โฆษกประชาธิปัตย์จวก ศรส.สลายม็อบหวังใส่ร้ายผู้ชุมนุมพกอาวุธ-ยาเสพติด ทำเกินขอบเขตกฏหมาย สุดอำมหิตล้อมปราบประชาชน เชื่อต้องสร้างสถานการณ์หวังศาลให้คง พ.ร.ก.ฉฎกเฉินต่อ แถมทำชาวนากลัวไม่กล้าร่วมชุมนุม แนะตัดเท้า “ยิ่งลักษณ์” เหยียบทำเนียบฯ ตามใบสั่งหมอดูพม่าแทนเดินเข้าเอง ด้าน “จุฤทธิ์” เตือน กกต.เสี่ยงโกงเลือกตั้งครั้งมโหฬาร
วันนี้ (18 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพยายามขอคืนพื้นที่ของ ศรส.ในหลายจุดว่า การชุมนุมของประชาชนใช้สิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้วว่าเป็นการชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ แต่การกระทำของ ศรส.มีความพยายามเป็นขั้นเป็นตอนที่จะกล่าวหาผู้ชุมนุมว่าใช้อาวุธ ใช้ยาเสพติด ใช้ความรุนแรง โดยทุกครั้ง ศรส.จะโยงว่าผู้ชุมนุมมีการซุกซ่อนอาวุธ หรือใช้ยาเสพติด แต่ไม่เคยพิสูจน์ได้ว่าเป็นของผู้ชุมนุมจริงหรือไม่ เป็นเพียงขบวนการสร้างเรื่องให้ร้ายผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตที่กฎหมายรองรับ เป็นความพยายามที่น่ากลัวและความอำมหิตของรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาการชุมนุมโดยสงบของประชาชนได้ จึงต้องใส่ร้ายเพื่อล้อมปราบประชาชน จึงขอย้ำกับเจ้าหน้าที่ว่าแม้จะได้คำสั่งอย่างไรก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามขอบเขตของกฎหมาย
นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ 19 ก.พ. 57 ศาลแพ่งจะอ่านคำสั่งว่าจะยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ จึงเห็นว่ารัฐบาลต้องการสร้างสถานการณ์ว่ามีความจำเป็นที่จะต้องประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งที่เป็นการเอื้อประโยชน์ฝ่ายรัฐใช้อำนาจกับประชาชน ตนจึงคิดว่ารัฐบาลพยายามสร้างละครการขอคืนพื้นที่เพื่อคงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่หวังว่ารัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงกับประชาชน
“การปฏิบัติการของ ศรส.ในวันนี้อาจเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวคือ เป็นการแสดงให้ชาวนาเกิดความหวาดกลัวไม่กล้ามาชุมนุมเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย รวมทั้งอาจเกิดจากใบสั่งที่ประเทศพม่า ซึ่งเชื่อหมอดูว่าต้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปเหยียบทำเนียบรัฐบาล โดยมีคนแนะนำว่า หากจะต้องเหยียบทำเนียบบนกองเลือดประชาชน ให้ตัดเท้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปแตะทำเนียบจะดีกว่า”
ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเตือนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ขณะนี้มีข้อเสนอที่จะทำให้การเลือกตั้งมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการโกงเลือกตั้งอย่างมโหฬาร เช่น ให้มีบัตรและหีบสำรอง ให้กรรมการประจำหน่วยเอาเจ้าหน้าที่อื่นมาประจำได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการโกงจากการสวมสิทธิผ่านบัตรสำรอง ก.ก.ต.ต้องพิจารณาให้ดี เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการโกงเลือกตั้งแบบยกหน่วย ไม่เช่นนั้นนอกจากการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะแล้วยังจะเป็นการโกงเลือกตั้งครั้งใหญ่ด้วย โดยพรรคเพื่อไทยยังพยายามที่จะคงอำนาจไว้ผ่านการเลิอกตั้งดังกล่าว