ผบ.ทบ.ลงพื้นที่เขาพระวิหารให้กำลังใจ จนท. สั่งทหารระวังตัวทำงานพื้นที่ภาคใต้

“บิ๊กตู่” ควง “ยุทธศักดิ์” เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลชายแดนไทย-เขมรด้านเขาพระวิหาร เผยให้มวลชนเข้าพื้นที่ได้บางจุด ขณะเดียวกัน กำชับทหารระมัดระวังในการปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ หลังโจรลอบระเบิดอีโอดี พร้อมให้คุมเข้มกันพื้นที่ห้ามประชาชน-สื่อเข้าจุดเกิดเหตุ จัดชุดลาดตระเวนคุ้มครองครูช่วงเปิดเทอม

ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก วันนี้ (31 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางลงพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมคณะ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการเดินทางไปตรวจเยี่ยมกองกำลังต่างๆ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ พร้อมทั้งให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และกำชับให้กำลังพลดูแลประชาชนในพื้นที่ ให้เกิดความอบอุ่นใจ นอกจากนี้จะกำชับให้กำลังพลได้ระมัดระวังในการปฏิบัติการในเรื่องของความปลอดภัย รวมถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ในตอนนี้สถานการณ์ยังปกติ อย่างไรก็ตาม เรามีความพร้อมทั้งแผนป้องกันชายแดน แผนเผชิญเหตุ และแผนดูแลอพยพประชาชน รวมถึงแผนพิทักษ์ส่วนหลัง ตลอดจนการควบคุมการจราจร ซึ่งทุกกองกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนได้ดำเนินการอยู่แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกลุ่มธรรมยาตราที่จะขึ้นไปปักหลักชุมนุมในพื้นที่ว่า จะอนุญาตให้เข้าได้เป็นบางจุดเท่านั้น ซึ่งหากเป็นการเคลื่อนไหวของประชาชนก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเป็นผู้ดูแลผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดให้ และบางพื้นที่ไม่สามารถให้เข้าไปได้เพราะจะกีดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหาร และถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็จะอันตราย

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ก่อความไม่สงบ ลอบวางระเบิดสังหารชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ว่า ในส่วนของเครื่องมือที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเรามีการจัดหาอบยู่แล้วตามห้วงระยะเวลา ซึ่งก็ขอให้เข้าใจว่ามีโอกาสพลาดได้ เพราะเป็นการใช้เครื่องมือและความสามารถของกำลังพล ในขณะเดียวกัน ผู้ก่อเหตุได้พัฒนาการก่อเหตุขึ้นไปเรื่อยๆ เราก็ได้มีการกำชับกำลังพลให้มีความระมัดระวัง พร้อมทั้งปิดกั้นพื้นที่ให้มีความปลอดภัย และกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่ได้เกิดเหตุอย่างเด็ดขาด ยกเว้นเจ้าหน้าที่ โดยที่ผ่านมามักมีประชาชนและผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปในจุดที่เกิดเหตุ ตนอยากขอร้องว่าอย่าเข้าไปเพราะจะทำให้เกิดอันตราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในขณะนั้นจะทำงานไม่สะดวก ส่วนค่าเสี่ยงภัยของเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดนั้นทางกองทัพบกได้ดูแลอยู่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี หากจะต้องมีการเพิ่มค่าเสี่ยงภัยขึ้นนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเมื่อไร

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ตนขอชื่นชมเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดทุกนาย เพราะการทำงานของเขามีความเสี่ยงสูง และเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอยู่แล้ว ชุดอีโอดีมีทั้งทหารและตำรวจที่มีผลงานปรากฏมากมาย โดยเฉพาะ พล.ต.ท.แชน วรงคไพสิฐ รองสารวัตรชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นราธิวาส ที่ได้ทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุด สิ่งไหนก็ตามที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเทคโนโลยีชั้นสูงก็มีโอกาสพลาดได้เหมือนกัน ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เราจึงต้องดูแลกำลังพลที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด ทั้งนี้ เครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยเหลือกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่ เราได้มีการจัดซื้อเพิ่มเติมตามลำดับ แต่ขอย้ำว่าไม่มีอะไรที่ป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะเวลาที่จะสามารถเกิดเหตุได้ โดยทางตำรวจและทหารก็รู้ดี อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งไม่ได้หวาดกลัว ตนขอให้กำลังใจ และกำชับกำลังพลให้ระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ผบ.ทบ.กล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยครูและนักเรียน ในช่วงเปิดเทอม ว่าเราได้เตรียมการไว้หมดแล้ว ได้สั่งกำชับให้หน่วยในพื้นที่เข้าไปดูแลรวมทั้งไปลาดตระเวน และเข้าทำความเข้าใจกับครูให้ปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัยที่เริ่มจากที่บ้าน ระหว่างทาง และโรงเรียน โดยมีการจัดแบ่งกำลังพลออกเป็น 3 ส่วน เพื่อรับผิดชอบในพื้นที่ต่างๆ ถ้าพื้นที่ไหนมีความเสี่ยงมากก็เป็นหน้าที่ทหาร ถ้าความเสี่ยงน้อยก็เป็นหน้าที่ของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) หรืออาสารักษาดินแดน (อส.) ส่วนพื้นที่ที่มีเหตุการณ์กลางๆ ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ เราก็ต้องมาแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบที่ชัดเจน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายปี 2557 ที่เน้นปฏิบัติการเชิงรุก และบังคับใช้กฎหมายให้มากขึ้น