่วนกรณีรองเลขานายกฯ มาชี้แจง กกต.จากกรณีคำร้องการออกตรวจราชการในพื้นที่ หรือทัวร์นกขมิ้นของนายรัฐมนตรี ซึ่ง กกต.ขอไปตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.จนปัจจุบันการจัดส่งยังไม่ครบถ้วน สมบูรณ์เพียง 20% ทั้งที่ขอเอกสารพื้นฐาน แต่อ้างว่าเอกสารหลายอย่างอยู่ในทำเนียบ กกต.จึงให้เวลาอีก 15 วันในการส่งมาให้ กกต.ซึ่งสิ่งที่ กกต.ต้องการจะสอบถามคือการไปตรวจราชการเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือไม่
โดยให้ส่งรายละเอียดค่าเครื่องบิน ค่ารถ ค่าที่พัก ค่าอาหารของทุกฝ่ายที่ร่วมคณะ ทั้งข้าราชการการเมืองหรือประจำ รวมทั้งผู้ติดตามไป ถึงแม้จะเป็นเครื่องบินทหารก็ถือว่าต้องมีค่าใช้จ่ายการบิน และต้องพิจารณาว่ามีการดำเนินการในลักษณ์ใกล้เคียงการหาเสียงหรือไม่ แม้จะนอกเวลาราชการก็ตาม เพราะอาจก่อเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทางคะแนนเสียง โดยขณะนี้ข้อมูลจากสื่อยังน้อยอยู่ กกต.จึงได้ขอคลิปวิดีโอต่างๆ จึงขอให้สื่อต่างๆ ที่ กกต.ขอไปส่งมาให้ด้วย
ด้าน นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม กกต.วันนี้ (26 ก.พ.) ว่ากรณีรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และ ผอ.ช่อง 11 เข้าชี้แจง เรื่องการทำหน้าที่ของสื่อในช่วงการเลือกตั้ง ว่าทางอธิบดีได้มอบหมายให้รองอธิบดี และ ผอ.ช่อง 11 เข้าชี้แจงแทน เนื่องจากติดภารกิจไปตรวจการก่อสร้างสถานีวิทยุเฉลิมพระเกียรติที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดยในการประชุม กกต.สัปดาห์หน้า ทางอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์จะมาชี้แจงด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามการชี้แจงของรองอธิบดีในวันนี้ เป็นการพูดคุยทำความเข้าใจว่าจะทำอย่างไรที่จะส่งเสริมประชาธิปไตยและการรณรงค์จัดการเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ก็ได้ขอให้ทางสถานีระมัดระวังกับการที่มีนักจัดรายการบางรายการแสดงความคิดเห็น ที่ก่อให้เกิดการกระทบกระเทือนกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ทาง ผอ.ช่อง 11 ก็ได้ชี้แจงว่าการออกอากาศในวันที่ 2 ก.พ.ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง ส.ส.เป็นรายการสด ซึ่งไม่สามารถเซ็นเซอร์ได้ทัน แต่จากนี้ไปทางช่อง 11 ก็รับที่จะไปดูแลรายละเอียดมากขึ้น เพื่อคำนึงถึงความเป็นกลางให้มากที่สุด
ส่วนที่ กกต.เชิญผู้แทนของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงกรณีมีการรัองเรียนว่านายกรัฐมนตรีใช้ทรัพยากรของรัฐไปหาเสียงเลือกตั้ง ระหว่างตรวจราชการ ว่า ทางผู้แทนที่มาชี้แจงได้นำเอกสารเป็นกำหนดการตรวจราชการของนายกรัฐมนตรีมามอบให้กับ กกต.แต่ยังขาดเอกสารในบางเรื่อง โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเอกสารดังกล่าวยังติดอยุ่ภายในทำเนียบ และขณะนี้ถูกปิดล้อม จึงขอเวลาที่จะไปนำออกมา หากได้เอกสารจะรีบส่งให้ กกต.โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ นายภุชงค์ ระบุว่า นายสมชัยได้ขอรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ร่วมเดินทาง และงบประมาณในการเลี้ยงรับรองในแต่ละจังหวัดที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ อย่างไรก็ตามผู้แทนสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการเดินทางไปราชการของนายกรัฐมนตรีเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งได้รับคำจากในพื้นที่ล่วงหน้า และนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือกำชับ ภายหลังการยุบสภาว่าจะไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐในการลงพื้นที่ รวมถึงในข้อเท็จจริงเมื่อลงพื้นที่ปฎิบัติราชการพอหลังเวลาราชการ การหาเสียงของนายกฯไม่มีการขึ้นเวทีปราศรัย และรถที่ใช้ก็เป็นรถส่วนตัว ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรมด้วย
นายภุชงค์ ยังเปิดเผยว่าในการประชุม กกต.วันพรุ่งนี้ ที่ประชุมจะได้มีมติเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.โดยผู้สมัครในแต่ละจังหวัดจะใช้จ่ายไม่เท่ากัน เนื่องจาก กกต.จะยึดหลักจำนวนของผู้มีสิทธิ์ในแต่ละพื้นที่ เช่น กทม.กับ ระนอง ก็มีความต่าง ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการแนะนำตัวก็ต่างกัน โดยทางสำนักงานก็ได้เตรียมแนวทางให้ กกต.พิจารณาถึง 3-4 แนวทาง
