“สุเทพ” ประชุมแกนนำที่เวทีลุมพินีก่อนปราศรัย เผยวันนี้ไม่เคลื่อน ด้านลูกชายชูคนใช้สิทธิต่ำกว่าครึ่งประสบผลสำเร็จ ชี้ชาวบ้านไม่ต้องการเป็นเครื่องฟอกระบอบทักษิณ จี้ “ยิ่งลักษณ์” ลาออกรักษาการ-เปิดทางปฏิรูป ระบุส่งหน่วยเคลื่อนที่ลุยกดดันต่อ ประณามบิ๊ก ตร.กล่าวหาประชาชน
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่เวทีสวนลุมพินี บรรยากาศการชุมนุมปิดกรุงเทพมหานคร วันที่ 23 ของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ได้ขึ้นเวทีปราศรัยแล้ว หลังจากการเข้าร่วมประชุมแกนนำจาก 3 เวที ซึ่งมีการยุบรวมเวทีวานนี้ คาดว่าเป็นการหารือถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยผู้ชุมนุม เนื่องจากยังมีการสร้างเหตุป่วนรายวันในพื้นที่รอบนอก รวมถึง การยกระดับการเคลื่อนไหวในการปิดสถานที่ราชการ บ้านนายกรัฐมนตรี และบ้านรัฐมนตรี ที่จะต้องปฏิบัติภารกิจให้รัดกุมมากขึ้น
โดยก่อนหน้านี้ นายสุเทพได้ให้สัมภาษณ์สื่อชาวต่างชาติ และกล่าวเพียงว่าหากสื่อต่างชาติติดต่อมาก็ยินดีให้สัมภาษณ์ ส่วนวันนี้ยังไม่มีการเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่ใด จากนั้นได้เข้าร่วมประชุมแกนนำจาก 3 เวทีทันที
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการปราศรัยมีทั้งมวลชนที่ปักหลักชุมนุมและชาวสีลมทยอยจับจองพื้นที่ลานหน้าเวทีอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. หลังการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้รับชัยชนะ แต่การเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.ถือว่าประสบผลสำเร็จในระดับที่สังเกตได้จากสถิติของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งจากปี 2554 อยู่ที่ 75% แต่ผู้มาใช้สิทธิในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาไม่ถึง 45% ลดลงกว่า 40%
ขณะที่ในกรุงเทพมหานครมีผุ้มาใช้สิทธิเพียง 26% จากปี 2554 อยู่ที่ 72% จึงสังเกตได้ชัดว่า ประชาชนไม่ต้องการถูกใช้เป็นขบวนการฟอกระบบทักษิณ และประชาชนที่ไปใช้สิทธิก็ไม่ประสงค์ลงคะแนนและกาบัตรเสียเป็นจำนวนมากในหลายเขตพื้นที่ ดังนั้นจึงชัดเจนว่าประชาชนต้องการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง และตรงกันข้ามที่ขบวนการของกลุ่ม กปปส.ที่เข้มแข็งเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลกำลังประสบปัญหาที่กำลังจะสูญเสียฐานคะแนนจากกลุ่มชาวนา ซึ่งเป็นฐานคะแนนเสียงใหญ่ของพรรคเพื่อไทย เพราะไม่สามารถหาเงินมาจ่ายโครงการรับจำนำข้าวได้ และเลื่อนจ่ายเงินมาทั้งหมด 7 ครั้งแล้ว อีกทั้งนายกรัฐมนตรียังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ดังนั้น เชื่อว่ารัฐบาลกำลังไปสู่ทางตันและสุดท้ายนายกรัฐมนตรีต้องลาออกเพื่อเปิดทางให้ประชาชนได้ปฏิรูปประเทศอย่างแน่นอน
นายเอกนัฏกล่าวว่า ขณะเดียวกัน กปปส.ยืนยันจะเดินหน้ากดดันรัฐบาลให้นายกรัฐมนตรีลาออก โดยใช้ชุดปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่เร็ว และจะเดินหน้าชูธงปฏิรูปเพื่อผ่านทางตันหาทางออกให้กับประเทศ พร้อมเดินหน้าสร้างเครือข่าย กปปส.ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น นอกจากนี้ ยังประณามการทำงานของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ออกมากล่าวหาประชาชนในเหตุการณ์ที่เขตหลักสี่ และขอบคุณทหารโดยเฉพาะผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ที่ไปช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์เขตหลักสี่ และรามคำแหง และขอบคุณ พ.อ.วินทัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ที่ออกมาชี้แจงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เขตหลักสี่ และปฏิเสธข้อกล่าวหาของตำรวจที่ใส่ร้ายประชาชน โดยระบุว่าเหตุการณ์ความรุนแรงนั้นเกิดจากการปะทะ
