พท.โวย กกต.รับลูกรัฐบุคคล วางกับดักให้รัฐบาลออก พ.ร.ฎ.ใหม่หวังยื้อเลือกตั้ง

โฆษก พท.โวย กกต.วางกับดักให้รัฐบาลออก พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ เชื่อรับลูกกลุ่มรัฐบุคคลหวังยื้อเลือกตั้ง พร้อมฉะ กรรมการสิทธิฯให้ความสำคัญคนต่างด้าวมากกว่าเรื่องของคไทย อ้างถ้า กปปส.ไม่ขวางเลือกตั้งรัฐบาลจ่ายเงินจำนำข้าวชให้ชาวนาได้นานแล้ว เรียกร้อง “สุเทพ” อย่าจับชาวนาเป็นตัวประกัน

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประชุมมีมติให้ 28 เขตที่ไม่มีผู้สมัคร ให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ว่า น่าจะเป็นการสูญเปล่า ที่อ้างว่าไม่มีผู้สมัครแม้แต่รายเดียว แต่ข้อเท็จจริงแล้วมีผู้สมัคร 100 กว่าคนจากหลายพรรค นี่เป็นการโยนภาระไปยังรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพราะรัฐบาลยุบสภาแล้วไม่มีอำนาจออก พ.ร.ฎ.ได้อีก โยนภาระให้ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ของ กกต.น่าจะมีนัยยะทางการเมือง นี่อาจเป็นกับดักที่ กกต.หากนายกฯออก พ.ร.ฎ.จะมีกลุ่มฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลร้องเอาผิดนายกฯ ทันที สอดคล้องกับข้อมูลที่ตนได้รับมาว่าจะมีการยื้อการเลือกตั้งออกไปอีก

“ศาลอาญาเคยได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าการรับสมัครส.ส.เป็นหน้าที่ของ กกต. แต่ทาง กกต.ก็ยังไม่ดำเนินการ นอกจากนี้ ผมทราบมาว่านายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งเคยทำงานร่วมกับ พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และมีฐานะเป็นลูกบุญธรรมด้วยใช่หรือไม่ เรื่องนี้น่าจะมีการรับลูกกัน สอดคล้องกับการออกมาของคณะรัฐบุคคลที่มีพล.อ.สายหยุดเป็นแกนนำ ผมเชื่อว่าเพื่อยื้อให้การเลือกตั้งออกไปอีก”

ส่วนที่ กกต.เตรียมหาที่ทำลายบัตรบัญชีรายชื่อ 15 จังหวัดใต้ที่ไม่ได้ใช้นั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า นี่คือการสูญเสียจากการถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส.ขัดขวางการเลือกตั้ง แทนที่ กกต.จะเอาผิดกับนายสุเทพทั้งทางแพ่งและอาญา กลับไม่ดำเนินการใดๆ เลย การที่ต้องเผาบัตรทิ้งแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของ กกต.ทำให้ประชาชนต้องเสียภาษีพิมพ์บัตรเลือกตั้งใหม่ ถ้านี่ไม่เรียกว่าการเลือกปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จะเรียกว่าอะไร

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ภายหลังจากที่นายสาธิต เซกัล ประธานหอการค้าไทย-อินเดียและแกนนำ กปปส. ส่งตัวแทนยื่นหนังสือให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) เนื่องจากถูกทางศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เนรเทศออกจากประเทศนั้น พบว่าเว็บไซต์ของ กสม.เอาเรื่องนายสาธิตที่เป็นต่างด้าวมาเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งๆ ที่เรื่องขัดขวางการเลือกตั้งหรือเหตุการณ์รุนแรงที่หลักสี่กลับไม่ยกมาเป็นเรื่องสำคัญ กสม.หายหัวไปไหน ทุกวันนี้กินเงินภาษีประชาชนแต่ทำงานไม่คุ้มเงินเดือนเลย เรื่องไหนที่กระทบกับรัฐบาลทำทันที แต่เรื่องไหนที่เกี่ยวกับม็อบของนายสุเทพไม่เห็นทำทั้งๆ ที่เป็นการคุกคามสิทธิประชาชน แสดงให้หเนถึงความสองมาตรฐาน ไม่คุ้มครองสิทธิประชาชนไทยแต่กลับไปคุ้มครองบุคคลที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคง

นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เดินขบวนรับบริจาคหาเงินช่วยชาวนาว่า เป็นการอ้างหาเงินช่วยชาวนา 10 ล้าน แต่นายสุเทเพขัดขวางไม่ให้มีรัฐบาลใหม่มาแก้ปัญหา แถมยังกดดันธนาคารของรัฐและเอกชน หรือที่เรียกว่าปากว่าตาขยิบ เอาความเดือดร้อนของชาวนามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ถ้านายสุเทพไม่ขวางป่านนี้รัฐบาลช่วยชาวนาได้แล้ว ตนขอยืนยันว่าไม่ว่าอย่างไรรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะไม่ทิ้งชาวนา

