นายกฯ พร้อม “จับกังเหลิม” มอบเลขาฯ สมช.จัดทำถ้อยแถลงศาลแพ่ง โต้ “ถาวร” ยื่นออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมิชอบ ส่งวันนี้ อ้างตาม “เด็จพี่” เคยยื่นปี 53 ก็ถูกยกคำร้อง ยกคำศาลมิอาจก้าวล่วงอำนาจฝ่ายบริหาร
วันนี้ (16 ก.พ.) รายงานข่าวจากศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แจ้งว่า ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส.ได้มอบหมายให้ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ เป็นผู้จัดทำถ้อยแถลงต่อศาลแพ่ง ในคดีที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะรอง ผอ.ศรส.เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิด จากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และออกข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยมิชอบและยังไม่มีเหตุจำเป็น ซึ่งได้สืบพยานบุคคลแล้วเสร็จ และศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 ก.พ. เวลา 15.00 น.
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวจะถูกนำส่งให้ศาลแพ่งภายในวันนี้ (16 ก.พ.) โดยรายละเอียดของถ้อยแถลงจะยึดรายละเอียดตามคำร้องของนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งยื่นต่อศาลแพ่งเพื่อฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อเดือน เม.ย.53 โดยครั้งนั้นศาลแพ่งได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 1389/2553 ให้ยกฟ้องคำร้องของนายพร้อมพงศ์ โดยระบุว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีเจตนารมณ์จะให้อำนาจนายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้ตามความจำเป็น และในช่วงท้ายของคำสั่งศาลระบุด้วยว่า “การใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่และดุลพินิจของฝ่ายบริหาร ศาลมิอาจก้าวล่วงไปพิจารณาหรือทบทวนการใช้ดุลพินิจของฝ่ายบริหารเช่นว่านั้นได้”