xs
xsm
sm
md
lg

โศกนาฏกรรม “ชาวนาไทย” จากพิษประชานิยม “ปูเน่า”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานการเมือง

“เอาใบประทวนมึงคืนไป เอาข้าวกูคืนมา” เป็นหนึ่งในประโยคสุดฮิตในที่ชุมนุมประท้วงเพื่อทวงเงินจำนำข้าวของชาวนาจากทุกสารทิศ

สะท้อนว่าแม้รัฐบาลจะพยายามให้สัญญาหน้าฝนไว้อย่างไร แต่มิอาจสร้างความมั่นใจให้ชาวนาเชื่อถือได้อีกแล้ว จึงไม่หวังได้เงิน แต่ขอแค่ให้ได้ข้าวกลับคืนมา เพื่อนำไปขายนำเงินมาหมุนเวียนใช้หนี้ต่อลมหายใจให้ครอบครัวได้ ยังชีวิตบนโลกต่อไปก็ยังดี

แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่นอกจากรัฐบาลโกงจนไม่มีเงินจ่ายชาวนาแล้ว ยังโกงจนไม่มีข้าวคืนชาวนาด้วย

ชาวนา พ.ศ.นี้ จึงต้องเปลี่ยนสำนวนใหม่ให้ตรงกับพฤติกรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จาก “ชาวนากับงูเห่า” มาเป็น “ชาวนากับปูเน่า” เพราะวันนี้ผลจากโครงการประชาล่มจมรับจำนำข้าวสูงกว่าราคาตลาดถึง 40% มีการทุจริตทุกขั้นตอน เอาเปรียบชาวนา ทำจีทูจีเก๊จนเจ๊งไปแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท ใช้งบเกินวงเงินที่กำหนดไว้ 5 แสนล้านบาทไปอีก 2 แสนล้านบาท แถมค้างชำระหนี้ ธ.ก.ส.กว่า 2 แสนล้านบาท และกำลังจะบีบให้ ธ.ก.ส.ต้องปล่อยเงินกู้มาใช้ในโครงการนี้เพิ่มเติม

ทั้งๆ ที่ ครม.รักษาการไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการได้นั้นล้วนแต่เป็นพฤติกรรมที่ปอกเปลือกตัวเองล่อนจ้อนว่า ยิ่งลักษณ์ไม่เพียงไร้ความสามารถ ไร้ความรับผิดชอบ ในการบริหารประเทศเท่านั้น แต่ยังไร้ซึ่งสำนึกผิด ชอบ ชั่ว ดี และมีความอำมหิตผิดมนุษย์อย่างยิ่ง

เธอเคยจีบปากจีบคอพูดว่าไอ้ที่ขาดทุนไปหลายแสนล้านบาทนั่นน่ะ ทำให้ชีวิตของชาวนาดีขึ้นแล้วก็ทำเสียงออดอ้อนว่า “ให้ชาวนาเถอะค้า” แต่วันนี้เธอไม่เคยพูดถึงชีวิตลำเค็ญของชาวนาจากนโยบายไร้สำนึกของรัฐบาลแม้แต่น้อย

และที่สำคัญเธอคงไม่ก้มหูลงมาฟังเสียงชาวนาที่กำลังเดือดร้อนเลือดตาแทบกระเด็นอย่าง วลิต เจริญสมบัติ ประธานศูนย์ข้าวชุมชน จ.ราชบุรี ที่ได้ตั้งคำถามกับเธอว่า “รัฐบาลเคยบอกว่าเห็นใจพี่น้องชาวนา อยากให้พี่น้องชาวนาลืมตาอ้าปากได้ แต่ ณ วันนี้เป็นไง ชาวนาถูกจับเป็นตัวประกัน ผมอยากจะฝากถามไปถึงท่านนายกฯ นะครับ ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วันนี้ท่านยังกลืนข้าวลงคออยู่หรือครับ ในขณะที่พี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศกำลังจะอดตาย เราทำนากันอย่างเหนื่อยยากกว่าจะได้ข้าวกันแต่ละเม็ด แล้ว ณ วันนี้ ไม่โกงก็เหมือนโกง”

นี่หรือคือชีวิตที่ดีขึ้นของชาวนาที่ “ยิ่งลักษณ์” บรรจงมอบให้?

การลุกฮือของชาวนาทั่วประเทศเพื่อทวงคืนเงินของตัวเองจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลและน่าเห็นใจยิ่งซึ่งสังคมไทยควรจะร่วมกันช่วยกดดันรัฐบาลให้หาเงินมาจ่ายชาวนาให้ได้โดยเร็วที่สุดภายใต้กรอบของกฎหมาย นั่นก็คือ “การระบายข้าวในสต๊อก” ออกไปไม่ใช่การกู้เงินที่จะกระทบต่อสถานะทางการเงินของธนาคารรัฐและยังขัดต่อรัฐธรรมนูญอีกด้วย

ปัญหาที่ชาวนาได้ใบประทวนแต่ไม่ได้เงินจนต้องถามกันออกมาดังๆ ว่า “เอาข้าวกูไปแล้วเงินอยู่ไหน” ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นแต่มีให้เห็นประปรายมาตั้งแต่ปี 2555 และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2556 จนหนี้ที่รัฐมีต่อชาวนากลายเป็นดินพอกหางหมูสูงถึง 1.3 แสนล้านบาท แต่รัฐบาลยังบริหารแบบไร้สำนึกไม่คิดแก้ไขมีแต่ผูกปมปัญหาเพิ่มขึ้นด้วยการโกหกเพิ่มเติมเพื่อตบตาชาวนา ด้วยการอนุมัติตัวเลขมั่ว 2.7 แสนล้านบาทมาใช้ในโครงการจำนำข้าว

