**ล่าสุด ยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ จอมสับปลับ อ้างว่ารัฐบาลจะสามารถจ่ายเงินให้กับชาวนาได้ภายใน 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ นับเป็นอีกครั้งที่รัฐบาลให้คำมั่นสัญญาทำนองนี้ แต่ก็วืดมาตลอดไม่รู้ว่าคราวนี้ จะเชื่อได้แค่ไหน จะหลอกต้มชาวนาเหมือนครั้งที่ผ่านมาหรือไม่
คำยืนยันดังกล่าวของ ยรรยง พวงราช เกิดขึ้นหลังไปร่วมประชุมกับตัวแทนคณะกรรมการสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยรมช.พาณิชย์ บอกว่า แนวทางที่รัฐบาลจะนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาการหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาก็ทำ 2 แนวทางควบคู่กันไป
1. กระทรวงพาณิชย์จะเร่งระบายข้าวส่งออก เพื่อนำเงินจากการขายข้าวมาช่วยเหลือเกษตรกร ตามข่าวก่อนหน้านี้ก็คือจะมีการประมูลข้าวล็อตใหญ่ 13 ก.พ.นี้ จำนวน 227,808 ตัน ที่ถือเป็นล็อตใหญ่ และจะมีการเปิดประมูลแบบทั่วไปอีก 4.6 แสนตัน และประมูลให้กับกลุ่มโรงสีอีก 5 แสนตัน คาดจะได้เงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
2. รัฐบาลได้มีการเจรจากับสมาคมโรงสี เพื่อขอให้โรงสีสำรองจ่ายเงินครึ่งหนึ่งของราคาในใบประทวน และอีกครึ่งหนึ่งให้ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่าย จากนั้นรัฐบาลก็จะไปเจรจากับแหล่งเงินทุนคือ สถาบันการเงิน เพื่อนำเงินไปคืนให้กับธ.ก.ส. เต็มจำนวน แล้วให้ทาง ธ.ก.ส. จ่ายคืนกับทางโรงสีที่จ่ายเงินไปก่อน คิดว่าแนวทางที่สองน่าจะดำเนินการได้ภายใน 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะทำเรื่องไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขออนุญาตใช้งบประมาณกลาง 1,200 ล้านบาท มาชดเชยค่าดอกเบี้ยร้อยละ 0-9 ให้กับโรงสีที่เข้าร่วมรับจำนำใบประทวนก่อน โดยจะส่งไป กกต.ภายในไม่เกิน 10 ก.พ.นี้
**หาก กกต.ไม่เห็นชอบ จะกลายเป็นข้ออ้างให้รัฐบาลเอาไปอ้างอีกหรือเปล่าว่า รัฐบาลพยายามทุกวิถีทางแล้วในการหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนาให้ได้ แต่ก็เจอปัญหาอุปสรรคทางการเมือง ทำให้ไม่สามารถทำได้
เหมือนกับที่พยายามปัดสวะมาตลอดว่า เหตุที่จ่ายเงินไม่ได้ เพราะสาเหตุทางการเมือง เช่น มวลมหาประชาชนไปปิดล้อมกระทรวงการคลัง-สำนักงบประมาณ หรือไม่ก็อ้างว่าเพราะยุบสภาฯ ที่ถูกหลายฝ่ายโดยเฉพาะชาวนาออกมาจับโกหกกันหมดแล้วว่า เรื่องม็อบ หรือเรื่องยุบสภาฯไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลยเพราะปัญหาการจ่ายเงินดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการรวมตัวกันของ กปปส.และการยุบสภาฯ เสียอีก
