“แม้ว” เล่นเกมแรง ถล่ม ป.ป.ช.-ศาล เร่งปิดฉากเร็วขึ้น!!

ผ่าประเด็นร้อน

หากเปรียบความเคลื่อนไหวของ เครือข่ายทักษิณ ชินวัตร ในเวลานี้ก็คงไม่ต่างจาก หนังไทยในยุคโบราณในช่วงท้ายของเรื่อง ที่บรรดาตัวโกงทั้งหลายทั้งที่เคยซ่อนตัวอยู่ ทำทีเป็นตัวดี รวมทั้งตัวร้ายที่มีอยู่ทั้งหมดต่างออกมาเผยตัวแสดงธาตุแท้ออกมาให้เห็น เพื่อที่จะถูกกวาดออกไปในคราวเดียวกัน และที่สำคัญเรื่องราวก็กำลังใกล้จบเต็มทีแล้ว

สภาพของระบอบทักษิณที่กำลังแสดงฤทธิ์เดช ก็ดิ้นรนเอาตัวตัวรอดในช่วงท้าย และกำลังทยอยเปิดโฉมหน้าออกมาให้เห็น ประเภทที่บางคนเคยเม้มซ่อนงำเอาไว้ มาตอนนี้ปิดบังตัวตนไม่มิดก็ต้องเปิดเผยตัวออกมาให้เห็น

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังกลายเป็นนายกฯ เถื่อน รัฐบาลเถื่อนแทบจะเต็มรูปแบบเข้าไปทุกที สภาพเวลานี้เหมือนกับ “รอวันตาย” อย่างทรมาน และที่สำคัญนับวันยิ่งควบคุมอะไรไม่ได้ จากเดิมเคยชี้ชะตาคนอื่น แต่มาวันกลับตาลปัตรนั่นคือต้องนั่งรอให้คนอื่นมาชี้ชะตาตัวเองแบบที่รู้อนาคตล่วงหน้า

เพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า สำหรับตัว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของ ทักษิณ ชินวัตร และระบอบทักษิณ กำลังเดินเข้าสู่ “ลานประหาร” ภายในเดือนมีนาคมนี้ นั่นคือตามตารางเวลาจะต้องนำหลักฐานเอกสารเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาในคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในวันที่ 14 มีนาคม จากนั้นไม่ว่าจะยื้ออย่างไรก็ต้องเป็นไปตามกรรมการ ป.ป.ช. วิชา มหาคุณ ที่ควบคุมคดีระบุเอาไว้ว่าถึงอย่างไรก็ไม่เกินเดือนนี้ก็จะชี้ขาด

แน่นอนว่ามีแนวโน้มหายนะสำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และครอบครัวทักษิณ ชินวัตร ซึ่งสิ่งที่เข้าใจได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็ต้องพิจารณาจากความเคลื่อนไหวตอบโต้ออกมาจากฝ่าย ทักษิณ นั่นเอง ที่ไฟเขียวให้บรรดา “ลิ่วล้อ” ออกมาป่วนกันแบบเต็มพิกัด มีทั้งการขนมวลชนคนเสื้อแดง มาปิดล้อมหวังจะขัดขวางไม่ให้ ป.ป.ช.ได้ทำงาน ไม่สามารถพิจารณาคดีทุจริตต่อยิ่งลักษณ์ รวมไปถึงการใช้เครื่องยิงระเบิดถล่มสำนักงาน รวมไปถึงข่มขู่คุกคามกรรมการ ป.ป.ช.และคนในครอบครัว ซึ่งยิ่งใกล้วันชี้ขาดเข้ามามากเท่าไหร่ก็ยิ่งเกิดเหตุรุนแรง มีการข่มขู่คุกคามหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความหวั่นไหวของระบอบทักษิณมากขึ้นเท่านั้น แต่อีกด้านหนึ่งนาทีนี้คงไม่มีผลอะไรแล้ว หากพิจารณาจากตัวบุคคล โดยเฉพาะจากกกรรมการ ป.ป.ช.อย่าง วิชา มหาคุณ ที่สามารถยืนระยะได้อย่างมั่นคง ไม่มีทางหวั่นไหว เพราะหากหวั่นไหวกลับลำก็คงไม่มาจนถึงวันนี้ และที่สำคัญคงไม่ “โดนหนัก” อย่างที่เห็น

