xs
xsm
sm
md
lg

ทุจริตจำนำข้าว ป.ป.ช.ชี้มูล “ยิ่งลักษณ์” เรื่องเดียวก็จบเห่แล้ว!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

สังเกตหรือไม่ว่า...เมื่อใดก็ตามหากเรารู้สึกกลัวอะไรสักอย่าง เราก็จะพยายาม “กลบเกลื่อน” เพื่อแสดงออกไปอีกทางว่าเราไม่กลัว และโดยเฉพาะในสิ่งที่เรา “ควบคุมไม่ได้” หรืออยู่เหนือการควบคุมแล้วละก็การแสดงออกของเราก็จะออกมาอีกแบบในทางตรงกันข้าม ยิ่งแสดงออกมากเท่าใด นั่นก็หมายความว่าเรายิ่งกลัวกันแบบ “ขนหัวลุก” เลยแหละ

เหมือนอย่างกรณีที่กำลังเกิดขึ้นกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่กำลังโดน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งข้อหาทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และอยู่ในขั้นตอนที่เธอต้องไปชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งล่าสุดทาง ป.ป.ช.ก็อนุญาตให้เธอสามารถยื่นเอกสารหลักฐานชี้แจงผ่านทางทนายความที่ได้รับมอบอำนาจ และให้เลื่อนวันชี้แจงเป็นวันที่ 14 มีนาคมนี้

สิ่งที่น่าหวั่นไหวที่สุดก็คือ คำให้สัมภาษณ์ของกรรมการ ป.ป.ช.ที่ควบคุมคดีนี้ คือ วิชา มหาคุณ ได้ย้ำว่าจะสามารถสรุปคดีได้ภายในเดือนมีนาคม ความหมายก็คือจะมีการ “ชี้มูลความผิด” ได้หรือไม่ในเดือนนี้ ดังนั้นก็มีอยู่สองทางคือ “ผิด” หรือ “ไม่ผิด” เท่านั้น

ถ้าไม่ผิดก็รอดตัวไป แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นั่นก็หมายความว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้อง “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ในฐานะนายกรัฐมนตรีรักษาการทันที
จากนั้นก็มีทางเดินสองทาง คือ ทางแรก-ต้องถูกถอดถอนโดยวุฒิสภา แม้ว่าทางนี้ยังต้องใช้เวลาและเป็นไปได้ยาก เนื่องจากยังมีพวก ส.ว.ขี้ข้าจากการเลือกตั้งที่แม้หมดวาระไปแล้ว แต่ยังนั่งคาตำแหน่งอยู่จนกว่าจะมีสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่จากการเลือกตั้งในวันที่ 30 มีนาคมนี้เข้ามาเสียก่อน ซึ่งในท่ามกลางกระแสปฏิรูปแบบนี้มันก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าเราอาจได้ ส.ว.ที่ทำหน้าที่เพื่อคนไทยส่วนใหญ่ ไม่ใช่ทำหน้าที่ปกป้องอำนาจและความร่ำรวยให้กับครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร เหมือนเช่นที่ผ่านมา

ส่วนทางเลือกที่ 2 ที่ถูกบังคับให้ต้องเดินไปก็คือ เส้นทางสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เส้นทางนี้แหละที่ทำให้ต้องลุ้นจนตัวโก่ง ส่อ คุก-คุก-คุก เหมือนกับที่พี่ชายคือ ทักษิณ ชินวัตร เคยโดนมาแล้ว ในคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาภิเษก และที่สำคัญใช้เวลาในการพิจารณาไม่นานเกินไป แม้ว่าในความเป็นจริงเส้นทางที่จะเดินไปศาลฎีกาฯ อาจจะมีการ “เตะถ่วง” ในชั้นอัยการสูงสุด อาจตีกลับให้หาหลักฐานเพิ่ม หรือตั้งคณะกรรมการพิจารณาหลักฐานเพิ่มเติม แต่อีกด้านหนึ่งมันก็ต้องรอดูว่ามติของ ป.ป.ช.เป็นเอกฉันท์หรือไม่ เพราะถ้าเอกฉันท์นั่นก็หมายความว่า “มีความผิดแน่นหนา” อัยการคงไม่หน้าด้านเตะถ่วง-สวนกระแสแน่นอน เพราะกระแสสังคมกำลังจับตามองอยู่ และดีไม่ดีหากทำตัวเป็น “จระเข้ขวางคลอง” ก็มีสิทธิ์โดนกระแสให้ต้องปฏิรูปไปอีกหน่วยงานหนึ่งอย่างปัจจุบันทันด่วนด้วย ทำเป็นเล่นไป

