เวอร์ซ้ำซาก ตร.กว่า 15 กองร้อย รอรับกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ หน้าบ้านนายกฯ เจ้าของบ้านเก็บตัวเงียบ “สุภรณ์” ปัดรับหนังสือผู้ชุมนุม ไม่ยอมให้ถึงบ้านนายหญิง บอกขนตำรวจมาเพียบไม่เกินเหตุ "ภราดร" ชี้ เทคนิคแยกกันตีของกลุมต้านรัฐ
วันนี้ (27 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณบ้านพัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายในซอยโยธินพัฒนา 3 หลังจากนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ประกาศจะมาชุมนุมบริเวณทางเข้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไม่รับคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ในคดีปราสาทพระวิหาร ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจผสานกำลังจากกองร้อยอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 สน.ลาดพร้าว ตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ ตำรวจภูธรภาค 4 ดูแลตั้งแต่ปากซอยโยธินพัฒนา 3 และตั้งจุดตรวจตลอดเส้นทางจนถึงหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี รวมกว่า 15 กองร้อย ตรวจตรารถต้องสงสัยและบุคคลที่ผ่านเข้าออก แต่ประชาชนยังสามารถใช้เส้นทางสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติ ไม่มีปิดถนนแต่อย่างใด สถานการณ์โดยภาพรวมยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ตลอดช่วงเช้านายกฯ ได้เก็บตัวอยู่ในบ้านพัก และในเวลา 14.00 น. จะร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่จะเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินที่วัดบวรนิเวศวรวิหารราชวรวิหาร
ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ตนเองจะไม่เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่มนายไชยวัฒน์ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องที่จะมายื่นหนังสือที่บ้านนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ไม่ใช่สถานที่ราชการ และเป็นวันหยุดราชการด้วย ดังนั้น เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันหากต้องการยื่นหนังสือ ตนเองจะไปรับที่สำนักงานเขตลาดพร้าว หรือสถานการที่ราชการใกล้เคียง ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาถึงหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรีอย่างเด็ดขาด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสะกัดและขอความร่วมมือให้อยู่บริเวณหน้าปากซอยโยธินพัฒนา 3 เท่านั้น และการใช้กำลังตำรวจเป็นจำนวนมาก ไม่ถือว่าเกินกว่าเหตุ เพราะตำรวจต้องดูแลความปลอดภัยไม่เฉพาะบ้านนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่จะครอบคลุมบริเวณโดยรอบด้วย และแม้ว่าผู้ชุมนุมมาจำนวนน้อย แต่เพื่อความไม่ประมาท ป้องกันมือที่ 3 ก่อความวุ่นวาย ตำรวจจึงต้องเข้มงวดตามหน้าที่
ด้านพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งของนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มสภาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย(สปท.)ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ การชุมนุมกลุ่มนายไชยวัฒน์ที่จะเคลื่อนไปบ้านนายกฯ และการชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่อ.สะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเทคนิคแยกกันตี จับมือปมเพาะสร้างสถานการณ์กระจาย อาศัยการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลก และการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหว ไปยังพื้นที่ที่ไม่ได้มีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