ท่ามกลางกระแสข่าวรอบใหม่ว่า เงินทุนที่รัฐบาลจะนำมาใช้ในการจ่ายเงินให้กับชาวนาที่อาจจ่ายตรงไปเลย หรือรัฐบาลอาจจ่ายคืนให้ธ.ก.ส.หากใช้วิธีการให้โรงสีเข้ามาช่วยแล้วให้ธ.ก.ส.ออกเงินไปด้วยอีก 50 เปอร์เซนต์ ทบกับที่โรงสีจ่ายไปจะเป็นเงินที่รัฐบาลจะได้จากการออกพันธบัตรรัฐบาล แล้วให้หน่วยงานของรัฐที่มีเงินในหน้าตักจำนวนมาก เช่น สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สำนักงานประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เป็นผู้ลงทุนในพันธบัตรดังกล่าว
ประเด็นนี้ ยังคงเป็นข่าวแต่ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะเอาอย่างไรจึงต้องดูว่า รัฐบาลจะจะใช้วิธีไหน และทำแล้วไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แนวทางการให้ โรงสีเข้ามาช่วยในครั้งนี้ก็มีการตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นเรื่องการเมืองเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะก็อย่างที่รู้ๆ โรงสีกับนักการเมือง-หัวคะแนนในพื้นที่ เป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างเหนียวแน่นมาทุกยุคทุกสมัย พวกนักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล เวลานี้โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย-ชาติไทยพัฒนา หลายสิบคนล้วนมีธุรกิจเกี่ยวกับโรงสีข้าว อยู่จำนวนมาก
**เมื่อรัฐบาลกำลังเข้าตาจนแบบนี้ ก็ต้องใช้การเมืองมาช่วยเหลือกันแล้ว ไม่อย่างนั้นก็พังกันหมดเหมือนกับที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายแกนนำรัฐบาลเพื่อไทยมีข่าวว่า พยายามจะเข้าไปกดดันแทรกแซงผู้บริหารธนาคารของรัฐให้ปล่อยสินเชื่อให้รัฐบาลนำไปจ่ายเงินให้ชาวนา แต่ว่าเรื่องแตกเสียก่อน โดนประชาชนและกลุ่มพนักงานในธนาคารรัฐหลายแห่งออกมาคัดค้านต่อต้าน เลยต้องใช้วิธีอื่น
สุดท้ายต้องหันมาพึ่งพาเงินจากเถ้าแก่โรงสี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า หากโรงสีเล่นด้วย ก็ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย แล้วจะมีโรงสีสักกี่แห่งที่มีเงินสำรองมากพอ
ที่น่าสนใจก็คือ การตั้งข้อสังเกตุของมือตรวจสอบจำนำข้าวของพรรคประชาธิปัตย์อย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ที่ให้ข้อมูลว่า ทางรัฐบาลไปกดดันโรงสีให้โรงสีมารับจำนำใบประทวนแทนรัฐบาล แล้วรัฐบาลก็จ่ายดอกเบี้ยแทนให้โรงสี เท่ากับรัฐบาลกำลังให้โรงสีทำตัวเป็นสถาบันการเงินแทน
แต่มีข่าวโรงสีก็ทำท่าไม่กล้าเสี่ยง เพราะไม่รู้ว่ารัฐบาลจะมีอะไรรับประกันให้โรงสี เพราะสถานการณ์การเมืองก็ไม่แน่นอน การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อาจจะยืดเยื้อ หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้าแล้วรัฐบาลกู้เงินมาไม่ได้ แล้วรัฐบาลจะหาเงินที่ไหนมาคืนทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย ให้โรงสี
การหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนาของรัฐบาลเวลานี้ อยู่ในสภาพเรียกว่า เข้าตาจน เพราะถูกชาวนาทั่วประเทศลุกฮือทวงเงินโดยพร้อมเพียงกันการชุมนุมปิดถนนหลายสายในหลายจังหวัดยังคงดำเนินต่อไป ขณะเดียวกันพบว่าการปักหลักชุมนุมของชาวนาหลายจังหวัดที่กระทรวงพาณิชย์ ที่ทำกันมาได้หลายวันแล้ว ก็ได้กำลังใจจากประชาชนจำนวนมาก มีการส่งเงินช่วยเหลือ-อาหาร-น้ำไปให้ตลอด
