**แผนลอบทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. เหตุการณ์ที่บริเวณหน้าสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คนร้ายที่เป็นตำรวจสังกัดตำรวจนครบาล จู่โจมใส่ม็อบกลางวันแสกๆ หยามหน้ากองทัพและพล.อ.ประยุทธ์ จันทโอชา ผบ.ทบ. หงายเงิบ
เมื่อนายชุมพล จุลใส และ นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ 2 แกนนำ กปปส. สายฮาร์ดคอร์ด ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวนไปชุมนุมบริเวณดังกล่าว เนื่องจากทราบข่าวมาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี พาคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงพระเอกของเรื่องอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) มาประชุมอยู่ที่แห่งนี้ด้วย รวมไปถึงจะมีการหารือประเด็นการเลื่อนการเลือกตั้ง กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.) ทั้ง 5 คน
เหตุการณ์ดำเนินต่อเนื่องอย่างคึกคัก กลุ่ม กปปส. พยายามเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะเดินทางจากสโมสรแห่งนี้ และไม่ให้ใช้พื้นที่ทหารในการประชุมของรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมอีก
จนเมื่อตกบ่าย นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. เดินทางมาถึง และได้หารือนอกรอบกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่ากับว่ารัฐบาลเมินต่อข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม นายพุฒิพงษ์จึงประกาศสั่งให้ผู้ชุมนุมตัดโซ่ที่คล้องบริเวณประตูทางเข้า เข้าไปภายในสโมสรฯ โดยเป้าหมายอยู่ที่การขับไล่ ร.ต.อ.เฉลิม ให้ออกจากพื้นที่
** แต่ปรากฏว่า เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อมีเสียงคล้ายปืนดังขึ้นหนึ่งนัด บริเวณถนนวิภาวดี ฝั่งตรงข้ามสโมสรฯ ทำให้ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่ง พร้อมการ์ด กปปส. วิ่งกรูเข้าไปดูเหตุการณ์ และได้พบว่ามีผู้บาดเจ็บ ความชุลมุนเกิดขึ้นต่อเนื่อง เพราะยังมีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด
การ์ด กปปส. กว่า 20 คน พยายามวิ่งตามเสียงปืนที่เกิดขึ้น จนกระทั่งได้พบแม็กกาซีนปืน บรรจุกระสุนขนาด 11 มม. จำนวน 1 ชิ้น ตกอยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุ ซึ่งในช่วงนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อทราบเหตุการณ์ก็รีบเผ่นออกจากห้องประชุมที่หารือกับกกต.เดินทางกลับที่ตั้ง ศรส.โดยทันที
ไฮไลต์ เกิดขึ้นเมื่อการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมได้เห็น ด.ต.คงเพชร เพชรกันหา ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เข้ามาถ่ายภาพ โดยยืนอยู่บริเวณฟุตบาท ใกล้ปากซอยวิภาวดี 4 พร้อมจักรยานยนต์สีดำ ทะเบียน สจร 387 กรุงเทพมหานคร รวมทั้งยึดเสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้างระบุด้านหลังว่า เป็นจักรยานยนต์รับจ้างเขตบางซื่อ หน้าเซเว่นบางซ่อน หมายเลข 35 พร้อมวิทยุสื่อสารที่มีชื่อเขียนด้วยปากกาเมจิกว่า “ดาบติ” รวมทั้งกุญแจมือ ประแจ นอกจากนี้ยังพบกล้องบันทึกภาพติดอยู่บริเวณด้านหน้าของรถมอเตอร์ไซค์ด้วย
