สะเก็ดไฟ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ “ปู นรก.” นายกฯ รักษาการ พอรู้ตัวว่าจะโดนกองข้าวทับตาย รีบเล่นบทหมาโดนน้ำร้อน เต้นผางให้กุนซือข้างกาย กระแทกแป้นพิมพ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
โอดโอยไม่ได้รับความยุติธรรม หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาปมละเว้น และไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทั้งที่รู้ว่าเสียหายวายวอด
ทว่า แทนที่จะได้รับคะแนนสงสาร กลับยิ่งโดนชาวบ้านร้านตลาดด่ากันเอ็ดตะโร เพราะนอกจากจะไม่ได้ทุเลาปัญหาที่ชาวนากำลังเผชิญแล้ว ดันเอาเวลามานั่งแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เปลือยสันดานเดิมๆ ของโคตรเหง้าชินวัตร เห็นแก่ตัวก่อนประโยชน์ส่วนรวม
ที่หนักกว่านั้น แทนที่จะออกมาโพนทะนาด้วยตัวเองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไรให้ชาวบ้านชาวช่องเขาเห็นสีหน้าท่าทาง แต่ดันมุดรูให้กุนซือนั่งสาธยายผ่านจอคอมพิวเตอร์ให้
งามไส้นายกรัฐมนตรีประเทศไทย มีก็เหมือนไม่มี!!
ว่ากันตามอาการพ่นเป็นฟืนเป็นไฟใส่ “ป.ป.ช.” ผ่านเฟซบุ๊กแบบไม่ไว้หน้า จับสัญญาณรัฐบาลได้อย่างหนึ่งว่า อยู่ในสภาวะหมาจนตรอกเต็มที
กลับไม่ได้ไปไม่ถึง ก็เลยต้องงัดวิชามารมาเป็นตัวช่วย ก๊อบปี้ตำราพี่ชาย “นช.แม้ว” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยใกล้หล่นจากอำนาจไม่มีผิดเพี้ยน
โกงแล้วโยนว่าโดนกลั่นแกล้ง ลอกพฤติกรรมกันมาเป๊ะๆ
หากยังจำกันได้ สมัย “นช.แม้ว”หายใจร่อแร่ก็ทำแบบนี้ หากเสียประโยชน์ก็เที่ยวโทษว่า ฝ่ายอำมาตย์ต้องการกำจัดตัวเอง แก้เกมใช้วิธีดิสเครดิตฝั่งตรงข้ามไว้ก่อน ทั้งที่ตัวเองโกงจริงๆ แล้วก็ได้ผลระดับหนึ่ง เพราะมีคนเสื้อแดงบางคนหลงเชื่อเสียสนิทใจ พ่อแม้วคนดีไม่ได้โกง!!
มาเที่ยวนี้ “ปู นรก.” ก็เลยเดินตามรอยเท้าพี่มาติดๆ คลิกเอามุกเดิมกลับมาใช้ เพราะได้กลิ่นแล้วว่า “ป.ป.ช.” เอาแน่ ยังไงก็หัวขาด เลยรีบตะโกนแหกปากว่า “ดิฉันไม่ได้รับความยุติธรรม” ทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวน เข้าอีหรอบกินปูนร้อนท้อง ช็อตนี้เปลือยกันได้อีกดอก สารภาพก่อนเลยว่า โกงจริงๆ เพราะไม่มีคนดีที่ไหนกลัวการตรวจสอบ นอกเสียจากคนเลวที่ทำผิด
จับยามสามตา รอได้เลย หาก ป.ป.ช.ฟันเปรี้ยง จนหัว “ปู นรก.” กระเด็น บรรดาลิ่วล้อนักโทษชายออกมาร้องแร่แห่กระเชิง อีกแน่ว่า ตัวเองโดนเผด็จการเล่นงานกับอีกผลลัพธ์หนึ่งที่ “ปู นรก.” หวังผลจากโพสต์เฟซบุ๊กครั้งนี้ก็คือ การส่งสัญญาณถึงฝั่งตรงข้ามว่าไม่ยอมตายง่ายๆ เพราะจากปฏิกิริยาครั้งนี้ต้องยอมรับว่าเป็นการกวักมือเรียกเสื้อแดงให้ออกมาโอบอุ้มไปในตัว หากฝั่งตรงข้ามจะฟัน ก็มีมวลชนอีกกลุ่มพร้อมออกมาปกป้อง
ขู่ฟ่อต่อรองเลยว่า สงครามการเมืองมีแน่!!
แต่รอบนี้สูตรเดิมน่าจะแป้ก เพราะเงื่อนไขหลายอย่างได้เปลี่ยนจากตอนสมัยนักโทษชาย กองกำลังเสื้อแดง ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนเดิมแกนนำหลายคนมีคดีติดตัว พร้อมถูกศาลถอนประกันตัวทุกเมื่อ หากปลุกปั่น
ที่สำคัญหลายรายตาขาว กลัวตาย เพราะ “กองกำลังข้าวโพดคั่ว” หมายหัวเอาไว้!!
