“สุเทพ” ประกาศคืนพื้นที่ “อโศก ราชประสงค์ ปทุมวัน” จันทร์นี้ (3 มี.ค.) เหลือเวทีสีลมที่เดียว ชี้เพื่อลดความเดือดร้อนชาวกรุงเทพฯ แต่ยังเดินหน้าปิดส่วนราชการ-ธุรกิจชินฯ เหมือนเดิม ยันจะยกระดับการต่อสู้ พยายามให้เกมจบภายใน มี.ค.
วันนี้ (28 ก.พ.) เมือ่เวลาประมาณ 20.00 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กล่าวปราศรัยบนเวทีปทุมวัน ว่า เราทำกันมาทุกอย่างแล้ว เพื่อต่อต้านระบอบทักษิณ แต่มันดื้อด้านเหลือเกิน บรรดาแกนนำ กปปส.ของเรามาประชุมกัน เราต้องขอขอบคุณพี่น้องกรุงเทพฯที่ปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างน่าสรรเสริญ ที่พวกเราปิดถนนยาวนานกว่า 4 เดือน แต่พี่น้องก็อดทนเพื่อไล่ระบอบทักษิณ และทำให้ประเทศเราดีขึ้น พวกเรา กปปส.ซาบซึ้งน้ำใจของชาวกรุงเทพฯมากมาย มหาศาล แต่พวกเรา กปปส.ก็มีหัวใจว่า การจราจรของ กทม.เป็นเรื่องใหญ่ พวกเราจึงขออนุญาตคืนพื้นที่การจราจรทุกสามแยก สี่แยก ให้กับชาว กทม.ไม่ว่าจะเป็นแยกอโศก ราชประสงค์ ปทุมวัน ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป เราจะทำความสะอาดพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้การจราจรสามารถวิ่งได้ทุกเลน แต่ไม่ใช่ว่าเราจะล้มเลิกว่าตั้งใจในการต่อสู้ของเรา แต่ที่เราคืนพื้นที่ดังกล่าว เพราะต้องการให้ชาว กทม.รับรู้น้ำใจของเรา เพื่อให้ชาว กทม.ออกมาต่อสู้กับเราอย่างเต็มใจ
“เราจะจัดกระบวนทัพการต่อสู้ของเราใหม่ หลีกเลี่ยงการกระทบกับการจราจรมากที่สุด แต่มุ่งไปยังธุรกิจของครอบครัวชินวัตร เรายังออกไปรณรงค์ชักชวนชาวข้าราชการทั้งหลาย พวกเราจะแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้ตรวจราชการไปเยี่ยมหน่วยงานราชการทุกวัน เราจะไปตั้งเวทีใหม่ที่สวนลุมพินีเพียงเวทีเดียว เป็นการรวมกำลังอยู่ที่นั่น ส่วนสาเหตุที่เรียกเอาลุมพินีเป็นฐานที่มั่น เพราะในสวนลุมพินีมีอาคาร มีห้องประชุม ที่เราสามารถประชุมขับเคลื่อนได้ทุกวัน โดยไม่ต้องไปเช่นโรงแรมที่ไหน เพราะฉะนั้นคืนวันอาทิตย์ขอเชิญชวนพี่น้องชาว กทม.ไปร่วมเปิดเวทีกับ กปปส.ที่นั่น หลังจากนั้นสัปดาห์หน้าเราจะจัดสัมมนาระดับชาติว่าด้วยการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย เราจะได้จัดทำพิมพ์เขียวให้เรียบร้อย และที่สำคัญเราจะระดมความคิดให้จัดการกับระบอบทักษิณอย่างสมบูรณ์แบบ”
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า พอตั้งหลักใหม่ที่สวนลุมฯเรียบร้อย อาจต้องจัดคอนเสิร์ตหลายหนหน่อย เพื่อระดมทุนช่วยเด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิต คนละ 2 ล้านบาท ทั้งนี้ต้องกราบขอโทษพี่น้องชาวกรุงเทพฯ พ่อค้าแม่ขาย ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดจราจรที่ผ่านมา จำเป็นจริงๆ ไม่เช่นนั้นไม่ทำเช่นนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคืนพื้นที่พอพี่น้องสะดวกในการทำธุรกิจ จะมีอารมณ์แจ่มใส คิดถึงชาติบ้านเมือง และออกมาร่วมต่อสู้กับมวลมหาประชาชนด้วยความสุขสบายใจยิ่งขึ้น
