ASTVผู้จัดการ - ชาวเน็ตแฉบันทึก “ปลอดประสพ” ฮาร์ดคอร์ เรียกประชุมข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ สั่งการเตรียมเจ้าหน้าที่กรมประมง-กรมป่าไม้-กรมอุทยาฯ พร้อมอาวุธ 250 นายเข้ากรุง อ้างปกป้องหน่วยงานไม่ให้ กปปส.ยึด เผยดีเดย์ประสาน ศรส. ลุยขอพื้นที่คืน 4 ก.พ.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ม.ค.) โลกออนไลน์ได้เผยแพร่เอกสารการประชุมของศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. ในส่วนของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย ในพื้นที่หน่วยงานที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายในรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยเป็นบันทึกของนายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ที่เรียนถึงเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นายอนันต์ ลิลา
ตอนหนึ่งของบันทึกข้อความด่วนที่สุด เลขที่ กษ ๓๓๐๑.รธก.สส./๗ เรื่องสรุปผลการประชุมเตรียมการเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ชุมนุม กปปส. ปิดสถานที่ราชการ ลงวันที่ 28 มกราคม 2557 ระบุว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ระบุให้มีการเกณฑ์เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรเพื่อเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ ศรส.จัดส่งมาจำนวน 250 คน โดยแบ่งเป็น เจ้าหน้าที่กรมประมง 50 คน กรมป่าไม้ และตำรวจป่าไม้ 100 คน กรมอุทยานฯ 100 คน โดยให้นำอาวุธมาด้วยแต่เก็บไว้ที่ส่วนกลาง มาเข้าร่วมกับ ศรส. เพื่อเปิดสถานที่ราชการใน ม.เกษตรศาสตร์
“ตามที่ได้โปรดมอบหมายให้กระผม นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ ตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เข้าร่วมการประชุมเตรียมการเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ชุมนุม กปปส. ปิดสถานที่ราชการ ในวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2557 เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานตำรวจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายปลอดประสพ สุรัสวดี) เป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานราชการกระทรวงและกรมต่างๆ ในบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน สรุปได้ดังนี้
“1. ประธานแจ้งว่า ตามที่ผู้ชุมนุม กปปส.ได้มาปิดหน่วยงานราชการต่างๆ โดยจะทำการตัดน้ำ-ตัดไฟถ้าหากมีข้าราชการมาทำงานนั้น ที่ผ่านมารัฐบาลได้นิ่งเฉยไม่ได้ตอบโต้เนื่องจากเกรงจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลได้ออกพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ต่อไปนี้รัฐบาลจะต้องมีมาตรการและแนวทางการดำเนินเพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถปฏิบัติราชการในการให้บริการประชาชนได้ตามปกติ โดยจะต้องดำเนินการขอคืนพื้นที่ (กรณี กปปส. ปิด) และวางแผนรักษาพื้นที่ (กรณียังไม่ถูก กปปส.ปิด) โดยให้ผู้นำองค์กรนำผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ตั้ง เพื่อแสดงความเข้มแข็งและความมีศักดิ์ศรีของข้าราชการ
2. ประธานแจ้งว่า ศรส.จะจัดเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ จำนวน 100 นายมาเป็นเจ้าพนักงานประจำจุดตรวจต่างๆ ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และพื้นที่โดยรอบ และให้ส่วนราชการจัดกำลังเข้าร่วมเป็นเจ้าพนักงานกับ ศรส. เพื่อเป็นการให้กำลังใจข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้เกิดความมั่นใจว่าเมื่อมาปฏิบัติงานแล้วจะมีความปลอดภัย โดยจะมีการตั้งจุดตรวจร่วมเพื่อคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาในพื้นที่ ทั้งนี้ให้แต่ละหน่วยงานสนับสนุนกำลังพล ดังนี้ กรมประมง 50 นาย กรมป่าไม้และตำรวจป่าไม้ 100 นาย กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 100 นาย โดยให้นำอาวุธมาด้วยแต่ให้เก็บไว้ที่ส่วนกลาง โดยจะมีการอนุญาตให้ใช้เมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น และกำหนดให้เคลื่อนกำลังพลเข้าประจำพื้นที่ในวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 ก่อนเวลา 12.00 น.”
ทั้งนี้ มีการกำหนดวันที่ 4 ก.พ. 57 เป็นวันดีเดย์เพื่อขอคืนพื้นที่ 8 หน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วย โดยก็มีการแต่งตั้งผู้ประสานงานของหน่วยงานกับ ศรส. คือ พล.ต.ท.กิตติ รอดบางยาง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กับ นายชลธิศ สุรัสวดี ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะที่ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ เป็นนายสุรพงษ์ เจียสกุล ผู้ช่วยปลัดฯ (ผู้อำนวยการสำนักแผนงานและโครงการพิเศษ)
แหล่งข่าวในกระทรวงเกษตรฯ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ ระบุว่า สำหรับ นายอนันต์ ลิลา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และนายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ที่มีความใกล้ชิดและรู้จักกับนายปลอดประสพเป็นอย่างดี จึงได้รับมอบหมายให้เข้าประชุมเพื่อรับมอบภารกิจดังกล่าว โดยสังเกตได้ว่า ผู้ประสานงานของกระทรวงทรัพย์ฯ คือ นายชลธิศ สุรัสวดี ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพย์ฯ และอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ ก็มีศักดิ์เป็นหลานชายของนายปลอดประสพ