ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เชื่อรัฐบาลเตะถ่วงเวลาคืนเก้าอี้เลขาฯ สมช.แก่ “ถวิล” ตามคำสั่งศาล พร้อมสร้างกระแสทำลายองค์กรอิสระ และบิดเบือนทำลายหลักฐานโกงจำนำข้าว ชี้ยิ่งยื้อยิ่งสร้างความเสียหายต่อประเทศ รัฐบาลขาดความชอบธรรมเพิ่ม
วันนี้ (9 มี.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนและกรรมการ กปปส. กล่าวว่า สถานการณ์รัฐบาลรักษาการในขณะนี้กำลังจะพบกับจุดจบที่ตัวเองสร้างไว้ โดยเฉพาะบทลงโทษจากองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หลายคดีความที่มีการร้องเรียนกล่าวโทษรัฐบาลเริ่มมีข้อยุติในเดือนนี้ ล่าสุดกรณีศาลปกครองสูงสุดสั่งคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้กับ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังเตรียมชี้มูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กรณีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว รวมทั้งประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยสถานภาพรัฐบาล และคำร้องให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 เป็นโมฆะ ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นคนเสนอเรื่อง ในส่วนของ กกต.ก็ยังไม่มีหลักประกันถึงการจัดการเลือกตั้งให้สงบเรียบร้อยได้แต่อย่างใด สภาวะแบบนี้ทำให้รัฐบาลรักษาการดิ้นต่อไปยากขึ้น ยิ่งยื้อยิ่งสร้างความเสียหายต่อประเทศ และยิ่งทำให้สถานะรัฐบาลขาดความชอบธรรมลงเป็นลำดับ
“เป็นไปได้ว่ารัฐบาลจะเล่นทั้งเกมยื้อเตะถ่วงเวลา และสร้างกระแสทำลายความชอบธรรมขององค์กรอิสระ ในขณะเดียวกันก็ใช้โอกาสนี้บิดเบือน ตัดแต่ง ทำลายหลักฐานเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด เช่น กรณีทุจริตจำนำข้าว รวมทั้งความพยายามที่จะเตะถ่วงไม่คืนตำแหน่ง เลขาฯ สมช.ให้คุณถวิล ตามที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้คืนภายใน 45 วันนั้น เพราะงานด้านความมั่นคงถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสนองความมั่นคงของระบอบทักษิณมาตลอด 2 ปีกว่า เช่น การเจรจากับบีอาร์เอ็น ก็มีเงื่อนงำเรื่องผลประโยชน์ หรือการใช้กลไกและทรัพยากรของ สมช.สกัดกั้นฝ่ายเคลื่อนไหวต้านรัฐบาล เป็นต้น หากปล่อยให้คุณถวิล กลับไปเป็นเลขาฯ สมช.อาจพบความไม่ชอบมาพากลในหน่วยงานนี้ และอาจถูกเปิดโปงในที่สุด จึงเป็นเหตุผลที่รัฐบาลจะยื้อให้นานที่สุด โดยไม่สนใจว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่” นายสุริยะใส กล่าว