พรุ่งนี้วันเสาร์ขอชักชวนไปทำบญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้พี่น้องร่วมอุดมการณ์ที่เสียชีวิต คืนพรุ่งนี้ทุกเวทีจะเปิดรายการสั่งลาเวที รวมถึงสีลมก็จะรื้อเวทีเพื่อสร้างใหม่
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า วันจันทร์นี้ (3 มี.ค.) เป็นต้นไป จะยกระดับการต่อสู้ให้จบเร็วที่สุด เป็นไปได้อยากให้จบภายในเดือนมีนาคม จะพยายามให้ได้ อดทนอีกหน่อย 2-3 มีนาคม จะเห็นสัญญาณความพ่ายแพ้ของยิ่งลักษณ์มากขึ้น แล้ว 13-15 มีนาคม เผลอๆ ปิดเกมได้ตอนนั้น
เลขาธิการ กปปส.ยังกล่าวด้วยว่า ตนไม่เคยขอพบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯรักษาการ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เข้าใจผิดแล้ว เพราะคนที่ไม่มีทางไปคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ก้มหัวขอให้พวกตนไปเจรจาด้วยมาโดยตลอด ตนจะบอกอะไรให้ เอาบุญ ให้มาตั้งเวทีแข้งกับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส.เพราะถ้าเจอเมื่อไหร่จอดไม่ต้องแจวแน่ๆ
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงประโยคที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในวันนี้ว่า “ดิฉันต้องตายในสนามประชาธิปไตย” การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาปฏิเสธไม่ยอมมาเจรจากับตนนั้น ตนก็อยากจะถามกลับไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า คุณเก่งอะไรบ้าง นอกจากเรื่อง ว5.ลองมาสอบถามประชาชนจะรู้ได้ว่า เขาคิดว่าคุณไม่เป็นเรื่องเลยสักเรื่องเดียว โดยเฉพาะเรื่องโคตรโกง ตนจะต่อให้คุณพูดฝ่ายเดียว ตนจะไม่โต้เถียงด้วย แต่จะตอบว่าเห็นด้วยหรือไม่เท่านั้น สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้คือตระกูลคุณที่พยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ในขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำให้เด็กบริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตไปถึง 4 รายแล้ว แต่เวลาพูดถึงลูกตัวเอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงอาการรักเสียเหลือเกิน แต่กับเด็กคนอื่น ทำไม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงทำตัวเป็นนางมารร้ายเช่นนี้
“ถ้าจะให้ผมไปเจรจากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แบบลับๆ สองคน ถึงจะมีคนกลาง ผมไม่ทำ พี่น้องจะต้องมาเหยียบผมตาย และเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและผลประโยชน์ของชาติ พี่น้องควรที่จะต้องรับรู้ว่าไปคุยอะไรกัน ผมยืนยันว่าพวกผมไม่ได้ไปอ้อนวอนให้พวกรัฐบาลมาเจรจากับเรา เราอยากจะไล่คุณออกอย่างเดียว และเอาอำนาจกลับมาเป็นของประชาชน แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนที่เสนอเงื่อนไขด้วยตนเอง แต่กลับเป็นเงื่อนไขบ้าๆ ที่ให้มวลมหาประชาชนกลับบ้านก่อน ถ้าจะกลับจะออกมาไล่คุณหรือ และผมจะไปตอบคนตายอย่างไร ในวันข้างหน้าจะไปอธิบายกับ พ่อ แม่ ลูก หลานเขาได้อย่างไร ว่าจะสู้ไปทำหอยหลอดอะไร” นายสุเทพ กล่าว