อีกทั้งข่าวครอบครัวชาวนาที่เจอปัญหายังไม่ได้เงินค่าข้าว แล้วมีผลกระทบในการดำเนินชีวิตและการทำนาก็มีออกมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกชาวนาหลายครอบครัวไม่มีเงินไปเรียนหนังสือ หรือไม่ก็ข่าวชาวนาศรีสะเกษ เครียดไม่มีเงินใช้หนี้เลยผูกคอตาย เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ก็มีข่าวปรากฏทางสื่อว่ามีชาวนาที่กำแพงเพชร เกิดอาการเครียดหาเงินมาหมุนใช้หนี้ 3 แสนบาท ที่เกิดจากเช่าที่นาปลูกข้าวไม่ทัน เพราะยังไม่ได้เงินจากรัฐบาลแล้วถูกทวงหนี้หนักเลยช็อกเสียชีวิตขณะดูโทรทัศน์
ความเดือดร้อนแสนสาหัสที่ชาวนากำลังเผชิญ พวกคนในรัฐบาลเพื่อไทยจะแก้ปัญหาได้อย่างไร และแล้วเสร็จได้เมื่อใด ยังไงเสียทุกคนก็เอาใจช่วยให้รัฐบาลหาวิธีแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว แต่ต้องเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน และถูกต้องตามครรลอง ไม่ใช่ใช้วิธีการแบบขอไปที เอาให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนแล้วก็สะสมปัญหาต่อไปเรื่อยๆ
ที่สำคัญคนในรัฐบาลต้องหยุดได้แล้ว กับการโยนความผิดเรื่องนี้ไปให้คนอื่น รวมถึงการป้ายสีชาวนาที่ออกมาเคลื่อนไหวทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดว่าเป็น“ชาวนาปลอม”
**เท่ากับว่ารัฐบาลขี้ฉ้อกำลังจะบอกกับสังคมว่า ชาวนาที่ออกมาทวงหนี้ไม่ใช่คนเดือดร้อนจริง การจำนำข้าวไม่มีปัญหา ซึ่งมันทุเรศสิ้นดี กับวิธีการแก้ไขปัญหาสับปลับแบบนี้
คำยืนยันดังกล่าวของ ยรรยง พวงราช เกิดขึ้นหลังไปร่วมประชุมกับตัวแทนคณะกรรมการสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยรมช.พาณิชย์ บอกว่า แนวทางที่รัฐบาลจะนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาการหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาก็ทำ 2 แนวทางควบคู่กันไป
1. กระทรวงพาณิชย์จะเร่งระบายข้าวส่งออก เพื่อนำเงินจากการขายข้าวมาช่วยเหลือเกษตรกร ตามข่าวก่อนหน้านี้ก็คือจะมีการประมูลข้าวล็อตใหญ่ 13 ก.พ.นี้ จำนวน 227,808 ตัน ที่ถือเป็นล็อตใหญ่ และจะมีการเปิดประมูลแบบทั่วไปอีก 4.6 แสนตัน และประมูลให้กับกลุ่มโรงสีอีก 5 แสนตัน คาดจะได้เงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
2. รัฐบาลได้มีการเจรจากับสมาคมโรงสี เพื่อขอให้โรงสีสำรองจ่ายเงินครึ่งหนึ่งของราคาในใบประทวน และอีกครึ่งหนึ่งให้ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่าย จากนั้นรัฐบาลก็จะไปเจรจากับแหล่งเงินทุนคือ สถาบันการเงิน เพื่อนำเงินไปคืนให้กับธ.ก.ส. เต็มจำนวน แล้วให้ทาง ธ.ก.ส. จ่ายคืนกับทางโรงสีที่จ่ายเงินไปก่อน คิดว่าแนวทางที่สองน่าจะดำเนินการได้ภายใน 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะทำเรื่องไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขออนุญาตใช้งบประมาณกลาง 1,200 ล้านบาท มาชดเชยค่าดอกเบี้ยร้อยละ 0-9 ให้กับโรงสีที่เข้าร่วมรับจำนำใบประทวนก่อน โดยจะส่งไป กกต.ภายในไม่เกิน 10 ก.พ.นี้