การ์ดของผู้ชุมนุมจึงได้เข้ามาขอค้นตัว แต่ด.ต.คงเพชร ไม่ยอมให้ทำการตรวจค้น การ์ดของผู้ชุมนุมจึงเรียกพวกการ์ดมารุมทำร้ายบาดเจ็บ ซึ่ง ด.ต.คงเพชร ใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัวเข้าไปที่กลุ่มการ์ดของผู้ชุมนุม 1 นัด สิ่งที่เกิดขึ้นกับด.ต.คงเพชร คงไม่ต้องบรรยายต่อ สุดท้ายด.ต.คงเพชร ต้องถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลราชวิถี เนื่องจากถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใช้เวลาอยู่ไม่ถึง 40 นาที ก็สงบลง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมต้องยอมถอยกลับไปตั้งหลัก ณ ที่ตั้งเวทีราชประสงค์ เนื่องจากความไม่ปลอดภัยกับกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่จะถึงนี้ เพราะไม่ว่ากลุ่ม กปปส. จะเคลื่อนมวลชนไปที่ใด เวลาไหน จะต้องถูกลอบกัดเสมอ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้แกนนำต้องพามวลชนกลับมาทบทวนการเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง
ภายหลังเหตุการณ์สงบลง ร.ต.อ.เฉลิม ที่หนีหัวซุกหัวซุนกลับไปที่ตั้งของ ศรส.ได้ ก็ออกมายืนยันแบบเรียกแขกทันทีว่า เหตุการณ์ลอบยิงกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าสโมสรฯ อาจเกิดจากคนที่ไม่พอใจกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ชุมนุมบนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจแน่นอน และสั่งให้พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้กำกับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 ผู้บังคับบัญชา ด.ต.คงเพชร ออกมารับลูก
โดยกล่าวอ้างว่า เมื่อช่วงเช้าได้สั่งให้ ด.ต.คงเพชร แต่งนอกเครื่องแบบ เพื่อลงพื้นที่หาข่าว กลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมให้ตรวจสอบหาข่าวประเมินการดูแลความปลอดภัย ทั้งนี้ มีรายงานว่าด.ต.คงเพชร แต่กลับถูกผู้ชุมนุมค้นตัว และมีคนตะโกนขึ้นมาว่าเป็นตำรวจ คงทำให้ ด.ต.คงเพชร เห็นว่าไม่ปลอดภัยจึงวิ่งหนี แต่กลุ่มผู้ชุมนุมกลับวิ่งไล่ตาม และกรูเข้าทำร้าย ถึงขั้นหวังชีวิต ทำให้ ด.ต.คงเพชร กระดูกซี่โครงหัก เลือดออกในปอด กะโหลกร้าว เพราะฉะนั้นการใช้ปืนกับกลุ่มผู้ชุมนุม ก็เป็นเพียงการป้องกันตัวเท่านั้น และ ด.ต.คงเพชร ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเสียงปืนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย
ถ้อยคำที่แถลงของ ศรส. รวมไปถึงบริวาร สร้างความสับสนให้กับเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นไปอีก เพราะการ์ดกปปส. เชื่อมั่นว่า หลักฐานที่พวกเขาเก็บได้ในที่เกิดเหตุ “ดาบติ”คือผู้ต้องสงสัยในการบุกยิงกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
**แต่ ศรส. กลับออกมาโกหกหน้าตายต่อสังคม โดยเบี่ยงเบนประเด็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซะอย่างงั้น โดยไม่พูดถึงผู้ที่ทำให้เกิดเสียงปืนนัดแรกแต่อย่างใด เอาแต่อ้างว่าตำรวจไม่เกี่ยว
พฤติกรรมลักษณะชั่วช้าสามานย์ของ ศรส. ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ลูกสมุนของร.ต.อ.เฉลิม ออกมาปล่อยข่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกปปส. เวทีลาดพร้าว ก่อพฤติกรรม เป็นพวกก่อการร้าย บุกยึดรถประจำทางสาย 8 เพื่อนำมาขนมวลไปเคลื่อนไหวไปตามจุดต่างๆ แต่สุดท้ายก็กลับออกมาแถลงว่า กปปส. นำรถประจำทางคันดังกล่าวมาคืนแล้ว และทางเจ้าของอู่รถ ไม่ติดใจเอาความ
การแถลงข่าวที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้สื่อข่าวในพื้นที่หน้าซีด คิดว่าตกข่าวกันเป็นแถว แต่สุดท้ายขนาดคนในพื้นที่ยังไม่เห็นเหตุยึดรถเมล์สักคัน กลายเป็นเรื่องโกหกลวงโลกไปอีกเรื่อง
ถึงตอนนี้ก็ไม่เข้าใจว่าศรส. คือ ศูนย์รักษาความสงบ หรือ “ศูนย์คนสันดานโจร”กันแน่ เพราะหัวหน้าศูนย์อย่าง “เป็ดเหลิม”มีพฤติกรรมสร้างความเท็จ ป้ายสีใส่ร้ายประชาชนรายวัน น่ารังเกียจเสียเหลือเกิน