แต่เอาเป็นว่าหากพิจารณากันทีละขั้นตอน ขั้นตอนแรกหลังจากที่ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้ว สมมติว่า “ชี้มูลความผิด” มันก็ป๊อก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที ส่วนจะตั้งใครมารักษาการได้หรือไม่ นั่นก็ยังเป็นปัญหาตามมาอีก เพราะสถานภาพในวันนี้ไม่มีใครเป็น ส.ส.ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ สืบแทนได้หรือเปล่า ต้องตีความกันอีก แต่นั่นเป็นเรื่องอนาคต เอาแค่ว่าถ้าชี้มูลความผิด ยิ่งลักษณ์ก็ต้องหยุดทันที ซึ่งแน่นอนว่าต้องเสียหายกับ “อำนาจของครอบครัวชินวัตร” ที่เวลานี้ซวนเซจนแทบยืนไม่อยู่ ยิ่งเซหนักข้อไปอีก

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งหากพิจารณาจากอารมณ์ของฝ่ายทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองพี่น้องคู่หูคู่ฮากันบ้าง อย่างที่บอกตั้งแต่แรกก็คือ “กลัวจนขี้ขึ้นสมอง” เพราะถ้าโดนชี้มูลความผิดก็หมดอนาคตแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่ทำได้มากที่สุดในเวลานี้ก็คือ “สั่งให้ป่วน” ทุกทาง นั่นคือ ข่มขู่ ป.ป.ช.ทั้งประเภทขัดขวางไม่ให้ทำงานได้ ทั้งมาในรูปดิสเครดิต ป.ป.ช.บางคน และลามปามไปถึงการคุกคามคนในครอบครัวของ ป.ป.ช.ที่เป็นเป้าหมาย ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับ วิชา มหาคุณ ย่อมโดนหนักกว่าใคร แต่ก็นั่นแหละยิ่งข่มขู่มาก ยิ่ง “ถ่อยเถื่อน” มากเท่าใด ชาวบ้านก็ยิ่งรังเกียจและชี้หน้าทันทีว่าเป็นฝีมือของ “ขี้ข้าทักษิณ” ที่รับจ้างรับคำสั่งมาป่วนเท่านั้น และยังเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าใครกันแน่ที่ไม่เคารพกติกา เพราะถ้าถึงขั้นคุกคามองค์กรอิสระ ข่มขู่ศาล นี่มันเกินไปแล้ว วิญญูชนเกินกว่ายอมรับได้

และเชื่อว่านี่คืออาการฮึดฮัดข่มขู่ในช่วงก่อนวันตัดสินชี้ขาดเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเมื่อตัดสินออกมาทางใดทางหนึ่งมันก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ทุกอย่างต้อง “เป็นไปตามกรรม” สถานเดียว

กรณีทุจริตจำนำข้าว หากพิจารณากันความเป็นจริงไม่ว่าในมุมไหนมันก็คง “ไม่รอด” ถ้าไม่ผิด-ไม่โกงนี่สิแปลก และในฐานะนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานนโยบายข้าวแห่งชาติ ก็ต้องรับผิดชอบสูงสุด จะอ้างว่ามอบหมายให้คนอื่นไปแล้วแบบ “บูรณาการ” มันก็เกินไป และที่สำคัญที่ผ่านมาทั้ง ป.ป.ช.ก็เคยส่งหนังสือเตือนไปแล้ว สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็เตือนแล้ว นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเรื่องข้าวก็เตือนให้ยุติให้ตรวจสอบ ผ่านมาเป็นปีแล้วแต่เธอก็ไม่เคยสนใจ ยังมั่นใจว่า “ระบอบทักษิณ” ยังยืนยงอยู่ได้ เหมือนอย่างก่อนหน้านี้ยังมั่นใจว่าตัวเองจะได้กลับมาเป็นรัฐบาลใหม่อีกรอบ ซึ่งในเวลานี้กลายเป็นแค่ความฝันเท่านั้น ดังนั้นถ้าให้สรุปก็คือ “ไม่น่าจะรอด” เมื่อไม่รอดสิ่งที่ทำได้ก็คือส่งเสียงดังข่มขู่เพื่อกลบเกลื่อนความกลัวภายในเท่านั้น

หากพิจารณาแค่เรื่อง ป.ป.ช.ในคดีทุจริตจำนำข้าว ที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังเผชิญอยู่แค่เรื่องเดียวก็อ้วกแล้ว โดนชี้มูลความผิดเมื่อไหร่ก็จบเห่หมดอนาคตทันที นาทีนี้ไม่ต้องไปคิดเรื่องอื่น แค่เรื่องเดียวก็สาหัส ถึงได้ส่งสัญญาณป่วนกันเต็มพิกัดไงล่ะ แต่ถึงอย่างไรถ้ายิ่งป่วน สังคมก็ยิ่งได้เห็นธาตุแท้

และคงได้ “ตายคาประชาธิปไตย” ในความหมายของเธอแน่นอน!!
วิชา มหาคุณ
กำลังโหลดความคิดเห็น