จับกัง 1 พอใจภาพรวมเลือกตั้ง สั่งตำรวจตรวจสอบบางหน่วยปิดหีบเร็ว เหน็บม็อบมาแค่ 6,200 คน อย่าเรียกร้องความสนใจจะสลาย เผยเตรียมให้ ปปง.-ดีเอสไอตรวจสอบทรัพย์สิน “เทือก” อ้างมือยิงหลักสี่ชำนาญ ป้อง “โกตี๋” เผ่นไปแล้ว โวเพื่อไทยชนะแน่ อาจได้ตั้ง 280 ที่นั่ง กัด ปชป.ขี้แพ้
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อเวลา 15.45 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวถึงภาพรวมการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ว่า ประชาชนส่วนใหญ่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง มีการกระทบกระทั่งกันบ้างแต่ไม่มากนัก นี่คือนิสัยคนไทยที่เอาเข้าจริงๆ ไม่รุนแรงต่อกัน อาจจะมีการสกัดกั้นกันบ้างในบางหน่วยเลือกตั้ง เดิมทีตนคิดว่าใน กทม. จะมีการสกัดกั้นจำนวนมากกว่านี้ เพราะก่อนหน้านี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ปราศรัยว่าจะมีคนออกมาปิกนิกเป็นล้านคน แต่ตนให้ทีมงานจำนวน 100 คนติดตามความเคลื่อนไหวของ กปปส.ในช่วงวันที่ 2 ก.พ.และรายงานตัวเลขปรากฏว่า เมื่อเวลา 12.00 น. มีมวลชนประมาณ 5,000 คน และเวลา 15.00 น.มีประมาณ 6,200 คน
ทั้งนี้ บางเขตเลือกตั้งยุติเร็วเกินไป ทางตำรวจจะตรวจสอบว่าสาเหตุที่ยุติเร็วเป็นเพราะอะไร ต้องดูว่ามีใครไปหน่วงรั้งหรือปิดกั้นอะไรหรือไม่ ตนยังมองในแง่ดี อย่างไรก็ตาม สำหรับการดูแลความเรียบร้อยวันนี้ภาพรวมตนพอใจ และหลังจากนี้ ศรส.ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนการดูแล หากมีเลื่อนเลือกตั้งไปแล้วเลือกตั้งใหม่ตนจะทำงานง่ายขึ้น เพราะพื้นที่เลือกตั้งมีน้อย กำลังตำรวจจะนำมารวมกันทำงานได้ง่ายขึ้น
“และอย่ามาเรียกร้องความสนใจว่าผมจะไปสลายการชุมนุมให้ประชาชนเข้าใจผิด นายสุเทพอยู่เหอะ แล้วคุณจะอยู่อีกไม่นาน เพราะ 1. มีศัตรูสำคัญ 2. จะเอาทรัพย์สินเงินทองจากไหนมาใช้ตลอด และ 3. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสวบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะตรวจสอบทรัพย์สิน” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนได้ประเมินจำนวนที่นั่ง ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งนี้ คาดว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. ประมาณ 265-280 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา 29 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนา 7 ที่นั่ง พรรคพลังชล 7 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 20 ที่นั่ง และพรรคประชาราษฎร์ 1 ที่นั่ง โดยเป็นตัวเลขที่ยังมีการเลือกตั้งไม่ครบทุกเขต และยังไม่ได้นับคะแนนแบบบัญชีรายชื่อ แต่การที่พรรคเพื่อไทยได้ 260 ที่นั่งขึ้นไป แปลว่าเลือกตั้งเมื่อไรพรรคประชาธิปัตย์แพ้เมื่อนั้น ขนาดออกมาเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลร่วม 3 เดือนแล้ว เพราะประชาชนไม่เชื่อนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์
ส่วนที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ที่มาแล้วไม่ได้พบตนเพราะไม่ได้นัดหมายไว้ จึงนัดหารือกันในเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.พ. มีหรือมาแล้วไม่ให้พบ ดอกฟ้าโน้มกิ่ง นัดไปที่ไหนตนก็ไปถ้าบอกล่วงหน้า ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ กกต.ปกติไม่ไปหาใคร แสดงว่าท่านเมตตาตน แต่ครั้งนี้ติดธุระจริงๆ
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ปะทะกันที่บริเวณแยกหลักสี่ ตนได้หารือกับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา ศรส. และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พบว่าอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธสงคราม คล้ายปืนเอ็ม 16 พฤติกรรมการยิงมีความชำนาญ มีผู้ช่วยคอยชี้เป้า ส่วนจะเป็นใครนั้นตนไม่ทราบ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่เกี่ยวกับหน่วยงาน หากผิดตำรวจต้องจับ ซึ่งตำรวจรายงานว่าผู้ก่อเหตุคือ พวกสวมหมวกไหมพรม ส่วนนายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ เผ่นไปแล้ว โดยคดีตอนมีความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม ถ้าหลวงปู่พุทธอิสระไม่ไปเขตหลักสี่ พวกโกตี๋ก็ไม่มาใช่หรือไม่ แล้วหลวงปู่พุทธอิสระมาทำไม
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ส่วนการขอเปิดพื้นที่ราชการนั้น ตนจะมอบหมายให้นายตำรวจไปพูดคุยกับหลวงปู่พุทธอิสระที่เวที กปปส. ถ.แจ้งวัฒนะอีกครั้งว่า จะมาปฏิรูปการเมืองที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว เพราะประชาชนเดือดร้อน และที่สะพานพระราม 8 เพราะกีดขวางการจราจร โดยจะขอ 2 พื้นที่ดังกล่าวก่อน โดยจะใช้การพูดคุยก่อน ส่วนการจับแกนนำนั้น หลังจากนี้ ศรส.จะเริ่มขยับ