**ใน 3-4 วันนี้ ก่อนวันชี้ชะตาการเมืองไทยกับการเลือกตั้งเลือด ไม่ว่าจะเป็น ยั่วยุ โกหก สร้างข่าวเท็จจาก ศรส. ศูนย์รวมคนสันดานโจรคงจะว่อนตามมาอีกเยอะ
เมื่อนายชุมพล จุลใส และ นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ 2 แกนนำ กปปส. สายฮาร์ดคอร์ด ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวนไปชุมนุมบริเวณดังกล่าว เนื่องจากทราบข่าวมาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี พาคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงพระเอกของเรื่องอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) มาประชุมอยู่ที่แห่งนี้ด้วย รวมไปถึงจะมีการหารือประเด็นการเลื่อนการเลือกตั้ง กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.) ทั้ง 5 คน
เหตุการณ์ดำเนินต่อเนื่องอย่างคึกคัก กลุ่ม กปปส. พยายามเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะเดินทางจากสโมสรแห่งนี้ และไม่ให้ใช้พื้นที่ทหารในการประชุมของรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมอีก
จนเมื่อตกบ่าย นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. เดินทางมาถึง และได้หารือนอกรอบกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่ากับว่ารัฐบาลเมินต่อข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม นายพุฒิพงษ์จึงประกาศสั่งให้ผู้ชุมนุมตัดโซ่ที่คล้องบริเวณประตูทางเข้า เข้าไปภายในสโมสรฯ โดยเป้าหมายอยู่ที่การขับไล่ ร.ต.อ.เฉลิม ให้ออกจากพื้นที่
** แต่ปรากฏว่า เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อมีเสียงคล้ายปืนดังขึ้นหนึ่งนัด บริเวณถนนวิภาวดี ฝั่งตรงข้ามสโมสรฯ ทำให้ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่ง พร้อมการ์ด กปปส. วิ่งกรูเข้าไปดูเหตุการณ์ และได้พบว่ามีผู้บาดเจ็บ ความชุลมุนเกิดขึ้นต่อเนื่อง เพราะยังมีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด
การ์ด กปปส. กว่า 20 คน พยายามวิ่งตามเสียงปืนที่เกิดขึ้น จนกระทั่งได้พบแม็กกาซีนปืน บรรจุกระสุนขนาด 11 มม. จำนวน 1 ชิ้น ตกอยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุ ซึ่งในช่วงนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อทราบเหตุการณ์ก็รีบเผ่นออกจากห้องประชุมที่หารือกับกกต.เดินทางกลับที่ตั้ง ศรส.โดยทันที
ไฮไลต์ เกิดขึ้นเมื่อการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมได้เห็น ด.ต.คงเพชร เพชรกันหา ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เข้ามาถ่ายภาพ โดยยืนอยู่บริเวณฟุตบาท ใกล้ปากซอยวิภาวดี 4 พร้อมจักรยานยนต์สีดำ ทะเบียน สจร 387 กรุงเทพมหานคร รวมทั้งยึดเสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้างระบุด้านหลังว่า เป็นจักรยานยนต์รับจ้างเขตบางซื่อ หน้าเซเว่นบางซ่อน หมายเลข 35 พร้อมวิทยุสื่อสารที่มีชื่อเขียนด้วยปากกาเมจิกว่า “ดาบติ” รวมทั้งกุญแจมือ ประแจ นอกจากนี้ยังพบกล้องบันทึกภาพติดอยู่บริเวณด้านหน้าของรถมอเตอร์ไซค์ด้วย
การ์ดของผู้ชุมนุมจึงได้เข้ามาขอค้นตัว แต่ด.ต.คงเพชร ไม่ยอมให้ทำการตรวจค้น การ์ดของผู้ชุมนุมจึงเรียกพวกการ์ดมารุมทำร้ายบาดเจ็บ ซึ่ง ด.ต.คงเพชร ใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัวเข้าไปที่กลุ่มการ์ดของผู้ชุมนุม 1 นัด สิ่งที่เกิดขึ้นกับด.ต.คงเพชร คงไม่ต้องบรรยายต่อ สุดท้ายด.ต.คงเพชร ต้องถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลราชวิถี เนื่องจากถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใช้เวลาอยู่ไม่ถึง 40 นาที ก็สงบลง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมต้องยอมถอยกลับไปตั้งหลัก ณ ที่ตั้งเวทีราชประสงค์ เนื่องจากความไม่ปลอดภัยกับกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่จะถึงนี้ เพราะไม่ว่ากลุ่ม กปปส. จะเคลื่อนมวลชนไปที่ใด เวลาไหน จะต้องถูกลอบกัดเสมอ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้แกนนำต้องพามวลชนกลับมาทบทวนการเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง
ภายหลังเหตุการณ์สงบลง ร.ต.อ.เฉลิม ที่หนีหัวซุกหัวซุนกลับไปที่ตั้งของ ศรส.ได้ ก็ออกมายืนยันแบบเรียกแขกทันทีว่า เหตุการณ์ลอบยิงกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าสโมสรฯ อาจเกิดจากคนที่ไม่พอใจกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ชุมนุมบนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจแน่นอน และสั่งให้พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้กำกับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 ผู้บังคับบัญชา ด.ต.คงเพชร ออกมารับลูก
โดยกล่าวอ้างว่า เมื่อช่วงเช้าได้สั่งให้ ด.ต.คงเพชร แต่งนอกเครื่องแบบ เพื่อลงพื้นที่หาข่าว กลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมให้ตรวจสอบหาข่าวประเมินการดูแลความปลอดภัย ทั้งนี้ มีรายงานว่าด.ต.คงเพชร แต่กลับถูกผู้ชุมนุมค้นตัว และมีคนตะโกนขึ้นมาว่าเป็นตำรวจ คงทำให้ ด.ต.คงเพชร เห็นว่าไม่ปลอดภัยจึงวิ่งหนี แต่กลุ่มผู้ชุมนุมกลับวิ่งไล่ตาม และกรูเข้าทำร้าย ถึงขั้นหวังชีวิต ทำให้ ด.ต.คงเพชร กระดูกซี่โครงหัก เลือดออกในปอด กะโหลกร้าว เพราะฉะนั้นการใช้ปืนกับกลุ่มผู้ชุมนุม ก็เป็นเพียงการป้องกันตัวเท่านั้น และ ด.ต.คงเพชร ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเสียงปืนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย
ถ้อยคำที่แถลงของ ศรส. รวมไปถึงบริวาร สร้างความสับสนให้กับเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นไปอีก เพราะการ์ดกปปส. เชื่อมั่นว่า หลักฐานที่พวกเขาเก็บได้ในที่เกิดเหตุ “ดาบติ”คือผู้ต้องสงสัยในการบุกยิงกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
**แต่ ศรส. กลับออกมาโกหกหน้าตายต่อสังคม โดยเบี่ยงเบนประเด็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซะอย่างงั้น โดยไม่พูดถึงผู้ที่ทำให้เกิดเสียงปืนนัดแรกแต่อย่างใด เอาแต่อ้างว่าตำรวจไม่เกี่ยว
พฤติกรรมลักษณะชั่วช้าสามานย์ของ ศรส. ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ลูกสมุนของร.ต.อ.เฉลิม ออกมาปล่อยข่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกปปส. เวทีลาดพร้าว ก่อพฤติกรรม เป็นพวกก่อการร้าย บุกยึดรถประจำทางสาย 8 เพื่อนำมาขนมวลไปเคลื่อนไหวไปตามจุดต่างๆ แต่สุดท้ายก็กลับออกมาแถลงว่า กปปส. นำรถประจำทางคันดังกล่าวมาคืนแล้ว และทางเจ้าของอู่รถ ไม่ติดใจเอาความ
การแถลงข่าวที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้สื่อข่าวในพื้นที่หน้าซีด คิดว่าตกข่าวกันเป็นแถว แต่สุดท้ายขนาดคนในพื้นที่ยังไม่เห็นเหตุยึดรถเมล์สักคัน กลายเป็นเรื่องโกหกลวงโลกไปอีกเรื่อง
ถึงตอนนี้ก็ไม่เข้าใจว่าศรส. คือ ศูนย์รักษาความสงบ หรือ “ศูนย์คนสันดานโจร”กันแน่ เพราะหัวหน้าศูนย์อย่าง “เป็ดเหลิม”มีพฤติกรรมสร้างความเท็จ ป้ายสีใส่ร้ายประชาชนรายวัน น่ารังเกียจเสียเหลือเกิน
**ใน 3-4 วันนี้ ก่อนวันชี้ชะตาการเมืองไทยกับการเลือกตั้งเลือด ไม่ว่าจะเป็น ยั่วยุ โกหก สร้างข่าวเท็จจาก ศรส. ศูนย์รวมคนสันดานโจรคงจะว่อนตามมาอีกเยอะ