**หาก กกต.ไม่เห็นชอบ จะกลายเป็นข้ออ้างให้รัฐบาลเอาไปอ้างอีกหรือเปล่าว่า รัฐบาลพยายามทุกวิถีทางแล้วในการหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนาให้ได้ แต่ก็เจอปัญหาอุปสรรคทางการเมือง ทำให้ไม่สามารถทำได้
เหมือนกับที่พยายามปัดสวะมาตลอดว่า เหตุที่จ่ายเงินไม่ได้ เพราะสาเหตุทางการเมือง เช่น มวลมหาประชาชนไปปิดล้อมกระทรวงการคลัง-สำนักงบประมาณ หรือไม่ก็อ้างว่าเพราะยุบสภาฯ ที่ถูกหลายฝ่ายโดยเฉพาะชาวนาออกมาจับโกหกกันหมดแล้วว่า เรื่องม็อบ หรือเรื่องยุบสภาฯไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลยเพราะปัญหาการจ่ายเงินดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการรวมตัวกันของ กปปส.และการยุบสภาฯ เสียอีก
ท่ามกลางกระแสข่าวรอบใหม่ว่า เงินทุนที่รัฐบาลจะนำมาใช้ในการจ่ายเงินให้กับชาวนาที่อาจจ่ายตรงไปเลย หรือรัฐบาลอาจจ่ายคืนให้ธ.ก.ส.หากใช้วิธีการให้โรงสีเข้ามาช่วยแล้วให้ธ.ก.ส.ออกเงินไปด้วยอีก 50 เปอร์เซนต์ ทบกับที่โรงสีจ่ายไปจะเป็นเงินที่รัฐบาลจะได้จากการออกพันธบัตรรัฐบาล แล้วให้หน่วยงานของรัฐที่มีเงินในหน้าตักจำนวนมาก เช่น สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สำนักงานประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เป็นผู้ลงทุนในพันธบัตรดังกล่าว
ประเด็นนี้ ยังคงเป็นข่าวแต่ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะเอาอย่างไรจึงต้องดูว่า รัฐบาลจะจะใช้วิธีไหน และทำแล้วไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แนวทางการให้ โรงสีเข้ามาช่วยในครั้งนี้ก็มีการตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นเรื่องการเมืองเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะก็อย่างที่รู้ๆ โรงสีกับนักการเมือง-หัวคะแนนในพื้นที่ เป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างเหนียวแน่นมาทุกยุคทุกสมัย พวกนักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล เวลานี้โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย-ชาติไทยพัฒนา หลายสิบคนล้วนมีธุรกิจเกี่ยวกับโรงสีข้าว อยู่จำนวนมาก
**เมื่อรัฐบาลกำลังเข้าตาจนแบบนี้ ก็ต้องใช้การเมืองมาช่วยเหลือกันแล้ว ไม่อย่างนั้นก็พังกันหมดเหมือนกับที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายแกนนำรัฐบาลเพื่อไทยมีข่าวว่า พยายามจะเข้าไปกดดันแทรกแซงผู้บริหารธนาคารของรัฐให้ปล่อยสินเชื่อให้รัฐบาลนำไปจ่ายเงินให้ชาวนา แต่ว่าเรื่องแตกเสียก่อน โดนประชาชนและกลุ่มพนักงานในธนาคารรัฐหลายแห่งออกมาคัดค้านต่อต้าน เลยต้องใช้วิธีอื่น
สุดท้ายต้องหันมาพึ่งพาเงินจากเถ้าแก่โรงสี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า หากโรงสีเล่นด้วย ก็ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย แล้วจะมีโรงสีสักกี่แห่งที่มีเงินสำรองมากพอ
