“วิษณุ” มั่นใจฟื้นฟูความสามัคคี-คุณธรรม ผนวกเวลาจะช่วยแก้ไขปัญหาความวุ่นวายได้ แนะทุกฝ่ายรู้จักถอยปูทางสู่การเจรจา ระบุปัญหาทั้งหมดติดอยู่ที่กรอบ รธน. ขอให้ยึดปชต. แต่อย่ากอด รธน.จนเกินไป พร้อมปฎิเสธให้ความเห็นเรื่องการเลือกตั้งเป็นทางออกหรือไม่
วันนี้(8ก.พ.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่า มีความรู้สึกเป็นห่วง เพราะเป็นยุคที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน โดยมีความจลาจลวุ่นวายทั้งความคิดและการกระทำที่มีการปะทะกัน ตนมองว่าเป็นยุคที่ต้องฟื้นฟูด้วยการนำความสามัคคีและคุณธรรมกลับมาให้มากที่สุด ทั้งนี้ไม่มีสูตรว่าสุดท้ายจะจบอย่างไร แต่คนที่พยายามแก้ไขก็พยายามทำกันอยู่ เพียงแต่ทำอย่างไรจะให้มาถึงจุดที่จะถอยคนละก้าวหรือเดินเคียงคู่กันไปได้ ตนเชื่อว่าเวลาจะเป็นเครื่องแก้ไขปัญหาต่างๆได้ แต่ต้องช่วยกันประคับประคอง อย่าทำให้เกิดการแตกหักก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทาง สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เวลาจะเป็นส่วนช่วยแก้ไขปัญหาได้ ขึ้นอยู่กับว่าใครอึดกว่ากัน แต่อย่าอึดแข่งกัน ระหว่างนี้ต้องมีวิธีการเข้ามาช่วยจัดการ ตนทราบว่าขณะนี้มีหลายคนพยายามดำเนินการโดยจะเรียกว่าคนกลางบ้างหรือมาตรการต่างๆบ้าง เพียงแต่ยังไม่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงกองเชียร์ยังไม่สามารถทำให้ยุติลงได้ และผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง เช่นหากนึกถึงรัฐบาลก็จะนึกถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่จะทำให้ไม่สามารถพบกันได้ แต่เวลาจะทำให้สิ่งเหล่านี้ลดน้อยลงจนเกิดการเจรจา แต่กลัวว่าจะเกิดการแตกหักก่อนถึงเวลานั้น
เมื่อถามถึงหนทางที่จะนำไปสู่การเจรจาได้นั้นจะเป็นแนวทางใดและจำเป็นต้องมีคนกลางหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อย่าใช้สูตรเดียว เพราะต้องใช้ทุกแนวทาง บางแนวทางไม่สามารถบอกในที่สาธารณะได้ แต่ต้องมีการพบปะเจรจา มีคนกลางและการต่อรอง พร้อมกับใช้เวลาจนเงื่อนไขที่ตึงเกินไปค่อยๆหย่อน รัฐบาลเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมากับวันนี้ก็มีการเปลี่ยนท่าที โดยก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าจะมีปัญหาเรื่องข้าว ตนพูดเสมอว่ารัฐบาลคิดว่ามีจุดแข็งคือมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ และได้เสียงจากนานาชาติ เพราะยืนบนหลักประชาธิปไตย แต่จะเป็นจุดแข็งได้นานเท่าใดนั้นก็ไม่ทราบ เพราะรัฐบาลก็เผชิญจุดอ่อน 4-5 จุด เช่น ปัญหาการชุมนุมจากกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ปัญหาจากองค์กรอิสระ ปัญหาท่าทีฝ่ายทหาร และปัญหาที่เกิดจากการเป็นรัฐบาลรักษาการที่เหมือนกับการเป็นหง่อย ทั้งเรื่องการกู้เงินมาช่วยชาวนา การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ หรือเริ่มโครงการในนโยบายใหม่ก็ไม่สามารถทำได้ แต่ผู้ชุมนุมเองก็มีจุดอ่อนและจุดแข็งเช่นกัน ต่างคนต่างต้องพบปะพูดคุยกันด้วยความอดทนอดกลั้นและยอมถอย ที่ผ่านมาต่างคนต่างไม่ยอมถอย เพราะเชื่อมั่นในพลังของตนเอง แต่ก็จะเห็นว่าแต่ละฝ่ายไม่ได้มีพลังมากขึ้น
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลถอยและยอมลาออกจากตำแหน่งจะเป็นจุดที่ดีหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ความคิดมี แต่อยู่ในกระบวนการที่เขากำลังดำเนินการเจรจาต่อรอง ใครก็ตามที่นำเรื่องนี้มาพูดมากๆ ก็จะทำให้รัฐบาลทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม ตนขอไม่พูดสิ่งเหล่านี้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการที่พยายามให้ทั้งสองฝ่ายมาร่วมเจรจากันอยู่ เมื่อถามอีกว่าในแง่กฎหมายมีหลายภาคส่วนพยายามยกรัฐธรรมนูญมาอ้างอิงลดความชอบธรรมของรัฐบาล นายวิษณุ กล่าวว่า ประชาธิปไตยกับรัฐธรรมนูญคนละส่วนกัน รัฐธรรมนูญเป็นสัญลักษณ์รองรับกติกาประชาธิปไตย หากเรารักษาความเป็นประชาธิปไตย และให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญน้อยลงอาจจะแก้ไขปัญหาได้ โดยยังดำรงความเป็นประชาธิปไตยและธรรมราชาด้วย
“วันนี้ปัญหาทั้งหมดติดอยู่ที่กรอบรัฐธรรมนูญ ผมอยากให้ยึดประชาธิปไตย แต่อย่ากอดรัฐธรรมนูญจนเกินไป เพราะรัฐธรรมนูญอาจจะแก้ได้ หรือเลิกได้ รวมทั้งตีความผิดจากที่เคยตีความก็ได้ ส่วนจุดใดที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันได้นั้นผมขอไม่พูด เพราะพูดมากไม่ได้ ที่มันยุ่งทุกวันนี้เพราะคนที่ไปเจรจาออกมาพูดมาก คนที่พยายามแก้ไขปัญหาก็ออกมาเอาความดีใส่ตัว โดยออกมาบอกว่ากำลังทำอะไร ไปถึงไหนและอย่างไร สังคมไทยมีทิฐิ มีความละอาย และมีความรู้สึกเสียหน้า ดังนั้นอย่าทำให้เกิดความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้น ส่วนการเลือกตั้งจะเป็นทางออกหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ” นายวิษณุ กล่าว