ขณะที่หลักฐานการโกงจำนำข้าวก็แน่นหนาที่จะมัดจนดิ้นไม่หลุด แถมทีมกุนซือแก๊งไอติม ยังชั้นไม่ถึง คิดจะแก้เกมการเมือง แต่กลายเป็นอวดโง่โดยเฉพาะเนื้อหาในเฟซบุ๊ก ที่อ้างว่าร้องขอความยุติธรรมจาก “ป.ป.ช.” ไปแล้ว แต่ไม่ได้ คือขอตรวจสอบพยานหลักฐานที่ถูกกล่าวหา กับคัดค้าน นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นองค์คณะไต่สวน
รวมถึงการจวก ป.ป.ช.ว่าลุกลี้ลุกลน ทำคดีนี้เร็วเกินไป
ทั้งที่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.เพิ่งจะแถลงอยู่หยกๆ ว่าผลการประชุมกรรมการชุดใหญ่เห็นว่า คำคัดค้านตัวนายวิชา ของ “ปู นรก.” ไม่เข้าข่ายมีส่วนได้ส่วนเสีย จึงเป็นองค์คณะไต่สวนต่อได้
คิดจะหัวหมอเอาความสัมพันธ์ของนายวิชา กับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มาเล่นงานทำลายความชอบธรรม แต่ดันไม่ทำการบ้านอ่านระเบียบการไต่สวน ป.ป.ช.ให้ดี เลยโดนตอกกลับเสียหน้าหงายไม่มีชิ้นดี อย่างที่เห็น
ขณะเดียวกัน ข้ออ้างที่โจมตีว่าเร่งรีบปิดคดีจนน่าสงสัยว่า รู้เห็นเป็นใจกับ กปปส. ก็โดน ป.ป.ช.สอนมวยเสียทีมกุนซือข้างกาย “ปู นรก.” เสียหลักหมดราคา เพราะคดีนี้ได้มีการไต่สวนกันมาตั้งแต่ปี 2555 โดยตอนนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเอาผิดตั้งแต่หัวอย่างนายกฯ เรื่อยไปจนหาง อย่างรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
แต่ ป.ป.ช.เห็นว่า หลักฐานตอนนั้นพอจะมัดถึงแค่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ สมัยนั่ง รมว.พาณิชย์ เลยตั้งอนุกรรมการไต่สวนไว้เท่านั้นก่อน โดยมีวงเล็บไว้ว่า หากสาวไส้ได้ภายหลังว่า เชื่อมโยงกับใครอีก ก็แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้
ระเบียบการไต่สวนเขียนไว้ชัด ตัวเบ้อเร่อ!!
ดังจะเห็นได้ว่าตอนแจ้งข้อกล่าวหานายบุญทรง มีขบวนการเขมือบข้าวถูกสอยตามมาอีก 15 คน รวมถึง นายภูมิ สาระผล สมัยดำรงตำแหน่งรมช.พาณิชย์ อีกด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงแรกของรัฐบาล ป.ป.ช.เองก็เคยทำหนังสือเตือนถึง “ปู นรก.” ไปหลายรอบแล้วว่า โครงการดังกล่าวมีช่องโหว่ให้ทุจริตมโหฬาร และเสี่ยงจะสร้างความเสียหายต่อประเทศหากดันทุรังทำอาจจะโดนสอยได้ภายหลัง หากมีคนมาร้องเรียน
แล้วก็มีคนมาร้องเรียน ทั้งในคำร้องของ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่กล่าวหาว่า นายกฯ จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีการโกงรวมถึงคำร้องของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นเอาผิดกรณีเดียวกันไว้นานโขแล้ว
และไม่ใช่ ป.ป.ช.อย่างเดียวที่เตือน แม้แต่ สำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็ร่อนหนังสือถึงให้ระวัง แต่สุดท้ายถูกเมินเฉย
แล้ววันนี้เมื่อหลักฐานมันชัดคาตา ทั้งจีทูจีลวงโลก ทั้งโครงการที่เจ๊งหลายแสนล้านบาท ถ้าไม่เอาผิด “ปู นรก.” ในฐานะผู้นำรัฐบาล ซึ่งมีอำนาจสั่งระงับยับยั้งได้ทุกเมื่อ แล้วจะไปเอาผิดใคร
เบ็ดเสร็จคดีนี้ ป.ป.ช.เลยทำมาปีกว่าดังนั้น แทนที่จะตัดพ้อว่า ทำเร็ว ควรจะด่าด้วยซ้ำว่า ทำช้าเกินไปจนเหลือบไรงาบข้าวพุงป่องกันไปหลายรายแล้ว
ตามสภาพ “ปู นรก.” จึงตกอยู่ในที่นั่งลำบากเสียแล้ว แถมมาออกแนวเดินเจริญรอยตาม “นช.แม้ว” โอกาสจะมีจุดจบเหมือนกันชักยิ่งมีสูง
ดีไม่ดีรอบนี้อาจโดนหนักกว่าพี่ชาย เพราะประเทศไทยมีบทเรียนมาแล้วว่า หากตีงู ต้องตีให้ตาย หากไม่ตาย มันจะแว้งกลับมากัด คงไม่มีใครพลาดอีกแล้ว
ดังนั้น หากยังดันทุรังดื้อแพ่งต่อไป เผลอๆ อาจได้ไปอยู่กับพี่ชาย แบบปิดเทอมยาว!!