xs
xsm
sm
md
lg

ผุด “แดงอิสระโคราช” ขอเงิน 65 ล้านจัดม็อบขับไล่ตุลาการ รธน.ตำหนิมัวแต่ตั้งรับ-สู้แล้วรวย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แดงอิสระโคราช” ขอ 65 ล้าน ลุยองค์กรอิสระ-ไล่ 9 ตลก.รธน.ทำจดหมายเปิดผนึกขอเงิน นปช.ส่วนกลาง รับไม่ได้เพื่อไทยหลังเป็นรัฐบาลมัวตั้งรับเจรจา ซัดแกนนำ-ส.ส.สู้แล้วรวย แย่งผลประโยชน์ บอกถึงเวลาต้องรบแตกหัก โวรอแค่เสียงระฆัง เล่นเกม ปชช.ไม่ยืดเยื้อ ด้าน “นปช.” ขยิบตา ลุยได้ตามใจไม่ขวาง

วันนี้ (10 มี.ค.) หลังจากแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดแกนนำเสื้อแดงทั่วประเทศประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ จ.นครราชสีมา โดยให้แกนนำแต่ละภาคกำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี วางแนวทางการเคลื่อนไหวตอบโต้กลุ่มที่ต้องการล้มรัฐบาล ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงคนเสื้อแดง นายยรรยง ป้อมไชยา ในฐานะประธานกลุ่มแดงอิสระโคราช ได้ทำเอกสารความยาว 9 หน้า “แดงอิสระลั่นกลองรบ ร่วมกับ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ชัตดาวน์องค์กรอิสระ 9 กบฏตุลาการ” เสนอไปถึงแกนนำ นปช.ส่วนกลาง ซึ่งเนื้อหานั้นมีข้อเสนอที่รุนแรง

โดยเนื้อหาช่วงแรกจำแนกผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์ปัจจุบันเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ ฝ่ายอำมาตย์ กับฝ่ายประชาธิปไตย นอกจากมีเนื้อหาที่เป็นเสนอวิธีปฏิบัติแล้ว บางช่วงยังได้วิพากษ์วิจารณ์พวกเดียวกันเองด้วย

สำหรับฝ่ายระบอบอำมาตย์นั้น มีความมั่งมั่นสูงที่จะนำไปสู่จุดแตกหักเพื่อทำลายล้างวงศ์ตระกูลชินวัตร พรรคการเมือง ระบอบทักษิณ การปกครองระบอบประชาธิปไตย การจะขจัดอิทธิพล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะอนุญาตให้มีเลือกตั้งไม่ได้ การเสนอปฏิรูปประเทศไทยก่อน จึงเป็นกลลวงเพื่อหยุดยั้งระบอบประชาธิปไตย และเนื่องจากการทำรัฐประหารโดยกองทัพมีอุปสรรคต่อต้านจากประชาชนและสังคมโลกอารยะ พวกเขาจึงต้องยึดอำนาจประชาชนโดยวิธีอื่น จึงเสนอยุทธศาสตร์ปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปประเทศไทย ใช้มวลมหาประชาชน ยึดอำนาจรัฐโดยวิธีการลุกขึ้นสู้ในกรุงเทพฯ และประสงค์ให้ทหารสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงคือทำรัฐประหารเอง ทางอ้อมก็คือคุ้มครองประชาชนที่ลุกขึ้นสู้โดยไม่ร่วมมือกับรัฐบาลในการควบคุมสถานการณ์ และแอบช่วยสนับสนุนทางลับ เช่น เป็นการ์ดคุ้มกัน คุ้มครองมวลชนด้วยอาวุธ ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีจึงใช้วิธีการลุกขึ้นสู้ในเมืองกดดัน จึงใช้วิธีการลุกขึ้นสู้ในเมืองกดดันรัฐบาลยาวนาน รอคอยโอกาสเหมาะสมเพื่อให้เกิดความรุนแรง การใช้องค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกระบวนการยุติธรรมอื่นๆ มากำจัดฝ่ายการเมืองและประชาชนที่รักประชาธิปไตย

สำหรับฝ่ายประชาธิปไตยนั้น มีความพยายามเปิดเกมรุกทางการเมืองแต่ไม่เป็นผล ได้แก่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมงบประมาณ 2 ล้านล้านบาท การจำนำข้าว ถูกสกัดการใช้อำนาจจากองค์กรอิสระและสถาบันตุลาการ ทำให้รัฐบาลเปลี่ยนสถานะจากรุกเป็นรับ ถอยร่นจนต้องยุบสภา พร้อมกับเผชิญยถากรรมทางคดีความอันหนักหน่วง

