ฝ่ายยุทธศาสตร์ภาคอีสาน ปชป.เผยแนวนโยบายหลัก การจัดการระบบน้ำทั่วภาคอีสานแบบแก้มลิงพวง ชงพิมพ์เขียวตั้งสภาชาวนา ห่วงกลุ่มการเมืองปลุกระดมชาวบ้านแบ่งแยกดินแดน ขัดรัฐธรรมนูญ วอนฝ่ายความมั่นคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (2 มี.ค.) นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และกิจกรรมพิเศษ ภาคอีสาน พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า หลังจากที่คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาคอีสาน ได้นำทีมคณะกรรมการฯ ลงพื้นในภาคอีสาน เพื่อรวบรวมข้อมูลและร่วมประชุมกับตัวแทนภาคอีสานแล้ว ล่าสุดคณะกรรมการฯ ได้สรุปรวบรวมประเด็นแนวทางนโยบายหลักในภาคอีสาน เพื่อนำไปประกอบการจัดทำนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ได้รวม 3 ประเด็น คือ 1. การจัดการระบบน้ำทั่วภาคอีสาน โดยเป็นการจัดการน้ำชุมชน ตามแนวทางพระราชดำริ เป็นไปในลักษณะแก้มลิงพวง และระบบชลประทานแบบท่อเพื่อกักเก็บน้ำ รวมถึงการรองน้ำฝนมาดื่มในครัวเรือนแบบถูกสุขลักษณะ เนื่องจากที่ผ่านมาจะมีการจัดการน้ำชุมชนในลักษณะขุดบ่อเก็บกักน้ำตามระดับของภูมิศาสตร์ในแต่ละพื้นที่ แต่ในความเป็นจริงภาคอีสานไม่ได้แล้งเพราะขาดน้ำฝน แต่เพราะสาเหตุหลักคือเก็บกักน้ำไม่ได้มากกว่า
นายภูมิสรรค์กล่าวอีกว่า 2. คณะกรรมการฯ เป็นห่วงอาชีพเกษตรกรและชาวนา ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวไทย ซึ่งขณะนี้ถูกย่ำยีอย่างหนักหน่วง ลดทอนศักดิ์ศรีอาชีพหลักของชาวไทย จึงมีการปรึกษาหารือเรื่องการปฏิรูปและกอบกู้ศักดิ์ศรีชาวนาคืนมา โดยเตรียมร่างแผนพิมพ์เขียวโครงสร้างสภาชาวนา โรงเรียนชาวนา และมหาวิทยาลัยชาวนาอีกทั้งการจัดตั้งสหกรณ์และโรงสี เพื่อนำเสนอเป็นนโยบายต่อไป และ 3. ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง จากการลงพื้นที่ตามแนวทางปฏิรูปความเหลื่อมล้ำทางสังคมของคณะกรรมการฯ พบว่ามีกลุ่มการเมืองได้ยุแยงปลุกปั่นชาวบ้านในลักษณะการท้าทายอย่างอุกอาจในเรื่องการแบ่งแยกดินแดน อันจะนำมาซึ่งเหตุการณ์ร้ายแรงในอนาคต ท้าทายกฎหมายและฝ่ายความมั่นคง เสมือนประกาศตนเป็นกบฏแบ่งแยกดินแดน ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ว่าด้วย ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรแบ่งแยกมิได้ โดยเฉพาะมีการขยายฐานที่มั่นไปในหลายจังหวัด โดยเฉพาะนครราชสีมา เป็นต้น ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะและเกิดเหตุการณ์รุนแรงกับคนไทยที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จึงขอเรียกร้องผ่านฝ่ายความมั่นคงให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (2 มี.ค.) นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และกิจกรรมพิเศษ ภาคอีสาน พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า หลังจากที่คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาคอีสาน ได้นำทีมคณะกรรมการฯ ลงพื้นในภาคอีสาน เพื่อรวบรวมข้อมูลและร่วมประชุมกับตัวแทนภาคอีสานแล้ว ล่าสุดคณะกรรมการฯ ได้สรุปรวบรวมประเด็นแนวทางนโยบายหลักในภาคอีสาน เพื่อนำไปประกอบการจัดทำนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ได้รวม 3 ประเด็น คือ 1. การจัดการระบบน้ำทั่วภาคอีสาน โดยเป็นการจัดการน้ำชุมชน ตามแนวทางพระราชดำริ เป็นไปในลักษณะแก้มลิงพวง และระบบชลประทานแบบท่อเพื่อกักเก็บน้ำ รวมถึงการรองน้ำฝนมาดื่มในครัวเรือนแบบถูกสุขลักษณะ เนื่องจากที่ผ่านมาจะมีการจัดการน้ำชุมชนในลักษณะขุดบ่อเก็บกักน้ำตามระดับของภูมิศาสตร์ในแต่ละพื้นที่ แต่ในความเป็นจริงภาคอีสานไม่ได้แล้งเพราะขาดน้ำฝน แต่เพราะสาเหตุหลักคือเก็บกักน้ำไม่ได้มากกว่า
นายภูมิสรรค์กล่าวอีกว่า 2. คณะกรรมการฯ เป็นห่วงอาชีพเกษตรกรและชาวนา ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวไทย ซึ่งขณะนี้ถูกย่ำยีอย่างหนักหน่วง ลดทอนศักดิ์ศรีอาชีพหลักของชาวไทย จึงมีการปรึกษาหารือเรื่องการปฏิรูปและกอบกู้ศักดิ์ศรีชาวนาคืนมา โดยเตรียมร่างแผนพิมพ์เขียวโครงสร้างสภาชาวนา โรงเรียนชาวนา และมหาวิทยาลัยชาวนาอีกทั้งการจัดตั้งสหกรณ์และโรงสี เพื่อนำเสนอเป็นนโยบายต่อไป และ 3. ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง จากการลงพื้นที่ตามแนวทางปฏิรูปความเหลื่อมล้ำทางสังคมของคณะกรรมการฯ พบว่ามีกลุ่มการเมืองได้ยุแยงปลุกปั่นชาวบ้านในลักษณะการท้าทายอย่างอุกอาจในเรื่องการแบ่งแยกดินแดน อันจะนำมาซึ่งเหตุการณ์ร้ายแรงในอนาคต ท้าทายกฎหมายและฝ่ายความมั่นคง เสมือนประกาศตนเป็นกบฏแบ่งแยกดินแดน ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ว่าด้วย ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรแบ่งแยกมิได้ โดยเฉพาะมีการขยายฐานที่มั่นไปในหลายจังหวัด โดยเฉพาะนครราชสีมา เป็นต้น ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะและเกิดเหตุการณ์รุนแรงกับคนไทยที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จึงขอเรียกร้องผ่านฝ่ายความมั่นคงให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาด