xs
xsm
sm
md
lg

“รัฐบาลเถื่อน” จนมุม หลังพิงเสื้อแดงดิ้นสู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะเก็ดไฟ

กลายเป็น “รัฐบาลเถื่อน” โดยสมบูรณ์แบบไปแล้ว สำหรับสิ่งเทียมรัฐบาลรักษาการของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯปูกรรเชียง หนีข้าวเน่าแต่เงาหัวใกล้หาย หลังพ้นวันสิ้นสถานะ 3 มีนาคม 2557 ไปเรียบร้อยบริบูรณ์ ตามกำหนด 30 วัน ที่จะต้องเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกให้ได้

แต่เมื่อเปิดประชุมไม่ได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด สถานะของรัฐบาลก็มีสิทธิ์จะพ้นสภาพไปแบบอัตโนมัติตั้งแต่พ้นวันดังกล่าว เพราะกฎหมายไม่ได้เขียนทางออกกรณีนี้ไว้ให้

เมื่อไม่มีอะไรมารองรับ ก็เที่ยวป่าวประเทศโพนทะนาหากินว่า ต้องรักษาการไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่มารับไม้ต่อ แต่ถึงอย่างไรคงต้องแป้ก ทั้งในแง่พฤตินัยและนิตินัย เพราะนาทีนี้ไม่มีบทบัญญัติใดๆ มาการันตีให้นั่งแช่อยู่ในเก้าอี้นายกฯได้แบบชั่วนิรันดร์

บ้านเมืองเข้าสู่โหมดในสภาวะที่เรียกว่า สุญญากาศเต็มตัว จากนี้ก็เหลือแค่ดาบสุดท้ายมีคนไปยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความสถานะเพื่อตอกฝาโลงกลบลงหลุมตีตราประทับว่า สิ้นอำนาจชั่วแล้ว

บรรดาลิ่วล้อขี้ข้าพรรคเพื่อไทยออกอาการกินปูนร้อนท้องกันแบบอุปทานหมู่ ออกมาดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญกันแต่หัววัน โดยเฉพาะ ชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม สายตรง “น.ช.แม้ว” ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีหน้าด้านใจคด ที่ออกมาตัดพ้อเสียงดังปนอุจาดว่า ระยะหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินค้านสายตาประชาชนบ่อย

แม้แต่ “ขี้ข้าเหลิม” เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) หรือ “อ้ายปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษา ศรส.ก็ออกแนววัวสันหลังหวะ สารภาพเหมือนกันจากนี้ชะตากรรมรัฐบาลอยู่ที่องค์กรอิสระ

งานนี้ไม่มีอะไร แค่อาการเห็นพวกเดียวกันไม่มีเงาหัว!!!

แล้วก็มาตามคาดแบบฉบับยี่ห้อพรรคเพื่อไทย ขู่ฟ่อเป็นนักเลงเลยว่า หากองค์กรอิสระตัดสินค้านสายตาประชาชนบ้านเมืองส่อแววกลียุคแน่ เพราะมีมวลชนอีกกลุ่มพร้อมจะออกมาปกป้อง “รัฐบาลเถื่อน”

ถือไม้หน้าสาม คมแฝกดักคอฝั่งตรงข้ามไม่ให้ผลีผลามปิดเกมแรง...

ตามสภาพวันนี้ “รัฐบาลเถื่อน” จำเป็นต้องใช้มุกนี้เป็นหลังพิง เพราะหมดเครื่องไม้เครื่องมือจากอำนาจรัฐที่จะต่อกรฝั่งตรงข้ามได้แล้ว หนำซ้ำ ยังต้องถอยกรูดอยู่ในมุมอับที่รอวันพิพากษาอย่างเดียว

ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องมีสักดาบที่บั่นคอเข้าไม่วันใดก็วันหนึ่ง กองกำลังเสื้อแดงจึงเป็นสิ่งเดียวที่จะเอามาต่อรองกับฝั่งตรงข้ามได้

แล้วก็มาตามคิว ตามสันดานถ่อย แกนนำคนเสื้อแดงทั้งหลายออกไประดมพลกันอยู่ต่างจังหวัดกันพักใหญ่ ส่งสัญญาณให้ฝั่งตรงข้ามเห็นความเคลื่อนไหว โดยเฉพาะกับท่าทีดุดัน เร้าสถานการณ์ให้ดูเหมือนเสี่ยงเผชิญหน้ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแขวนป้ายผ้าเพื่อขอแยกประเทศ การปราศรัยแนวฮาร์ดคอร์เพื่อให้เหมือนมีกองกำลังติดอาวุธ ถือเป็นกลยุทธ์ตีเกราะเคาะไม้ขู่ให้ฝ่ายตรงข้ามทำอะไรไม่สะดวกนัก

เขียนเสือให้วัวกลัวถึงภาพสงครามการเมือง?