“ขณะที่ฝ่ายระบอบอำมาตย์เตรียมตัวสู้รบใหม่ทันทีหลังแพ้เลือกตั้ง แต่ฝ่ายประชาธิปไตยไม่คิดถึงการต่อสู้ในลักษณะสู้รบที่ต้องสิ้นสุดอย่างแตกหัก ยังคิดในลักษณะประนีประนอม ใช้การเจรจาเป็นด้านหลัก ไม่ได้ใช้การต่อสู้เป็นด้านหลัก โดยไม่ตระหนักถึงความล้าหลังทางการเมืองและความอำมหิตของชนชั้นจารีตนิยม ฝ่ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตยถูกทำให้อ่อนพลังสู้รบไป เนื่องจากชัยชนะในการเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาล นักต่อสู้ส่วนหนึ่งถูกทำให้กลายเป็นนักการเมืองและหัวคะแนน และมีความแตกแยกอันเนื่องมาจากผลประโยชน์ รวมทั้งการจัดตั้งถูกทำให้อ่อนแรงด้วยกลุยุทธ์จัดตั้งซ้อนจัดตั้ง” เนื้อหาช่วงหนึ่ง ระบุ

การทบทวนยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีเฉพาะหน้าในสถานการณ์วิกฤตการเมืองผู้รักประชาธิปไตยจึงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากยุทธศาสตร์ที่มีอยู่เป็นยุทธศาสตร์ระยะยาว เป็นลักษณะผูกติดกับพรรคการเมือง ขาดลักษณะการสู้รบ เมื่อเกิดยุทธการปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปประเทศของ กปปส.นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่มีประชาชนเข้าร่วมและมีผู้สนับสนุนจำนวนมาก จำเป็นต้องเรียกร้องต่อผู้รักประชาธิปไตยที่จะต้องยกระดับทางการต่อสู้ทางการเมืองด้วยการเป็นหนึ่งเดียวในการต่อสู้ ต้องระดมพลังกาย พลังใจ พลังสมอง และทุนทรัพย์เพื่อต่อสู้ในศึกใหญ่นี้ให้อยู่ในฐานะรับอยู่ แล้วเปลี่ยนจากรับเป็นรุกเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย คือการปกครองที่เป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่แบบไทยๆ ของอำมาตย์ และบรรลุคำขวัญของระบอบประชาธิปไตยคือเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพให้ได้

เนื้อหาส่วนต่อมาเป็นการเสนอยุทธศาสตร์เฉพาะหน้าในวิกฤตการเมืองไทย ในทางเปิดมีการเสนอยุทธการ ทำลายนายสุเทพและแนวร่วม กปปส.ยุทธการเปิดโปงองค์กรอิสระ ชูการปฏิรูปองค์กรอิสระ ยุทธการชูการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ยุทธการชูการปฏิรูปกองทัพให้ก้าวหน้า แต่หากมีสุญญากาศ รัฐประหารโดยองค์กรอิสระและตุลาการ เปิดยุทธการใหญ่ คัดค้านและต่อสู้กับขบวนอนาธิปไตยและอำนาจนอกระบบที่จะทำลายระบอบประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม

เรื่องขอสนับสนุนภาระกิจชัตดาวน์องค์กรอิสระ เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย โดยเนื้อหาช่วงหนึ่งระบุ การปิดล้อมสำนักงานและขับไล่ตุลาการทั้ง 9 คนออกจากตำแหน่ง จึงเป็นเหมือนการตัดมือตัดเท้าของระบอบอำมาตย์เผด็จการโดยตรง เพื่อประกาศให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศได้รับรู้ถึงการตอบโต้จากประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริงแบบแตกหักและรุนแรง เพื่อให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อไปมีจิตสำนึกในภาระหน้าที่ที่ถูกต้องของตนเอง กลุ่มแดงอิสระและประชาชนผู้รักประชาธิปไตยพร้อมที่จะกำจัดระบอบอำมาตย์เผด็จการให้หมดไปจากประเทศ

“ฉะนั้นทางกลุ่มเราจึงขอความร่วมมือมายังท่านและองค์กรต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในภารกิจที่สำคัญในครั้งนี้ด้วยกันทุกคนอย่างพร้อมเพรียง กลุ่มเราอยู่แนวหน้าเผชิญกับศัตรูอย่างเปิดเผยไม่กลัวแม้ความตายเพราะความตายของกลุ่มเราไม่เป็นการตายที่สูญเปล่า แต่เราขอตายแบบมีค่าเพื่อรักษาประชาธิปไตย ท่านที่อยู่แนวหลังอย่าวางเฉยได้โปรดส่งแรงใจ ส่งข้อมูลข่าวสารให้เราตลอดเวลาเพื่อเป็นกำลังใจให้เราต่อสู้จนบรรลุเป้าหมาย ปัจจัยหลักเงินทองของอุปโภคเป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้ ขอให้ท่านระดมสรรพกำลังตามมีตามเกิด จัดส่งถึงเราด้วย” เนื้อหาช่วงหนึ่งจากแดงอิสระโคราช

ในเอกสารยังระบุถึงยุทธวิธีซึ่งมี 10 ข้อ ประกอบด้วย 1.นัดหมายวันเวลาปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญร่วมกับแดง นปช. ส่วนกลางใน กทม. ปริมณฑล 2.ใช้มวลชนเสื้อแดง 3,000 คน เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมหลักของแดงอิสระโคราชสับเปลี่ยนเวียนผู้ชุมนุม 10 วันครั้ง (จัดรถรับส่งโคราช-กทม.ไปกลับ) 3.จัดตั้งการ์ดรักษาความปลอดภัย รปภ. จำนวน 260 คน 4.จัดตั้งกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว 2 ชุดๆ ละ 20 คนรวม 40 คน และควบคุมฝูงชน 5.จัดตั้งที่ทำการยุทธศาสตร์ โดยมืออาชีพ ใช้บุคลากรจำนวน 5 คน

