“แม้ว” ป่วนเร่งเกมแรง เพิ่มความเกลียดชัง ชนวนเนรเทศทั้งโคตร!!

ผ่าประเด็นร้อน

ไม่มีข้อสงสัยแล้วว่า นับจากนี้ไป ระบอบทักษิณ ที่มี ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังกำลัง “เล่นเกมแรง” มากขึ้นเรื่อยๆ ทางหนึ่งเพื่อข่มขู่ให้คนที่เข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลดทอนจำนวนลงเรื่อยๆ ทั้งง่ายต่อการคิดปราบปรามยกกำลังเข้าสลาย อีกทางหนึ่งยังเป็นการแสดงโชว์ศักยภาพให้ฝ่ายตรงข้ามได้เห็นว่า “อย่าคิดเขี่ย” เขาออกนอกวงอย่างเด็ดขาด

ขณะเดียวกัน การป่วนดังกล่าวจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงวันเลือกตั้ง และเป้าหมายของเครือข่ายทักษิณต้องการก็คือ ต้องเร่งเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ให้เกิดขึ้นให้ได้ ถึงตอนนั่นหากเกิดความรุนแรงถึงขั้นจลาจล มีการเสียเลือดเสียเนื้อ จนกองทัพต้องออกมาก็ต้องถือว่า “เข้าทาง” อีก เพราะนี่คือ “เงื่อนไข” ชั้นดีที่ใช้อ้างกับชาวโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่มีผลประโยชน์กับไทยที่ผ่าน “นายหน้า” อย่าง ทักษณ ชินวัตรด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี

นั่นเป็นเกมและความคิด “อุบาทว์” ของคนพวกนี้ ที่คิดทุกทางเพื่อรักษาอำนาจเอาไว้ต่อไปให้ได้ ไม่มีทาง่อยมือเป็นอันขาด ไม่ว่าบ้านเมืองจะบอบช้ำ หายนะเพียงใด ขอเพียงแต่ว่าตัวเองและคนในครอบครัวได้ประโยชน์เท่านั้นเป็นพอ ทำได้แม้กระทั่งดึงเอาต่างชาติ องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาแทรกแซง ไม่ต่างจากการชักศึกเข้าบ้าน ก็ไม่ต้องไปสนใจ เพราะ “อำนาจการเมือง” คือการลงทุนที่คุ้มค่า

อย่างไรก็ดี สำหรับในมุมมองของประชาชน ในนามของ กกปส.ที่นำโดย กำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่องนานเกือบสามเดือนแล้ว และยังยืนระยะได้อย่างมั่นคง มีมวลชนเข้าร่วมมากขึ้น เป็นปรากฏการณ์ “ตื่นรู้” ที่ไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อน นั่นคือยิ่งการชุมนุมยาวนานเท่าใด ยิ่งมีคนเข้าร่วมมากขึ้นเท่าไร ก็ย่อมหมายความว่าข้อมูลที่เคยปกปิด ได้เห็นความชั่วของ ทักษิณ ชินวัตร ได้เห็นความชั่วและความล้มเหลวของ “น้องสาว” คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ส่งมาเป็นนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดมากว่าสองปี ทุกอย่างจะถูกเปิดโปง ถูกชี้ให้เห็น ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรับรู้มาก่อน บางคนเคยรู้มานานแล้ว ก็มารู้เพิ่ม ออกมาตอกย้ำเรื่อยๆ ราวกับว่าใครก็ตามที่รู้ความจริงก็จะยิ่ง “เกลียด” ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวนี้เข้าใส้

สิ่งที่พิสูจน์ชัดให้เห็นถึงความเสื่อมทรุด ทำลายศรัทธา “ทรยศต่อความไว้วางใจ” ของประชาชนได้ดีที่สุดก็คือ การออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เพื่อลบล้างความผิดให้กับ ทักษิณ ชินวัตร และบริวาร การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรวบอำนาจ ทำลายการตรวจสอบ จนเป็นสาเหตุของการลุกฮือขึ้นมาขับไล่อย่างคาดไม่ถึง อาจเป็นเพราะนี่คือ “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ทำให้ความอดทนขาดผึงลง เพราะการบริหารบ้านเมืองที่ “ห่วยแตก” ไม่คุ้มค่ากับความหวัง ความไว้วางใจ กว่าสองปีที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยบริหาร ทุกอย่างล้มเหลว ข้าวของแพง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ชาวบ้านเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ล่าสุดก็ล้มเหลวจากโครงการจำนำข้าว “เพิ่มหนี้” ให้กับชาวนาจนหมดเนื้อประดาตัวกันเป็นแถว แต่อีกด้านหนึ่งมีเพียงคนในครอบครัวชินวัตร และบรรดา “ขี้ข้า” ไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ ร่ำรวยกันเพิ่มขึ้น

