xs
xsm
sm
md
lg

“ชัชชาติ” เตรียมคุยหาแหล่งเงิน จัดความสำคัญตามแผน เหน็บบางส่วนสมหวังคว่ำ พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ รมว.คมนาคม (ภาพจากแฟ้ม)
รมว.คมนาคม รักษาการ ตะแบงเหมือนเดิมไม่ได้กู้เข้างบประมาณ แต่มาจ่ายโครงการ ย้อนถ้า พ.ร.บ.กู้คว่ำอย่างนั้น พ.ร.บ.หนี้สาธารณะก็ผิดด้วย เตรียมหันมาใช้วิธีคุยกับ สบน.หาแหล่งเงิน พร้อมจัดลำดับความสำคัญโครงการ ปัดเสียความรู้สึก แค่ขอโทษทำให้ผิดหวัง เหน็บบางส่วนคงสมหวัง โอดใช้วิธีเดิมๆ 20 ปีก็ไม่เสร็จ ปัดแผนลงชิงผู้ว่าฯ กทม.อ้างยังไม่มีใครทาบทาม

วันนี้ (12 มี.ค.) ที่เทศบาลนครขอนแก่น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า ยังไม่เห็นคำวินิจฉัยที่ชัดเจน ในส่วนกระทรวงคมนาคมยังต้องดูรายละเอียดของคำวินิจฉัยอีกครั้ง ส่วนประเด็นคำวินิจฉัยจะเป็นอย่างไร คงต้องให้ประชาชนและผู้รู้เป็นผู้ตัดสิน หากกังวลประเด็นเงินแผ่นดินที่จะเป็นหนี้สาธารณะ ยืนยันว่าเราไม่ได้กู้เข้างบประมาณ แต่กู้มาจ่ายโครงการ ดังนั้น ถ้า พ.ร.บ.นี้ผิดที่ประเด็นเงินแผ่นดิน พ.ร.บ.หนี้สาธารณะที่ใช้มากว่า 20 ปีก็น่าจะผิดด้วย ซึ่งตรงนี้นักกฎหมายจะต้องไปคุยกัน

ในส่วนของของกระทรวงคมนาคมเมื่อตัดสินมาแล้วคงต้องมองไปที่อนาคตทำโครงการพวกนี้ต่อ รัฐบาลใหม่มาต้องดำเนินการต่อ และ 53 โครงการนี้ก็จะไม่หยุด เพราะถือว่า พ.ร.บ.นี้ เป็นแค่การหาแหล่งเงิน ซึ่งก็รู้ตัวตั้งแต่ไปให้การว่ามีปัญหาแน่นอน ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจึงได้เตรียมการโดยได้คุยกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือ สบน.เรื่องแหล่งเงินเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการเรียกประชุมเพื่อลำดับความสำคัญจัดทำแผน เผื่อรัฐบาลใหม่ได้นำไปใช้ว่าจะหาแหล่งเงินจากไหน และเชื่อว่าประชาชนยังรอโครงการนี้อยู่

“ที่ผ่านมาในเรื่อง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ผมดูอย่างรอบครอบแล้ว มีกฤษฎีกาเป็นผู้ดูผู้ร่าง มีผู้เชี่ยวชาญผ่านสองสภา เราดูอย่างดีที่สุดแล้ว แต่อาจจะมีความเห็นแตกต่างกันในบางประเด็น จากนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ ที่จะทำเป็น พ.ร.บ.หรือไม่ ขณะที่กระทรวงคมนาคมคงมองในกรอบเดิมก่อนโดยใช้วิธีการเดิมๆ ที่เคยทำมา ทั้ง พ.ร.บ. หนี้สาธารณะ งบประมาณขาดดุล อาจทำได้บางโครงการ โดยจัดลำดับความสำคัญ แต่โครงการจะไม่หยุด ส่วนใหญ่อยู่ในกระบวนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมก็เดินหน้าต่อ ซึ่งคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้พูดถึงประเด็นโครงการ แต่เป็นเรื่องของเทคนิคและเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นหลัก โดยโครงการนี้เป็นยุทธศาสตร์ของประเทศ และมีหลายประเทศนำเอาไปเป็นแบบอย่างดำเนินการ” นายชัชชาติ กล่าว

เมื่อถามว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลอีก 53 โครงการที่วางไว้จะเดินหน้าต่อใช่หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า คงจะต้องเดินหน้าต่อเพราะโครงการไม่ได้ถูกปฏิเสธ แต่เป็นเรื่องของวิธีการมากกว่า ซึ่งต้องรอรัฐบาลใหม่มาตัดสินใจว่าจะหาแหล่งเงินจากไหน โดยเราอาจจะมีคำแนะนำในวิธีการที่พอจะเป็นไปได้ และโครงการไหนที่จะต้องชะลอไว้ก่อน เราต้องมองอนาคตอะไรที่เกิดขึ้นแล้วต้องเป็นบทเรียนต้องมาหาทางแก้ และเดินหน้าต่อ

เมื่อถามว่า เสียความรู้สึกกับคำตัดสินหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องกล่าวคำขอโทษประชาชน ซึ่งทุกจังหวัดที่ตนเดินทางลงไปทุกพื้นที่ ประชาชนอยากเห็นโครงการเหล่านี้ และคิดว่าประชาชนก็ผิดหวัง แต่ก็คงมีบางส่วนที่อาจจะสมหวังที่ พ.ร.บ.นี้ไม่ผ่าน เมื่อถามว่าการเมืองเล่นกันแรงไปหรือไม่ที่ทำให้ผลประโยชน์ประชาชนไม่เกิด นายชัชชาติ กล่าวว่า จะไปพูดว่าศาลเล่นการเมืองไม่ได้ และเราคงต้องน้อมรับคำวินิจฉัยของศาล วันนี้ประเด็นที่กังวลคือเรื่องความมั่นใจ เพราะหลักสำคัญของโครงการนี้เป็นการสร้างความมั่นใจ ว่าใน 7 ปีนี้ จะมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้น นักลงทุนทั้งต่างชาติและในประเทศ การกระจายโอกาสชัดเจน แต่เมื่อ พ.ร.บ.นี้ไม่ผ่าน ก็จะมีผลว่าเมืองไทยจะเอาอย่างไร จะทำจริงหรือไม่ ถ้าย้อนกลับไปวิธีเดิมๆ 20 ปีก็จะไม่เสร็จ ดังนั้นต้องหาทางแก้ และอธิบายกันต่อไป เรื่องนี้ไม่ได้เสียหายแค่คมนาคม แต่เป็นภาพเศรษฐกิจภาคธุรกิจด้วย ทำเสียโอกาส

เมื่อถามว่า จะเปลี่ยนแผนไปสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือไม่ นายชัชชาติ หัวเราะ พร้อมกับกล่าวว่า รอดูอนาคต แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครทาบทาม


กำลังโหลดความคิดเห็น