กกต.บริหารงานเลือกตั้ง แนะพรรคร่วมรัฐฯ รอ จม.เชิญ กกต.สัมมนาหาทางออกเลือกตั้ง ให้รู้ถึงวัตถุประสงค์ เชื่อถกเสร็จรู้ จว.ไหนพร้อมเลือกตั้ง คาดมี 3 จว. หน.เพื่อแม้วเมินร่วม อาจใช้อำนาจตาม รธน.เรียก แจงประชุม กกต.ถกเรื่องเรียก ขรก.ฝ่ายมั่นคง วันนี้มีข้อสรุปส่งศาล รธน.หรือให้รัฐทบทวนออก พ.ร.ฎ.กำหนดวันรับสมัคร 28 เขตไร้ผู้สมัคร ยันไร้อำนาจตัดสินใจรัฐออกพันธบัตรช่วยชาวนา เตือนนายกฯใช้ทรัพยากรของรัฐขัด รธน.
วันนี้ (24 ก.พ.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงานสัมมนาเพื่อหาทางออกในการจัดการเลือกตั้งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันที่ 7 มีนาคมว่า อยากให้ทางพรรคร่วมรัฐบาลรอจดหมายเชิญอย่างเป็นทางการจาก กกต.ก่อน เพราะจะได้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานว่าเป็นอย่างไร ซึ่ง กกต.จะมีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ ตัวแทนฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และกกต.จังหวัด มาร่วมพูดคุยสะท้อนปัญหาและสอบถามความพร้อมการจัดการเลือกตั้งจากคนในพื้นที่เพื่อประกอบการตัดสินใจในการกำหนดแนวทางการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งการที่ กกต.ทำหนังสือเชิญ 4 พรรคร่วมรัฐบาลนั้น มองว่าเป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง หากพรรคดังกล่าวได้แสดงความเห็นและการได้ลงพื้นที่ของตัวแทนพรรคถือได้ได้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเลือกตั้ง
“เชื่อว่าหลังการหารือร่วมกันในวันที่ 7 มี.ค. จะประเมินสถานการณ์ได้ว่าจังหวัดไหนบ้างที่มีความพร้อมในการจัดเลือกตั้งได้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมี 3 จังหวัดที่จะดำเนินการจัดการเลือกตั้งได้ และถ้าหากนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงาน กกต.ก็อาจจะพิจารณาใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญประกอบมาตรา 20 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ที่ให้ กกต.สามารถสั่งให้หน่วยราชการสนับสนุนงานจัดการเลือกตั้ง เรียกนายจารุพงศ์ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่และร่วมเสวนากับกกต. เพราะกกต.มีอำนาจชเรียกข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำมาให้ความร่วมมือกับ กกต.”
สำหรับการประชุม กกต.ในวันนี้ ที่ประชุมจะมีการพิจารณาว่าจะออกคำสั่งไปยังข้าราชการระดับสูงเพื่อให้มาประชุมร่วมกับ กกต. เนื่องจากมีเรื่องที่ กกต.จะต้องพิจารณาใน 3 เรื่อง 1. ข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการประเมินสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศว่าเป็นอย่างไร 2. ข้าราชการที่เกี่ยวข้องการลงพื้นที่ปฏิบัติราชการในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง (พ.ร.ฎ.) เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทำหน้าที่เข้ามายังกกต.แล้วและข้าราชการที่เกี่ยวข้องก็เลื่อนการส่งเอกสารเกี่ยวกับกำหนดการเดินทางของนายกรัฐมนตรีมาถึง 3 ครั้งแล้ว ดังนั้นคนที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องชี้แจง และ 3. กกต.จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดที่ต้องดำเนินการจัดเลือกตั้งทดแทนในวันที่ 2 มีนาคม รวมทั้งใน 14 จังหวัดภาคใต้ ว่าจะวางแผนร่วมกันอย่างไร
เมื่อถามว่า ข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวกับหน่วยงานความมั่นคงเจาะจงไปที่ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ขอให้รอมติจากที่ประชุม กกต.ก่อนว่าจะมีคำสั่งเรียกบุคคลใดบ้าง
เมื่อถามว่า กรณีมีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะจัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรตรวจปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคอีสาน สามารถดำเนินการได้หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า การบริหารงานราชการของรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ แต่ขณะนี้ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้ทรัพยากรของรัฐในช่วงที่มี พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าการประชุม กกต.วันนี้ก็จะได้ข้อสรุปว่า กกต.จะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือส่งหนังสือให้รัฐบาลทบทวนการออก พ.ร.ฎ.กำหนดวันรับสมัครเพิ่มเติม กำหนดวันลงคะแนน ใน 28 เขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.
ทั้งนี้ นายสมชัยยังกล่าวถึงรัฐบาลเตรียมทำหนังสือขอหารือ กกต.ในกรณีที่กระทรวงการคลังมีแนวคิดเตรียมออกพันธบัตรดอกเบี้ยสูงเพื่อนำเงินไปแก้ไขปัญหาโครงการรับจำนำข้าวว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็นและไม่มีประโยชน์ที่จะต้องส่งเรื่องมาให้ กกต.พิจารณาเพราะหากส่งมาหารือกับ กกต.ก็ต้องได้รับคำตอบเดิมว่า กกต.ไม่มีอำนาจตัดสินใจ เนื่องจากกรณีดังกล่าวไม่เข้าตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 (3)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสมชัยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ได้มีตัวแทนของคณบดีคณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา มามอบช่อดอกไม้เพื่อให้กำลังใจแก่นายสมชัยให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางและเที่ยงธรรม