“พล.ท.สกล” ยันสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น ประชาชนรู้ทันโจร หยุดสนับสนันไม่ต้องการความรุนแรง อยากพัฒนา ไม่ห่วงหากถูกย้ายพ้นแม่ทัพภาคที่ 4 เหตุมีกรอบยุทธศาสตร์ในการทำงานอยู่แล้ว
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) วันนี้ (12 มี.ค.) พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงดำรงความมุ่งหมายที่จะใช้วิธีการก่อการร้ายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นปกติที่กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามที่จะแยกชาวบ้านออกจากกัน และยุยงให้เกิดการฆ่าฟันในกลุ่มของประชาชนเพื่อขยายให้เป็นเรื่องใหญ่ โดยต้องการสร้างเหตุเพื่อต่อรองทางการเมืองต่อไป ในช่วงนี้เป็นที่น่าดีใจว่าประชาชนในพื้นที่ได้รู้เท่าทันเรื่องราวต่างๆ และได้มีการปรึกษาหารือร่วมกันมาโดยตลอด สถานการณ์ความรุนแรงขณะนี้ถือว่าทรงตัว แต่ที่ดีขึ้นคือความเข้าใจของประชาชนต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่ไม่ได้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรง รวมถึงส่วนราชการทุกภาคส่วนได้เข้าถึงประชาชนแล้ว และรับทราบปัญหาของประชาชน
ในขั้นต้นของการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เน้นย้ำให้กระทรวง ทบวง กรม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ผลักดันโครงการพัฒนาต่างๆ ที่จะดูแลประชาชนให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการปรับโยกย้ายตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 จะกระทบต่อการสานต่องานในพื้นที่หรือไม่นั้น พล.ท.สกลกล่าวว่า ต้องรอคำสั่งอย่างเป็นทางการก่อน แต่การทำงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ทำงานภายใต้กรอบนโยบายของรัฐบาลโดยมี กอ.รมน.ซึ่งได้มีการกำหนดกรอบยุทธศาสตร์ในการทำงานให้ กอ.รมน.ภาค 4 สน.และ ศอ.บต.เข้าไปดำเนินการ โดยมี ผบ.ทบ.กำกับดูแลและสั่งการรายละเอียด ทั้งนี้ไม่ได้มีความน่าหนักใจในเรื่องความต่อเนื่อง เพราะการบริหารจัดการต่างๆ ยังคงอยู่ภายในการควบคุมกำกับดูแลของ ผบ.ทบ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องของการเมืองที่มีการปลุกระดมแบ่งแยกดินแดนส่งผลต่อกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นำไปใช้เป็นเหตุในพื้นที่ด้วยหรือไม่ พล.ท.สกลกล่าวว่า ความคิดเห็นทางการเมืองสามารถมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่สิ่งสำคัญจะต้องไม่นำไปสู่ความรุนแรง พร้อมทั้งไม่ผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นที่รับรู้กันว่ามีการใช้ความรุนแรงและก่อการร้ายกับผู้บริสุทธิ์ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองของตนเอง เป็นเรื่องที่โลกยอมรับไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่ทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มองว่าอีกเมื่อไหร่จะเกิดแสงสว่างปลายอุโมงค์ พล.ท.สกลกล่าวว่า ประชาชนเรียกร้องแสงสว่างปลายอุโมงค์มาโดยตลอดและอยากเห็นความสงบสุขในพื้นที่ หลายภาคส่วนจะต้องช่วยกัน โดยจะต้องหยุดการก่อการร้ายให้ได้ ตราบใดที่ยังมีการกระทำความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์โอกาสที่จะมีความสุขร่วมกันนั้นก็ยังต้องต่อสู้ต่อไป แต่สิ่งที่น่ายินดีในขณะนี้นั้น ประชาชนตระหนักว่าเหตุความรุนแรงได้ขัดขวางชีวิตเขาอย่างไรบ้าง และไม่ได้ให้การสนับสนุน โดยแสดงออกอย่างเปิดเผยในระดับหมู่บ้านและระดับจังหวัดว่าไม่ต้องการความรุนแรงอีกต่อไป และต้องการพัฒนา
สำหรับตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่อาจจะมีการสับเปลี่ยนในช่วงนี้จะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่นั้น พล.ท.สกลกล่าวว่า กอ.รมน.ภาค 4 สน.เป็นส่วนของการนำนโยบายไปปฏิบัติ สำหรับตำแหน่งเลขาธิการ สมช.นั้นอยู่ในระดับรัฐบาล ไม่ว่านโยบายจะมาอย่างไร ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ก็จะรับมาจาก กอ.รมน. ซึ่งเป็นคนละช่องทางกับ สมช. และไม่มีผลกระทบกัน