นี่คือความ “เหิมเกริม” ของ ทักษิณ ชินวัตร อีกครั้ง ซึ่งคนอย่างเขาไม่เคยสรุปบทเรียน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เมื่อี 2548 ต่อเนื่องจนถึงปี 2549 ก็ได้เกิด “ปรากฏการณ์สนธิ” ที่ สนธิ ลิ้มทองกุล ที่ออกมาเปิดโปง ทักษิณ จนเกิดการตื่นรู้และนำมวลหมู่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาขับไล่มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็เกิดการ “ปฏิวัติหน่อมแน้ม” เห็นแก่ตัวของผู้นำกองทัพในยุคนั้นคือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ก่อการเพียงเพื่อป้องกันตัวเองจะถูกปลดพ้นตำแหน่งเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันการกระทำของนายทหารคนดังกล่าว ได้ทำให้เกิดเป็นเงื่อนไขสร้างความเข้มแข็งให้ ทักษิณ ชินวัตรขึ้นมาอีก จนสามารถกลับเข้ามาสร้างเครือข่ายใหญ่โตและฝังรากลึกอีกรอบ

แต่ในที่สุด “ของปลอม” มันก็เป็นของปลอมวันยังค่ำ ของปลอมที่ขายได้ด้วยการคุยโม้โอ้อวด มันก็ไม่มีทางยั่งยืน เหมือนอย่างที่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอยู่ แรกๆ อาจมีเสียงไชโย แต่เมื่อผ่านไปแค่ไม่นานนักทุกอย่างมันก็ประจานออกมาให้เห็นเองอย่างที่เห็นกัน แม้กระทั่งได้รับรู้ว่า ตัวนายกฯ “ไร้สติปัญญา” ไม่มีความเหมาะสมสำหรับบริหารบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อย

เมื่อวกกลับมาที่ “เกมแรง”ที่ ทักษิณ ชินวัตร กำลัง เร่งบัญชาการให้หนักข้อขึ่นในเวลานี้ ทางหนึ่งเพื่อขู่ให้มวลชนต่อต้านกลัวหัวหดไม่กล้าออกมา หรือไม่ก็หากเกิดจลาจล มีการปฏิวัติเกิดขึ้นอีก เขาก็จะขอเจรจาต่อรอง โดยหวังว่า “ไม่เสียทั้งหมด” แต่จะมีส่วนร่วมในการ “แบ่งเค้ก” แต่บางครั้งเขาอาจนึกไม่ถึงว่ามวลชนที่ออกมาขับไล่เขานั้นมันมากมายมหาศาลเพียงใด หากบอกว่าหลายล้านคน แล้วคนที่อยู่ที่บ้านอีกเท่าไร คนพวกนี้ก็มีคนในต่างจังหวัดที่ลุกขึ้นมาแบบตื่นรู้มากมายกว่าเดิม ยิ่งในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กสื่อสารรวดเร็ว คนพวกนี้ก็จะส่งต่อถึงญาติพี่น้องในต่างจังหวัด ประกอบความล้มเหลวในทุกเรื่องของรัฐบาล มันก็ย่อมไม่คุ้มค่าที่จะไปโอบอุ้มกันต่อไป

และนี่อาจเป็นอีกครั้งที่คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยสรุปบทเรียน คิดว่าใช้เครือข่าย รัฐตำรวจ ใช้อันธพาลเสื้อแดงออกมาข่มเหงคนอื่นแล้วเขาจะกลัว ตรงกันนี่คือการเพิ่มความเกลียดชังให้กับครอบครัวนี้มากขึ้น ตอนแรกอาจขับไล่แค่เป้าหมายไม่กี่คน แต่ถ้าลองเป็นแบบนี้อีกไม่นานต้อง “เนรเทศทั้งโคตร” เพราะประชาชนออกมาขนาดนี้แล้ว ไม่มีวันแพ้แน่นอน!!