00 เชื่อหรือไม่ว่าคนที่"เห็นแก่ตัว"ที่สุด อย่าง ทักษิณ ชินวัตร นอกจากเรื่องที่ ลูกๆ และคนในครอบครัวของเขาจะเดือดร้อนแล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เกิดอารมณ์โกรธ และเก็บอาการไม่อยู่ก็คือ "หวงสมบัติ" อันมาจากความโลภที่มีอยู่ภายในเต็มเปี่ยม ดังนั้นการที่ "กำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศ"เอาคืน" ด้วยการ"ตัดท่อน้ำเลี้ยงแม้ว" ด้วยการกดดันการทำธุรกิจในกลุ่มครอบครัวชินวัตร และ"เครือข่ายพวกพ้อง" ของระบอบทักษิณ มันเรียกได้ว่า "ตรงจุด" ที่สุดและน่าจะทำมาตั้งนานแล้ว เพราะจะว่าไปแล้วธุรกิจพวกนี้แหละที่เป็น "เส้นเลือดใหญ่"ที่หล่อเลี้ยง ทักษิณ ชินวัตร และสมุนบริวารใกล้ชิด จนเติบใหญ่อย่างทุกวันนี้
00 การกดดันผสมกับการ "บอยคอต" ไม่ซื้อสินค้า ไม่อุดหนุน รณรงค์ทำกันแบบ"ชัดเจนจริงจัง" ไม่ให้ผิดตัว มีการตรวจสอบให้แน่ชัดสำหรับบริษัทในเครือข่าย แต่สำหรับพวกบริษัทหลักๆ ที่เห็นชัดๆ สังคมรับรู้กันมานานแล้วว่าเป็นของพวก "ครอบครัวชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์" นั้นมีอะไรบ้าง อย่าซื้อ อย่าไปอุดหนุน ส่วนอีกทางหนึ่งก็ต่อต้าน อย่างเปิดเผย เอากันแบบจริงจังต่อเนื่อง มันก็จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่นั่นคือ "พวกพันธมิตรทางธุรกิจจะชิ่งหนี" ทันที โดยเฉพาะ"พวกฝรั่ง" พวกนี้มันจะนกรู้ อ่อนไหวก่อนใคร ขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปคือ การชี้แจงเรื่องการทำธุรกิจแบบ"ฉ้อฉลใต้โต๊ะ" ประจานออกไป ส่วนพวกที่เป็นธุรกิจภายในประเทศเมื่อได้รับผลกระทบมากก็ต้องออกมา "ยืนยันปฏิเสธ" ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับครอบครัวทรราช นั่นแหละถึงจะอยู่รอดต่อไปได้ ดังนั้นการต่อต้านแบบนี้แหละถือว่ามาถูกทาง และต้องจริงจังชัดเจน รวมไปถึงต้องเอาให้ชัด"อย่าให้ผิดตัว" ซึ่งบริษัทไหนที่รู้ว่าไม่ใช่ก็ต้องรีบออกมายืนยันว่าไม่เกี่ยวอย่างไร
00 สำหรับครอบครัวชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์ นอกจาก ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นสัญลักษณ์แล้ว สำหรับวงศ์สวัสดิ์ ก็มี เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ บริหารผ่านทาง "พวกลูกจ้าง" และลูกๆ หลานๆในครอบครัว ซึ่งต่อมาก็ส่งคนเข้ามาควบคุมรัฐวิสาหกิจสำคัญ ส่วนราชการก็แต่งตั้งทั้งญาติพี่น้อง และ"ข้าราชการขี้ข้า" ที่ยอมแลกศักดิ์ศรีกับตำแหน่งและผลประโยชน์รับรู้อยู่แล้วว่าเป็นใครบ้าง การบอยคอตต่อต้านธุรกิจในเครือครอบครัวชินวัตร ยังเป็นการ "กระตุกความรู้สึก" ของสังคมให้ได้สติว่า ทักษิณ และครอบครัวของมันคือ "พวกนักธุรกิจการเมือง" เจตนาลงทุนทางการเมืองเพื่อเข้าสู่อำนาจและใช้อำนาจรัฐ ใช้นโยบายของรัฐบาลมาทุจริตกอบโกย ซึ่งคราวนี้เป็นการ "ฮุบเอาทรัพยากรของชาติมาเป็นของส่วนตัว" เป็นการ "ร่วมมือแบบข้ามชาติ"แบบ "ทุนสามานย์ข้ามชาติ"อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวในเรื่องธุรกิจพลังงานทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้านทั้งเขมรและพม่า สรุปว่าถ้าเอาจริงชัดเจนต่อเนื่อง แม้วจ๊ากแน่ เพราะนี่คือ "ทุบหม้อข้าว"แบบตรงกบาลเลย !!
00 คำสั่งศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่แม้ไม่ได้ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของฝ่ายบริหาร เพราะศาลไม่มีของเขตอำนาจไปถึง แต่การออก 9 ข้อห้ามคุ้มครองการชุมนุม ถือว่า ทำให้ "ตัดมือตัดเท้า" ของ ศรส.ซึ่งก็คือ "ศูนย์ขี้ข้าทักษิณ"นั่นแหละทำให้ "พิกลพิการ"ทันที เพราะทั้งห้ามไม่ให้สลายชุมนุม รวมไปถึงคุกคามทางตรงทางอ้อมอื่นๆ ก็ทำให้ เฉลิม อยู่บำรุง แอ็กอาร์ตไม่ออก กลายเป็น "เปิดง่อย" ทันที และที่กูรู กม.ชี้ช่องเอาไว้งานนี้เหมือนกับว่า "การออกหมายจับ"แกนนำก็ไม่มีผล และต่อไปก็นำไปสู่การยื่นขอยกเลิกหมายจับดังกล่าวต่อศาลอาญาในลำดับถัดไป นี่แหละถึงเรียกว่ากำลังนับถอยหลังเต็มทีแล้ว ทั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเครือข่ายระบอบทักษิณ ที่กำลังค่อยๆ พังครืนลงมา จากช้าๆ จนมาถึงรวดเร็วแบบฉับพลันในตอนท้ายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นไงละ !!