ที่น่าสนใจก็คือ การตั้งข้อสังเกตุของมือตรวจสอบจำนำข้าวของพรรคประชาธิปัตย์อย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ที่ให้ข้อมูลว่า ทางรัฐบาลไปกดดันโรงสีให้โรงสีมารับจำนำใบประทวนแทนรัฐบาล แล้วรัฐบาลก็จ่ายดอกเบี้ยแทนให้โรงสี เท่ากับรัฐบาลกำลังให้โรงสีทำตัวเป็นสถาบันการเงินแทน
แต่มีข่าวโรงสีก็ทำท่าไม่กล้าเสี่ยง เพราะไม่รู้ว่ารัฐบาลจะมีอะไรรับประกันให้โรงสี เพราะสถานการณ์การเมืองก็ไม่แน่นอน การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อาจจะยืดเยื้อ หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้าแล้วรัฐบาลกู้เงินมาไม่ได้ แล้วรัฐบาลจะหาเงินที่ไหนมาคืนทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย ให้โรงสี
การหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนาของรัฐบาลเวลานี้ อยู่ในสภาพเรียกว่า เข้าตาจน เพราะถูกชาวนาทั่วประเทศลุกฮือทวงเงินโดยพร้อมเพียงกันการชุมนุมปิดถนนหลายสายในหลายจังหวัดยังคงดำเนินต่อไป ขณะเดียวกันพบว่าการปักหลักชุมนุมของชาวนาหลายจังหวัดที่กระทรวงพาณิชย์ ที่ทำกันมาได้หลายวันแล้ว ก็ได้กำลังใจจากประชาชนจำนวนมาก มีการส่งเงินช่วยเหลือ-อาหาร-น้ำไปให้ตลอด
อีกทั้งข่าวครอบครัวชาวนาที่เจอปัญหายังไม่ได้เงินค่าข้าว แล้วมีผลกระทบในการดำเนินชีวิตและการทำนาก็มีออกมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกชาวนาหลายครอบครัวไม่มีเงินไปเรียนหนังสือ หรือไม่ก็ข่าวชาวนาศรีสะเกษ เครียดไม่มีเงินใช้หนี้เลยผูกคอตาย เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ก็มีข่าวปรากฏทางสื่อว่ามีชาวนาที่กำแพงเพชร เกิดอาการเครียดหาเงินมาหมุนใช้หนี้ 3 แสนบาท ที่เกิดจากเช่าที่นาปลูกข้าวไม่ทัน เพราะยังไม่ได้เงินจากรัฐบาลแล้วถูกทวงหนี้หนักเลยช็อกเสียชีวิตขณะดูโทรทัศน์
ความเดือดร้อนแสนสาหัสที่ชาวนากำลังเผชิญ พวกคนในรัฐบาลเพื่อไทยจะแก้ปัญหาได้อย่างไร และแล้วเสร็จได้เมื่อใด ยังไงเสียทุกคนก็เอาใจช่วยให้รัฐบาลหาวิธีแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว แต่ต้องเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน และถูกต้องตามครรลอง ไม่ใช่ใช้วิธีการแบบขอไปที เอาให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนแล้วก็สะสมปัญหาต่อไปเรื่อยๆ
ที่สำคัญคนในรัฐบาลต้องหยุดได้แล้ว กับการโยนความผิดเรื่องนี้ไปให้คนอื่น รวมถึงการป้ายสีชาวนาที่ออกมาเคลื่อนไหวทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดว่าเป็น“ชาวนาปลอม”
**เท่ากับว่ารัฐบาลขี้ฉ้อกำลังจะบอกกับสังคมว่า ชาวนาที่ออกมาทวงหนี้ไม่ใช่คนเดือดร้อนจริง การจำนำข้าวไม่มีปัญหา ซึ่งมันทุเรศสิ้นดี กับวิธีการแก้ไขปัญหาสับปลับแบบนี้