จมูกไวได้กลิ่นเชือด สารพัดกลวิธีถ่วงเวลา

ผ่าประเด็นร้อน

ดิ้นกันทุกกระบวนท่า ตาลีตาเหลือกไม่ยอมตายง่ายๆ

ต่อเนื่องมาจากคิวที่ “ปู นรก.” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี สั่งกุนซือข้างกาย กระแทกแป้นพิมพ์ใส่ร้ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ลุกลี้ลุกลน สางปมอภิมหากาพย์โกงโครงการรับจำนำข้าวเร็วเกินไปผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว

แต่เจอตอกหน้าหงายไปหลายตลบ หลัง วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ออกโรงโต้ หั่นซอยย่อยให้เห็นทุกช็อต ทำเอากูรูกฎหมายฝั่งเพื่อไทยหมดราคา ไปต่อไม่ได้ มางวดนี้จวนตัวหนีไม่พ้น ต้องรับสภาพตามกระบวนการไต่สวน เลยเปลี่ยนหมากในกระดาน หันมาเล่นเกมยื้อลมหายใจแทน โดยอาศัยรูโหว่ทางกฎหมายเพื่อหาทางพลิ้ว

ตามคิวที่ “ปู นรก.” หอบหิ้วทีมงานทัวร์ชะโงก ออกไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋ กันภาคเหนือ เพื่อหนีลมร้อนทางการเมือง พ่วงด้วยวาระซ่อนเร้น ติ๊ดชิ่งหนี ป.ป.ช. เพื่อให้คร่อมโปรแกรมนัดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จงใจถ่วงเวลากระบวนการไต่ส่วนให้ค่อยๆ คลานไป

เรียกว่าเปลาะแรกแค่รับทราบข้อกล่าวหาก็โชว์ลูกเล่นให้คนไปเลื่อนเสียแล้ว เพราะอย่างน้อยๆ ก็ทำเอา ป.ป.ช.เสียเวลาไปได้ไม่น้อยทีเดียว

แล้วก็เตรียมจับตาปฏิกิริยาหลังจากนี้ของ“ปู นรก.” ให้ดี วิชาซอกแซกกฎหมายจากบรรดากูรูในพรรคเพื่อไทยจะถูกงัดมาใช้อย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะขั้นตอนหลังจากรับทราบข้อกล่าวหา อย่างการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช.จะให้เวลา 15 วันโดยอัตโนมัติ เพื่อไปรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ นานามาแก้ตัว

จุดนี้ตามประวัติศาสตร์การตรวจสอบนักการเมืองขี้ฉ้อของ ป.ป.ช. ที่ผ่านมาส่วนใหญ่โชว์สำออย ร้องขอขยายเวลาเพิ่มเพื่อถ่วงเวลาเข้าลานประหารกันทั้งนั้น

ตามสภาพการณ์ที่เห็นๆ กันมามีสารพัด ทั้งอ้างขอเวลาหาพยานหลักฐานสารพัน เพื่อทำให้ ป.ป.ช.เสียเวลาตรวจสอบ ด้วยรู้ว่าองค์กรอิสระแห่งนี้ไม่ชัวร์-ไม่ฟัน แน่นอนว่าบรรดาลิ่วล้อนายใหญ่อาศัยช่องนี้ประวิงเวลา แบบเชื่อขนมกินได้

ยิ่งในช่วงการเมืองคุกรุ่น นับถอยหลังวันอวสาน “ระบอบทักษิณ” งวดเข้ามาแบบกระชั้นชิดทุกขณะ “นายใหญ่” ยิ่งไม่แอ่นตัวไปให้ ป.ป.ช.ง้างดาบฟัน “ขุน” ง่ายๆ แน่ อะไรถ่วงได้ นาทีนี้ต้องทำหมด ทีนี้ก็อยู่ที่ ป.ป.ช.จะขึงขังกับเล่ห์เหลี่ยมของพลพรรคเพื่อไทยได้แค่ไหน เมื่อเจอมุกเตะถ่วงแบบซึ่งๆ หน้า

หากดูกันตามตำราไต่สวน ป.ป.ช.เองก็ไม่ใช่ไม่ทันเกมนักการเมืองขี้ฉ้อ แถมมีช่องดักทางลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้ไว้ในระเบียบไต่สวนแล้ว หากเห็นว่า พยานหลักฐานชิ้นนั้นไม่จำเป็น ก็ประชุมขอมติตัดทิ้งไปเลย!!

เช็กเวลาคร่าวๆ กันตามเนื้อผ้าในคดีโครงการรับจำนำข้าวที่ ป.ป.ช.เริ่มขุดคุ้ยหาพยานหลักฐานกันมาแล้วร่วมปีกว่า จนมีมติแจ้งข้อกล่าวหา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ได้ ยิ่งไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อน เหลือแค่รอเวลาแก้ตัวของ “ปู นรก.” ว่า ฟังขึ้นหรือไม่ เชื่อว่าน่าจะใช้เวลาไม่นาน หากจะเลื่อนโดยข้ออ้างชักแม่น้ำทั้งห้า ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับไฟเขียวเสมอไป แต่ยังต้องรอลุ้นอีกว่า เหตุผลจับต้องได้แค่ไหน เพราะที่ผ่านมา ป.ป.ช.มักจะขยายให้แค่พวกป่วยนอนไอซียู เดินทางไปต่างประเทศ หรือญาติพี่น้องเสียชีวิต ลูกบวช ลูกแต่ง และอื่นๆ ที่สำคัญจริงๆ