ดังนั้น เมื่อประเมินว่าเล่นเกมแรงข่มขู่ไม่ได้ผล ก็ต้องนำไปสู่จุดจบในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ที่ ป.ป.ช.จะต้องชี้มูลภายในเดือนมีนาคมตามที่มีการระบุเอาไว้ ซึ่งหากพิจารณากันตามความเข้าใจที่เป็นอยู่ “หากรอดนี่สิถือว่าเป็นเรื่องแปลก” เมื่อไม่รอดความหมายก็คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกชี้มูลความผิด เธอก็ต้อง “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ในฐานะนายกฯรักษาการในทันที ส่วนจะเกิด “สุญญากาศ” หรือไม่ค่อยมาว่ากันทีหลัง

นั่นเป็นเฉพาะกรณีทุจริตจำนำข้าวที่ ป.ป.ช.กำลังจะลงดาบเชือด แค่เรื่องเดียวก็หาทางออกไม่เจอแล้ว เพราะบั้นปลายต้องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางเสียด้วย

เรื่องต่อมาก็คือกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังตัดสินชี้ขาดว่าร่างพระราชบัญญัติเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากมิชอบ ก็ยิ่งทำลายความชอบธรรมของ รัฐบาล ที่ “เถื่อน” อยู่แล้วยิ่งมีสถานะเถื่อนลงไปกว่าเดิมอีก เพราะต้องไม่ลืมว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายการเงิน ที่นายกรัฐมนตรีต้องลงนามรับรอง ดังนั้นเมื่อเกิดข้อผิดพลาด นายกรัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนจะรับผิดชอบทางไหนก็ขึ้นอยู่กับ “หนังหน้า” ของแต่ละคน ส่วนที่มีบรรดา “ศรีธนญชัย” พยายามตะแบงว่าเลยขั้นตอนของสภาไปแล้ว ก็ว่ากันไป ขอให้ยืนยันในแนวความคิดแบบนี้ไปให้ตลอดก็แล้วกัน เพราะถ้าขั้นตอนมิชอบ ก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ และในจำนวนนั้นก็ต้องรวมถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะสมาชิกรัฐสภาด้วย

อย่างไรก็ดี มันก็เหมือนกับรู้ชะตากรรมตัวเอง ทำให้ ทักษิณ ชินวัตร ต้องไฟเขียวให้บรรดาลิ่วล้อต่างเร่งโหม “เกมแรง” กันเต็มพิกัด เป้าหมายก็เพื่อข่มขู่ หรือ “บีบให้เจรจา” แต่นาทีนี้เชื่อว่า ไม่ได้ผลแล้ว ขณะเดียวกันกลายเป็นว่าสังคมรับรู้แล้วว่า ฝ่ายที่เล่นเกม “ถ่อยเถื่อน” แบบนี้คือ “พวกไหน” ถ้าไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายของ ทักษิณ ชินวัตร ก็ยิ่งสร้างความเกลียดชัง สะท้อนให้เห็นถึงการไม่เคารพกติกา เพราะถึงขนาด ยิ่งถล่มศาล ขู่ฆ่าผู้พิพากษา ถึงขนาดที่ประธานศาลปกครองสูงสุด หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ถึงกับเอ่ยปากว่า “ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในรอบร้อยปี” ของการก่อตั้งศาล ซึ่งก็เห็นจะจริง เพราะไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อน นอกจากพวก ทักษิณ ที่เหิมเกริมจนทำให้สังคมเหลืออดกันแล้ว

ดังนั้น ยิ่งเล่นเกมแรงมากเท่าใด นอกจากไม่ได้ผล ไม่มีใครกลัวแล้ว ในทางตรงกันข้ามก็ยิ่งเป็นการประจานตัวเองว่าในที่สุด “หางก็โผล่” เพราะนาทีนี้ไม่มีใครไม่เข้าใจแล้วว่าเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนมาจากเครือข่ายของทักษิณทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของเจ้าหน้าที่รัฐ และมวลชนเสื้อแดงติดอาวุธที่มีรัฐหนุนหลัง ซึ่งล้วนเป็นพวกเดียวกันทั้งสิ้น ยิ่งเร่งทำก็ยิ่งจบเห่เร็วขึ้น!!