กปปส.สุดคึกคัก! “วิทยา” แย้มพาไปเที่ยวกรมศุลกากร ขับไล่ “กิตติรัตน์” ด้าน “ถาวร” แฉมือบึ้มอนุสาวรีย์เป็นคนกาญจนบุรี จ่อฟ้องเอาผิด “ยิ่งลักษณ์-เฉลิม-อดุลย์” ทางฝั่งโฆษกเผนเตรียมตั้งกองทุนช่วยลูกผู้เสียชีวิตเหตุปะทะผ่านฟ้าฯ ล่าสุด “ชุมพล-พุทธิพงษ์” นำมวลชนบุก ศรส.แล้ว
วันนี้ (21 ก.พ.) บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่เวทีสีลมเริ่มคึกคัก มวลชนต่างทยอยจับจองพื้นที่หน้าเวทีเพื่อรอฟังการปราศรัยจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ในเวลา 12.00 น. ภายหลังการประชุมแกนนำหารือ และประเมินติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ขณะที่มวลชนบางส่วนได้เดินทางไปรวมตัวที่เวทีราชประสงค์ ส่วนจุดหมายยังไม่แจ้งชัดเจน ขณะเดียวกัน นายวิทยา แก้วภราดัย แกนนำ กปปส.เวทีสีลม ได้ประกาศให้มวลชนเคลื่อนที่เร็วไปที่กรมศุลกากร ในการกดดันขับไล่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่วันนี้เดินทางมาประชุมที่กรมศุลกากร
อย่างไรก็ตาม การ์ด กปปส.ยังคงรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่การชุมนุมอย่างเข้มงวด โดยยืนประจำตามจุดเข้า-ออกโดยรอบพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้นายถาวร เสนเนียม เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ จะให้ทนายความไปยื่นฟ้องเอาผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ในเหตุการ์ปะทะที่ผ่านฟ้าลีลาศ ขณะเดียวกันยังเปิดเผยภาพถ่ายคนร้ายที่ปาระเบิดสังหารที่เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คือ นายกฤษดา ไชยแค ชาว จ.กาญจนบุรี จึงขอเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ก่อนที่จะถูกสั่งเก็บ
ทั้งนี้ นายถาวรยังตอบโต้ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ออกมาระบุว่าผู้ชุมนุมที่กระทรวงมหาดไทย ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่เป็นความจริง โดยมีหลักฐานยืนยันว่ามีการประสานงานกับผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ตลอดเวลา จึงเชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมสร้างข่าวเท็จขึ้นมาเพื่อดิสเครดิตกลุ่มผู้ชุมนุม
ด้านบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่เวทีปทุมวัน ล่าสุดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาทางแกนนำได้แจ้งกับทางผู้ชุมนุมว่า ทางเวทีปทุมวันจะมีการเคลื่อนขบวนนำมวลชนไปร่วมสมทบกับแกนนำและมวลชนเวทีอื่นๆ ที่เวทีราชประสงค์ เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปกดดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์
โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.ได้มีการแถลงข่าว โดยระบุว่าเรื่องการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการเข้ายืดพื้นที่ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กปปส.จะจัดตั้งกองทุนเพื่อดูแลและช่วยเหลือบุตรคนละ 2 ล้านบาท และมอบเงิน 1 ล้านบาทให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ ได้ระบุให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเคารพคำตัดสินของศาลแพ่ง ที่ได้มีบทบังคับออกมาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ห้ามจำเลยทั้ง 3 คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ใช้อำนาจสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปสลายการชุมนุม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตามคำสั่งจะถือว่าเป็นการกระทำโดยมิชอบ ทาง กปปส.จะมีการรวบรวมหลักฐานและทำการฟ้องทั้งทางแพ่งและทางอาญา ส่วนการชุมนุมของชาวนาและ กปปส.จะแยกส่วนกัน ทาง กปปส.จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแนวทางการชุมนุมของชาวนาแต่ยินดีที่จะสนับสนุน
ล่าสุดมีรายงานว่า นายชุมพล จุลใส และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำ กปปส.ได้นำมวลชนเคลื่อนจากเวทีไปยังศูนย์รักษาความสงบ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดยก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่าจะเดินทางไปยังอาคารชินวัตร 3 แต่พอใกล้ถึงกลับแวะเข้ามาภายในแทน ทำให้สามารถบุกเข้ามาชุมนุมด้านหน้าตัวอาคารได้