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เสริมว่าการสร้างภาพที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรใหม่ นายสุเทพเพียงจับชาวนาเป็นตัวประกันและใช้เป็นเครื่องมือหาประโยชน์ทางการเมือง การประกาศเป็นโรบินฮู้ดปล้นคนรวยช่วยคนจนของนายสุเทพ สร้างความสับสนเพราะสั่งมวลชน กปปส.ไปปิดล้อม ขัดขวาง สถาบันการเงินต่างๆ แล้วตัวเองมาสร้างภาพเดินสีลม เป็นการทำการเมืองอำมหิต ปิดกั้นเงินกู้แสนล้านให้ชาวนา แต่สร้างภาพหาเงินแค่ 10 ล้าน มันแลกกันไม่ได้ การเคลื่อนไหวของนายสุเทพจับแพะชนแกะ ลูบหน้าปะจมูก หาอะไรเจอก็มั่วไปเรื่อย ตกลงไม่ปฏิรูปแล้วหรือการเมือง สภาประชาชน พิมพ์เขียวยังหาไม่เจอ เพราะไม่มีอยู่จริงตั้งแต่แรก แต่ละเรื่องที่เคลื่อนมา เป้าหมายเดียวคือล้มรัฐบาลเท่านั้น

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยขออภัยชาวนาตัวจริงที่เดือดร้อน และก็ตั้งใจแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด แต่ผู้คนเห็นหมดในม็อบชาวนามี กปปส.ไปแฝงตัวเป็นแกนนำและชี้นำชาวนา ถ้านายสุเทพอยากช่วยชาวนาจริง ง่ายนิดเดียวคือไม่ไปก่อม็อบตั้งแต่ต้น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องลาออกทั้งพรรค กดดันรัฐบาลให้ยุบสภา โครงการจำนำข้าวก็ไม่สะดุด แถมยังปิดล้อม ขัดขวาง กดดันสถาบันการเงินผ่านสหภาพ ผ่านผู้ฝากเงิน ไม่ให้จ่ายเงินกู้ให้รัฐบาลเพื่อนำไปให้ชาวนา

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า มีการออกมาเคลื่อนไหว ให้ความเห็นของบุคคลต่างๆ ในทางที่เป็นลบ เพื่อกดดันรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ และ รมว.คลัง หรือนายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย ที่ออกมาไล่รัฐบาลและนายกรัฐมนตรี โดยอ้างถึงความล้มเหลวเรื่องจำนำข้าวนั้น เนื้อหาไม่ได้มีสาระอะไรใหม่ แผ่นเสียงตกร่อง การประกาศจะชุมนุมจนถึงสงกรานต์ จึงเป็นการสารภาพว่าไม่มีมูลเหตุปัจจัยใดจะไล่รัฐบาลได้ รัฐบาล พรรคเพื่อไทย เพื่อชาวนา ต้องการเห็นชาวนาลืมตาอ้าปากได้ แต่ไม่รู้เป็นกรรมเวรของชาวนาไทยหรืออย่างไร พรรคประชาธิปัตย์คัดค้านโครงการนี้ตั้งแต่ต้น ขัดขวางทั้งในสภา นอกสภา จับชาวนาเป็นตัวประกัน การออกมาร่วมกันปล้นอำนาจรัฐของคนพวกนี้ คงต้องไปตกลงกันว่า ระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ใครจะได้เป็นนายกฯมาตรา 7 ส่วนนายประสิทธิ์ คงจะจองสมาชิกสภาประชาชนกลุ่มวิชาชีพชาวนา

นายอนุสรณ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่รับคำร้อง นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะว่า ทีมทนายความพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก คงจะว่างจัด จึงเดินสายยื่นเรื่องร้องต่างๆ เลอะเทอะ ทั้งที่พรรคเพื่อไทยบอกแล้วว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องนี้ไม่ได้ ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาขอโทษประชาชนกว่า 20 ล้านคนที่ฝ่าดงระเบิดมาเลือกตั้ง

แล้วถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นโมฆะนายอภิสิทธิ์จะรับออกค่าใช้จ่าย 3,800 ล้านบาทให้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ละเลยงานสร้างสรรค์ มุ่งเน้นด้านทำลาย จัดลำดับความสำคัญของงานผิด แทนที่จะคิดนโยบายไปสู้ศึกเลือกตั้ง เอาชนะใจประชาชน แต่กลับทุ่มเทสรรพกำลังไปทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เป็นวิธีทำลายมากกว่าสร้างสรรค์ จัดลำดับผิด นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์คิดจะปฏิรูปยังโดนปลดเลย ไม่เคยมียุคใดที่พรรคประชาธิปัตย์ เพลี่ยงพล้ำด้านต่างประเทศเท่ายุคนี้ แล้วไปกล่าวหาพรรคอื่น จ้างล็อบบี้ยิสต์ ไม่มีหรอกยุทธศาสตร์โลกปิดล้อมไทย เห็นแต่ กปปส.ปิดล้อมประเทศตัวเอง เท่านั้น ซึ่งคนพวกนี้คงปิดล้อม จับคนไทยเป็นตัวประกัน จนกว่านายอภิสิทธิ์ และพวกจะปล้นอำนาจรัฐสำเร็จ และเป็นนายกฯมาตรา 7 สมใจ ใช่หรือไม่