6.จัดตั้งเวทีปราศรัยกลางวัน กลางคืนทุกๆ วัน มีวิทยากรหลัก 3 คน และเชิญผู้ทรงคุณวุฒิปราศรัยทุกคืน 7.ห้ามพนักงานเข้าออก ปิดน้ำ ปิดไฟ แต่ไม่ทำลายทรัพย์สินของสำนักงาน 8.จัดทำเอกสารยื่นคำขาดให้ตุลาการทั้ง 9 คนลาออก ประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ทางโซเชียลมีเดียและหนังสือพิมพ์ 9.จัดตั้งกองอำนวยการเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มแดงอิสระโคราชโดยผู้นำชาวโคราช มีสำนักงานเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน เพื่อรับบริจาคเครื่องอุปโภค บริโภคส่งเข้า กทม.10. เปิดบัญชีเงินฝากในนาม แดงอิสระโคราช โดยหัวหน้าสำนักงานกองอำนวยการและประชาชนขอรับบริจาคกับพี่น้องประชาชนคนโคราชเพื่อใช้เป็นค่าพาหนะ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่ารักษาพยาบาล ค่าจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลในการฌาปนกิจศพ และค่าตอบแทนของผู้เข้าร่วมชุมนุม

นอกจากนี้ ยังมีการประเมินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเบื้องต้นต่อเดือน 1.ค่าเบี้ยเลี้ยงผู้เข้าร่วมชุมนุม 3,000 คนๆ ละ 500 บาทต่อวัน รวม 45 ล้านบาท 2.ค่าเบี้ยเลี้ยงรักษาความปลอดภัย 260 คนๆ ละ 750 บาทต่อวัน รวม 5.85 ล้านบาท 3.ค่าเบี้ยเลี้ยงกองกำลังจัดตั้งเพื่อควบคุมฝูงชน 40 คนๆ ละ 1,000 บาทต่อวัน รวม 1.2 ล้านบาท 4.ค่าเบี้ยเลี้ยงฝ่ายยุทธการ 5 คนๆ ละ 1,500 บาทต่อวัน รวม 225,000 บาทต่อเดือน

5.ค่าใช้จ่ายยานพาหนะ 4 คัน ค่าติดต่อประสานงานฝ่ายยุทธการ 200,000 บาทต่อเดือน 6.ค่าอาหาร เครื่องดื่ม 3 มื้อ วันละ 3,500 คน รวม 12.6 ล้านบาทต่อเดือน 7. ค่าพาหนะ 200 บาท เที่ยวไป กลับ โคราช-กทม.(รถบัส) 8.อื่นๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าตอบแทนวิทยากรประจำเวที โดยรวมทั้งสิ้น 65.075 ล้านบาทต่อเดือน (ไม่รวมรายการที่ 7-8)

ขณะที่ นายยรรยงค์ ป้อมไชยา ประธานกลุ่มแดงอิสระโคราช ให้สัมภาษณ์ว่า เราเตรียมพร้อมหมดแล้ว โคราชพร้อม ชัยภูมิพร้อม รอเพียงเสียงระฆังเท่านั้น ประชาชนส่วนใหญ่เกิน 80 เปอร์เซ็นต์เห็นด้วยกับเรา การเคลื่อนไหวแดงอิสระโคราชไม่เกี่ยวกับ นปช.ส่วนกลาง เพราะเขามีกิจกรรมเยอะ แต่แนวคิดอุดมการณ์ ก่อนเราทำอะไรก็รอฟังยุทธศาสตร์เขาก่อน ถ้าตรงกันก็พร้อม เราทำในนามประชาชนธรรมดา ไม่ใช่เพียงโคราช แต่ทั้งหมดทุกภาคส่วน ในอีสานเขาก็มีโปรแกรมหมดจะทำอะไรบ้าง

“เราไม่เล่นเกมยืดเยื้อ เล่นเกมประชาชน แตกหักไม่เจรจา ศัตรูเราหมายถึงพวกตรงข้ามฝ่ายประชาชน” นายยรรยงกล่าว

ขณะที่ นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช.กล่าวว่า การที่แดงอิสระโคราชจะเคลื่อนไหวอะไร เราไม่ขัดขวาง เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ นปช.ส่วนกลางจะเคลื่อนในประเด็นเกี่ยวกับผู้ทำลายระบอบประชาธิปไตย เช่น เกิดรัฐประหาร รัฐบาลไม่ได้มาจากเลือกตั้ง เป็นต้น เราต่อต้านองค์กรอิสระสำหรับคนที่ตัดสินไม่เป็นกลาง แม้ไม่ถูกใจเมื่อตัดสินออกมาแล้ว เราก็ยอมรับ เช่น คดียุบพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ตัดสิทธิ์ ส.ส.


กำลังโหลดความคิดเห็น