xs
xsm
sm
md
lg

ศาล รธน.จำหน่ายคำร้องวินิจฉัยสมาชิกภาพ “มาร์ค” ชี้รัฐใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ม็อบ กปปส.ยังไม่ผิด ม.68

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
ที่ประชุมตุลาการศาล รธน.มีมติสั่งจำหน่ายคำร้องวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. “อภิสิทธิ์” อ้างมี พ.ร.ฎ.ยุบสภาแล้ว-เสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “วิรัตน์-ส.ว.ไพบูลย์” ขอวินิจฉัยใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินช่วงเลือกตั้ง เพื่ออำนาจนอก รธน. ชี้ยังไม่มีมูล ไม่รับคำร้อง “สิงห์ทอง” จี้ “สุเทพ” เลิกม็อบ ระบุเป็นเสรีภาพไม่มีมูลล้มการปกครอง นัดผู้เชี่ยวชาญไต่สวนคดีกู้ 2 ล้านล้านพุธหน้า



วันนี้ (5 ก.พ.) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าวเผยแพร่ผลการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติสั่งจำหน่ายคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยขอให้วินิจฉัยให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (5) ประกอบมาตรา 102 (6) เนื่องจากกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลดออกจากราชการทหาร เนื่องจากเห็นว่ามีพระราชกฤษฎีกายุบสภาตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. ทำให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (1) แล้วจึงไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาคดีนี้ต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ และคำร้องที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ขอให้วินิจฉัยว่าการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และอ.บางพลี จ.สุมทรปราการ ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ. มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เข้าข่ายเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่าตามคำร้องอ้างว่านายกฯ และครม.ได้กระทำการออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ออกคำสั่งแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงานฯ อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมายและระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น กรณีตามคำร้องยังไม่มีมูลที่จะเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงไม่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง

ขณะเดียวกัน มีมติไม่รับคำร้องที่นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทยยื่นขอให้สั่งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ยุติการชุมนุม ยุติบุกยึดสถานที่ราชการ เพราะเข้าข่ายเป็นการกระทำล้มล้างการปกครองและกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศไทยขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 โดยศาลเห็นว่าการชุมนุมเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ มีเหตุผลสืบเนื่องมาจากการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ส่วนกรณีการกระทำของ กปปส.และคปท.จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกฎหมายอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่ผู้รับผิดชอบในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงไม่มีมูลกรณีที่จะเป็นการล้มล้างการปกครองหรือเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังได้มีคำสั่งให้มีการไต่สวนคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่าร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดหรือแย้ง หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยให้พยานผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งประกอบด้วย ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือผู้แทน นายพิสิฐ์ ลี้อาธรรม อดีต ส.ส.ร.ปี 50 น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง นายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง และนายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง มาให้ข้อถ้อยคำในวันพุธที่ 12 ก.พ.เวลา 10.00 น.


กำลังโหลดความคิดเห็น