00 การกดดันผสมกับการ "บอยคอต" ไม่ซื้อสินค้า ไม่อุดหนุน รณรงค์ทำกันแบบ"ชัดเจนจริงจัง" ไม่ให้ผิดตัว มีการตรวจสอบให้แน่ชัดสำหรับบริษัทในเครือข่าย แต่สำหรับพวกบริษัทหลักๆ ที่เห็นชัดๆ สังคมรับรู้กันมานานแล้วว่าเป็นของพวก "ครอบครัวชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์" นั้นมีอะไรบ้าง อย่าซื้อ อย่าไปอุดหนุน ส่วนอีกทางหนึ่งก็ต่อต้าน อย่างเปิดเผย เอากันแบบจริงจังต่อเนื่อง มันก็จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่นั่นคือ "พวกพันธมิตรทางธุรกิจจะชิ่งหนี" ทันที โดยเฉพาะ"พวกฝรั่ง" พวกนี้มันจะนกรู้ อ่อนไหวก่อนใคร ขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปคือ การชี้แจงเรื่องการทำธุรกิจแบบ"ฉ้อฉลใต้โต๊ะ" ประจานออกไป ส่วนพวกที่เป็นธุรกิจภายในประเทศเมื่อได้รับผลกระทบมากก็ต้องออกมา "ยืนยันปฏิเสธ" ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับครอบครัวทรราช นั่นแหละถึงจะอยู่รอดต่อไปได้ ดังนั้นการต่อต้านแบบนี้แหละถือว่ามาถูกทาง และต้องจริงจังชัดเจน รวมไปถึงต้องเอาให้ชัด"อย่าให้ผิดตัว" ซึ่งบริษัทไหนที่รู้ว่าไม่ใช่ก็ต้องรีบออกมายืนยันว่าไม่เกี่ยวอย่างไร
00 สำหรับครอบครัวชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์ นอกจาก ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นสัญลักษณ์แล้ว สำหรับวงศ์สวัสดิ์ ก็มี เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ บริหารผ่านทาง "พวกลูกจ้าง" และลูกๆ หลานๆในครอบครัว ซึ่งต่อมาก็ส่งคนเข้ามาควบคุมรัฐวิสาหกิจสำคัญ ส่วนราชการก็แต่งตั้งทั้งญาติพี่น้อง และ"ข้าราชการขี้ข้า" ที่ยอมแลกศักดิ์ศรีกับตำแหน่งและผลประโยชน์รับรู้อยู่แล้วว่าเป็นใครบ้าง การบอยคอตต่อต้านธุรกิจในเครือครอบครัวชินวัตร ยังเป็นการ "กระตุกความรู้สึก" ของสังคมให้ได้สติว่า ทักษิณ และครอบครัวของมันคือ "พวกนักธุรกิจการเมือง" เจตนาลงทุนทางการเมืองเพื่อเข้าสู่อำนาจและใช้อำนาจรัฐ ใช้นโยบายของรัฐบาลมาทุจริตกอบโกย ซึ่งคราวนี้เป็นการ "ฮุบเอาทรัพยากรของชาติมาเป็นของส่วนตัว" เป็นการ "ร่วมมือแบบข้ามชาติ"แบบ "ทุนสามานย์ข้ามชาติ"อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวในเรื่องธุรกิจพลังงานทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้านทั้งเขมรและพม่า สรุปว่าถ้าเอาจริงชัดเจนต่อเนื่อง แม้วจ๊ากแน่ เพราะนี่คือ "ทุบหม้อข้าว"แบบตรงกบาลเลย !!
00 คำสั่งศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่แม้ไม่ได้ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของฝ่ายบริหาร เพราะศาลไม่มีของเขตอำนาจไปถึง แต่การออก 9 ข้อห้ามคุ้มครองการชุมนุม ถือว่า ทำให้ "ตัดมือตัดเท้า" ของ ศรส.ซึ่งก็คือ "ศูนย์ขี้ข้าทักษิณ"นั่นแหละทำให้ "พิกลพิการ"ทันที เพราะทั้งห้ามไม่ให้สลายชุมนุม รวมไปถึงคุกคามทางตรงทางอ้อมอื่นๆ ก็ทำให้ เฉลิม อยู่บำรุง แอ็กอาร์ตไม่ออก กลายเป็น "เปิดง่อย" ทันที และที่กูรู กม.ชี้ช่องเอาไว้งานนี้เหมือนกับว่า "การออกหมายจับ"แกนนำก็ไม่มีผล และต่อไปก็นำไปสู่การยื่นขอยกเลิกหมายจับดังกล่าวต่อศาลอาญาในลำดับถัดไป นี่แหละถึงเรียกว่ากำลังนับถอยหลังเต็มทีแล้ว ทั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเครือข่ายระบอบทักษิณ ที่กำลังค่อยๆ พังครืนลงมา จากช้าๆ จนมาถึงรวดเร็วแบบฉับพลันในตอนท้ายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นไงละ !!