นายกฯ เข้า สนง.ปลัด กห. ปฏิบัติภารกิจ มีประชุมคอนเฟอเรนซ์ 3 จุด ประเมิน กปปส.ชุมนุม ถกปัญหา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แก้ชุมนุมไม่ได้ บี้ “เป็ดเหลิม” จัดการเข้มขึ้น หลังขอคืนพื้นที่ไร้ผล เจ้าตัวแจงไม่นิยมรุนแรง พยายามลุยแก้ปัญหา ฟันธง กปปส.ชุมนุมวันเลือกตั้งมีปะทะ รุนแรง ขอเสริมหลายสิบกองร้อยช่วย ให้กรมกร๊วกกล่อม ปชช.ใช้สิทธิ แจงเลือกตั้งโมฆะหรือไม่อยู่ที่ศาล
วันนี้ (31 ม.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินทางมายังสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี เพื่อปฏิบัติภารกิจตามปกติ หลังจากในช่วงเช้านายกฯ มีภารกิจรับเสด็จ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลฯสตมวารถวายพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่วัดบวรนิเวศวิหาร
ทั้งนี้ มีรายงานว่า วันเดียวกันนี้ที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ได้มีการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ 3 จุด คือ ที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.เป็นหลัก จุดที่ 2 คือ ที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมว.พาณิชย์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรมช.เกษตรและสหกรณ์ พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากตำรวจ และทหาร โดยในที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.
และได้มีการหยิบยกปัญหาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลหลังจากที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และจัดตั้งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย ว่าเสียงส่วนใหญ่ในสังคมมองว่าการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาลนั้นไม่สามารถที่จะบริหารจัดการหรือแก้ปัญหาการชุมนุมได้ ขณะเดียวกันการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.กลับมาการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในที่ประชุมมีแสดงความเห็นว่าให้ ร.ต.อ.เฉลิมนั้นเร่งหามาตรการในการแก้ไขปัญหาให้เข้มข้นมากขึ้น ภายหลังจากออกมาตรการการเจรจาขอพื้นที่คืนแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวในที่ประชุมว่าตนเองนั้นไม่นิยมความรุนแรง แต่ก็จะพยายามเดินหน้าหามาตรการแก้ปัญหา ทั้งนี้ตนเห็นว่าการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ในวันเลือกตั้งที่ 2 ก.พ.นั้นจะเกิดเหตุความรุนแรง จะมีการปะทะกัน ดังนั้นจึงจะขอเสริมกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร อีกหลายสิบกองร้อย เพื่อช่วยดูแลสถานการณ์ และจะประสานไปยังกรมประชาสัมพันธ์ให้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนเรื่องการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. โดยเฉพาะประเด็นการเลือกตั้งจะโมฆะหรือไม่โมฆะ เนื่องจากว่าการเลือกตั้งจะโมฆะหรือไม่นั้นอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน ไม่ใช่อยู่ที่นักวิการ โดยเฉพาะนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา หรือนายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้ตัดสินโดยตนจะขอให้กรมประชาสัมพันธ์เร่งทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อไม่ให้ประชาชนไขว้เขวเพื่อที่จะได้ตัดสินใจออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