ทั้งที่ความจริงยอดเงินดังกล่าวไม่สามารถจะดำเนินการได้อีกต่อไปแล้ว แม้จะแบ่งเป็นเงินกู้ 1.3 แสนล้าน และเงินจากการระบายข้าว 1.4 แสนล้านก็เถอะ

เพราะประเด็นอยู่ที่ โครงการจำนำข้าว นั้นมีการอนุมัติให้ใช้วงเงินทั้งโครงการรวม 5 แสนล้านบาท ซึ่งหมายถึงเป็นเงินหมุนเวียนตลอดทั้งโครงการ ไม่ใช่เพียงแค่ฤดูกาลใดฤดูกาลหนึ่ง แต่ที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้เงินจำนำข้าวเกินกว่าที่มติ ครม.กำหนดไปถึง 2 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าผิดมติ ครม.ตัวเองไปแล้วยังออกมติ ครม.ที่ขัดกับมติ ครม.อีกครั้งด้วยการอนุมัติเงินกู้อีก 2.7 แสนล้าน

ผลที่ได้จึงมีแต่ เศษกระดาษกับตัวเลข และคำหลอกลวง ไปบอกชาวนาว่ารัฐบาลอนุมัติเงินกู้แล้ว เพราะความจริงคือการอนุมัติวงเงินดังกล่าวไม่สามารถที่จะดำเนินการได้โดยที่รัฐบาลเองก็รู้ดีแต่เพราะต้องการเอาตัวรอดจึงตบตาชาวนา โกหกสังคม กันแบบหน้าด้านๆ กระทั่งสุดท้ายความจริงก็โผล่ออกมาประจานด้วยการประท้วงปิดถนนของชาวนา

เพราะใบประทวนที่รัฐบาลมอบให้กลายเป็น “ใบมรณบัตร” คร่าชีวิตชาวนาไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10 รายเอาเฉพาะแค่ในปี 2557 มีชาวนาฆ่าตัวตายแล้ว 4 รายจาก บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด และพิจิตร ยังไม่รวมที่ฆ่าตัวตายในปี 2555 และ 2556

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเดือดร้อนจริงไม่มีดรามา ตายจริง เจ็บจริง และเป็นใบเสร็จที่ชาวนาสัมผัสได้ถึงพิษภัยของ “ประชาล่มจม” ที่ทักษิณคิดให้ยิ่งลักษณ์ทำ แต่ไม่รับผิดชอบซึ่งกำลังทำให้รัฐบาลเข้าตาจนอยู่ในวันนี้ เพราะทางออกตีบตันลงเรื่อยๆ การเมืองก็รุมเร้า ความชอบธรรมในการบริหารประเทศไม่มีเปลี่ยนสภาพชาวนาจากลูกหนี้มาเป็นเจ้าหนี้รัฐบาลทวงหนี้ประจานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน โดยมีแนวโน้มที่จะทวีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ

การจะระบายข้าวจากสต๊อกที่คาดกันว่าน่าจะสูงถึงเกือบ 20 ล้านตันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะผู้ประกอบการเองก็ไม่กล้าประมูลเนื่องจากไม่แน่ใจคุณภาพข้าวว่าเน่าเสียมากกว่าข้าวดีหรือไม่ที่สำคัญคือที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์คุยโม้ไว้ว่าในปี 2556 จะระบายข้าวได้ 1.35 แสนล้านตัน เพื่อใช้หนี้ให้ ธ.ก.ส.นำไปหมุนเวียนใช้จ่ายในโครงการแต่ก็ไม่สามารถทำได้ โดยมีเงินจากการระบายข้าวราว 4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

สิ่งที่รัฐบาลทำได้ในวันนี้คือโยนบาปให้คนอื่น ตั้งแต่ กปปส.ปิดกระทรวงการคลัง ทำให้จ่ายเงินไม่ได้พนักงานธนาคารใจดำไม่ยอมปล่อยกู้ ฯลฯ และการให้สัญญาลมๆ แล้งๆ ที่ทำไม่ได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลายเป็นรัฐบาลที่ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือสำหรับชาวนาไปแล้วไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่สามารถทำให้ชาวนาเชื่อได้อีกเพราะลมหายใจของชาวนากำลังรวยรินใกล้สิ้นใจอยู่ทุกขณะ

ไม่แตกต่างไปจากลมหายใจของรัฐบาลที่กำลังจะสิ้นสุดในเร็ววันนี้พร้อมกับความล่มสลายของระบอบทักษิณ และพิษประชานิยม ที่จะพังทลายไปพร้อมๆ กัน

วันนี้จึงไม่ต้องถามว่าเมื่อไหร่ประชาชนจะชนะเพราะวันนี้ ทักษิณ แพ้อย่างราบคาบแล้ว และไม่มีวันได้ผุดได้เกิดทางการเมืองอีกหรืออาจจะหนักหนากว่านั้นคือทั้งตระกูลอาจไม่สามารถเหยียบยืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยได้ด้วยซ้ำ

หน้าที่คนไทยวันนี้จึงต้องเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ซ้ำเติมคนที่เคยหลงเชื่อมนต์ดำของทักษิณแล้วผนึกกำลังกันไล่รัฐอัปรีย์ออกจากอำนาจ ถีบสัตว์นรกกลับไปอยู่ในที่ในทางของมัน เพื่อให้มนุษย์ได้ใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไปในสังคมปกติ ที่ไม่มีสัตว์นรกแอบมาปะปนเสียที
กำลังโหลดความคิดเห็น