เช่นเดียวกับ “นรก.ปู” ที่เดินสายไปเหนือ-อีสาน กันแบบถี่ยิบ ชักภาพโชว์ความอบอุ่นท่ามกลางการห้อมล้อมของเหล่าสาวกพลพรรคเสื้อแดง

ส่งสัญญาณให้รู้มายังเมืองกรุงว่า กองกำลังเสื้อแดงยังเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก พร้อมลุยออกมาปกป้องถวายชีวิตเพื่อรักษา "รัฐบาลเถื่อน”

นช.แม้ว ปรับโหมดหันกลับมากอดเสื้อแดงแบบแน่นๆ อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้แทบจะถีบหัวส่งในช่วงมีอำนาจ ทั้งหักหน้า หักหลังมาแล้วหลายครั้งหลายครา คนเสื้อแดงต้องกินทั้งเลือดทั้งน้ำตา แต่ทำอะไรไม่ได้ ตีจากไปก็กลายเป็นหมาหัวเน่าเหมือนกัน ต้องอยู่กันไปแบบผีเน่าโลงผุ

ตามคิวขุนพลหลักๆ ต้องทยอยลงพื้นที่เอง โดยเฉพาะ ปูกรรเชียงที่ต้องออกแรงด้วยตัวเอง เพราะต้องยอมรับว่า หลายปีที่ผ่านมากองกำลังเสื้อแดงซบเซาไปจากเดิมเยอะ

ไม่แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อน ยิ่งมีกรณีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอยที่แทงใจญาติผู้เสียชีวิต และปัญหาความล้มเหลวในโครงการรับจำนำข้าว ที่ชาวนารู้เช่นเห็นชาติถึงพิษสงอำมหิต ฐานเสียงหลักๆ หายไปไม่น้อย จึงจำเป็นต้องกอบกู้ให้เป็นปึกแผ่นเหมือนเดิม

ในระหว่างการรวบรวมไพร่พลกำลังนี้ ต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวขององค์กอิสระว่าจะกล้าลงไม้มือลงไม้ในระดับไหน ระหว่างจะตีให้ตายแบบล้างบาง หรือจะเลือกตีเพื่อบีบให้ยอมลงจากอำนาจเท่านั้น

อย่างกรณี ป.ป.ช.ตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ทางฝั่งรัฐบาลก็จับตาไม่กะพริบว่า ไพ่จะออกมาหน้าไหน เพราะแม้จะมีมติชี้มูลความผิดก็ต้องตามติดอีกว่า เป็นการฟันในส่วนของการถอดถอน หรือคดีอาญา หากเฉลยมาว่า เป็นถอดถอนก็เลื่อนเอารองนายกรัฐมนตรีในลำดับถัดมาขึ้นเป็นรักษาการแทน แต่จะยังไม่ยอมถอยเหมือนเดิม

แต่หากโผล่มาเป็นการฟันในคดีอาญา จะส่งผลกระทบต่อ “นรก.ปู” ทันที ซึ่งจะซ้ำรอยกับสมัย “นช.แม้ว” ที่มีจุดจบคือหนีคดี ตรงนี้ถือเป็นสัญญาณอันตราย เสื้อแดงอาจขยับรุกคืบมากกว่าเก่า

ดูได้จากการข่มขู่ ป.ป.ช.รายวัน ทั้งการปาประทัดยักษ์ใส่สำนักงาน ป.ป.ช.ขนกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิไตย (กวป.) ไปปิดล้อมหน้าสำนักงาน วางระเบิดบริเวณแยกสนามบินน้ำ และล่าสุดการปาระเบิดน้อยหน่าเข้าไปภายในสำนักงาน

เป็นคิวโหมกระพือไฟให้ร้อนรายวันเพื่อต่อรองกับฝั่งตรงข้าม งานนี้เลยได้วัดใจขบวนการต่อต้านระบอบทักษิณ ว่า จะแก้เกมศึก “คนชนคน” อย่างไร

แต่มีบทเรียนย้ำเตือนใจกันมาหลายรอบ ตีงูไม่ตาย มันแว้งกลับมากัดสาหัสแน่ ตามสภาพ “นช.แม้ว” ที่มีฤทธิ์มีเดชมาทุกวันนี้ก็เพราะการทำไม่สุดเมื่อตอนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ขืนยังปล่อยดิ้นเฮือกอยู่ได้ โอกาสฉายซ้ำแบบพี่ชายมีภาคสองแน่ แล้วถึงครานั้นจะปราบให้ศิโรราบคงไม่ใช่งานง่ายๆ ต้องอย่าลืมว่า ตัวละครวันนี้ของฝั่งตรงข้ามระบอบทักษิณ แทบหมดหน้าตักแล้ว

ดังนั้นผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ฟันกันตามสภาพ อย่าหยอมแหยมหรอมแหรม!!!

เป็นโอกาสดีขององค์กรอิสระ ที่จะได้เวลากู้ศรัทธาคืน ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ป.ป.ช. หลังจากช่วงที่ผ่านมาโดนปรามาสไว้เยอะ ขณะเดียวกัน ยังแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้หวั่นไหวไปตามคำขู่ของขบวนการกัดเซาะประเทศ

วันนี้กับปี 2553 ไม่เหมือนกันอีกแล้ว โดยเฉพาะไม่มีใครยอมออกมาตายฟรีเพื่อเป็นบันไดไต่อำนาจให้ “นช.แม้ว” อีกแล้ว

คำขู่เคลื่อนคนมาชนคน ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด...
กำลังโหลดความคิดเห็น