ถ้าคิดจะใช้มุกไปต่างจังหวัดติดๆ กัน โอกาสแป้กมีสูงลิ่ว เพราะพวกรู้ทันเกมหมดแล้ว

ดังนั้น ว่ากันตามไทม์มิ่ง หาก ป.ป.ช.เดินเครื่องไปตามกระบวนการ โดยที่ “ปู นรก.” ไม่ใช้วิชามารถ่วงเวลา หรือถ่วงเวลาไม่ได้ผล ในห้วงเวลาเดือนมีนาคม 2557 การชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาน่าจะเสร็จได้

คิดตามสูตร ให้เวลารวบรวบพยานหลักฐานขยักแรกแบบอัตโนมัติ 15 วัน กับให้เพิ่มเติ่มขยักที่สอง เป็นมารยาทอีก 15 วัน อย่างไรก็ไม่น่าจะเกิน 30 วัน เพราะคดีโกงจำนำข้าว มีหลักฐานประจานเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ใช่คดีที่สลับซับซ้อน หรือพวกคดีร่ำรวยผิดปกติ ที่ต้องไปตามหาที่มาของเงิน และทรัพย์สิน ที่ซุกซ่อนเอาไว้

หากเป็นไปตามนั้น ในช่วงเดือนเมษายน 2557 จะเป็นเดือนแห่งการพิจารณา เพื่อสรุปสำนวนก่อนจะชี้มูลได้ ยกเว้นกรณีโดนวิชามารโผล่พรวด เบรกเกมกะทันหัน

ยิ่งพวกขาประจำที่รู้ทาง ป.ป.ช. พอได้กลิ่นว่าเจ้าหน้าที่ใกล้จะสรุปสำนวนเพื่อส่งคณะกรรมการชุดใหญ่วินิจฉัยชี้มูล ก็เล่นตุกติกด้วยการอ้างว่ามีพยานหลักฐานใหม่ที่สำคัญ ทำให้ตัวเองไร้มลทินได้ จึงจะขอส่งให้ ป.ป.ช.เพิ่มเติม ทั้งที่เป็นของขึ้นราอันเก่า แต่เอามาใส่บรรจุภัณฑ์เสียใหม่

กระนั้นจังหวะนี้ก็ทำเอา ป.ป.ช.ต้องเสียเวลาเปล่าๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อไปตรวจทานให้แน่ใจเสียก่อน

นอกจากจะเล่นแง่ทางช่องกฎหมายแล้ว บรรดาลิ่วล้อ “นช.ทักษิณ” ก็เดินเครื่องเขย่า ป.ป.ช.คู่ขนานกันไปอีกทาง เพื่อเป็นภัยแทรกซ้อนภายนอก ตามคิวที่ “แดงปลายแถว” อย่าง นายศรรักษ์ มาลัยทอง แกนนำกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ยกพวกไปโชว์เถื่อนหน้าสำนักงาน ป.ป.ช.สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี

ข่มขู่ คุกคาม ทุกรูปแบบให้ ป.ป.ช.ทำงานไม่ได้

แต่จับยามสามตา มีพิรุธโฉ่งฉ่าง โดยเฉพาะการถือฤกษ์ถือยามมาชุมนุมในช่วงที่ ป.ป.ช.นัด “ปู นรก.” เอาไว้ ราวกับจงให้การรับทราบข้อกล่าวหา มีอุปสรรค เพราะถูกขัดขวางจากมวลชน ส่งผลให้นายกฯหญิง มีข้ออ้างได้อย่างสวยหรู โดยไม่ต้องเปลืองตัวสวมบท “ไวต์ลาย”

ตามคิวถ่วงเวลากันทั้งองคาพยพ

เรื่องของเรื่อง “นช.แม้ว” ก็เป็นพวกหมูหมาจมูกไวที่ได้กลิ่นจะถูกเชือด ตามสัญชาตญาณเลยต้องดิ้นพล่านเอาตัวรอด ไม่ยอมให้น้องสาวตัวเองเดินไปถึงจุดนั้น ขืนปล่อยให้ฝั่งตรงข้ามเล่นเกมเร็ว จนชี้มูลได้ไว ถึงครา “ระบอบทักษิณ” ได้ราพณาสูร “ปู นรก.” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที

ต่อให้แม้จะดิ้นเลื่อนเอารองนายกรัฐมนตรีขึ้นมาเป็นตุ๊กตาเสียกบาลแทนได้ แต่ก็จะถูกตีความกันอีกภายหลังว่า ตามรัฐธรรมนูญแล้ว คนเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็น ส.ส. ซึ่งในสภาผู้แทนราษฎร ตอนนี้ไม่มีสักคน แล้วใครจะมาเป็นได้ อย่างไรก็ “สุญญากาศ”

แน่นอนเมื่อถึงเวลานั้น ย่อมมีการถกเถียงกันในแง่กฎหมาย จนถึงขั้นส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ “สถานะ” และโอกาสจะเป็นลบมีสูงเสียด้วย

เหตุนี้ “ระบอบทักษิณ” จึงทั้งดิ้น ทั้งถ่วง ทั้งรั้ง ทั้งสกัด สารพัด เพื่อประคองลมหายใจ