รองนายกฯ-กกต.แถลงข่าวร่วม ยืนกรานเลือกตั้ง 2 ก.พ.ไม่เลื่อน อ้างพยายามเลี่ยงรุนแรงแล้ว “สมชัย” ดีแตก สั่งจัดเลือกตั้งใหม่ช่วยรัฐบาลให้ได้ ส.ส.ครบเปิดสภา คาดใช้เวลา 4-6 เดือน โว “อ้ายปึ้ง” เข้าใจ ประธาน กกต.บอกรัฐบาลอ้างคนอีก 66 จังหวัดอยากเลือกตั้ง เตรียมใช้ทหารช่วยกากบาทใต้ปากกระบอกปืน ไม่กังวลถูกฟ้อง หนุ่มสาวเสื้อแดงขโมยซีน ชูป้าย “เห็นหัวเราบ้าง” สุดงงเข้ามาฉลุยไม่ถูกตรวจค้น
วันนี้ (28 ม.ค.) ที่สโมสรกองทัพบก เมื่อเวลา 17.15 น.นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีรักษาการ และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.แถลงข่าวร่วมกัน โดยนายพงศ์เทพ กล่าวว่า ทาง กกต.เสนอการจัดการเลือกตั้งตามกำหนดอาจจะมีปัญหาหลายประการ ในขณะที่รัฐบาลเห็นว่า การเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ไม่ได้แก้ปัญหา หรือทำให้ปัญหาหมดไป ไม่มีอะไรรับประกันว่าเลื่อนไปแล้วทุกอย่างจะยุติ และเกรงว่าจะมีปัญหาและเสียหายยิ่งกว่า การประเมินสถานการณ์ของ กกต.และรัฐบาล ยังแตกต่างกันอยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงต้องจัดการเลือกตั้งตามกำหนด ใน พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.ต่อไป โดย กกต.จะดำเนินการจัดการเลือกตั้งภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และพยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง ทั้งนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนการทำงานของ กกต.อย่างเต็มที่
ด้าน นายสมชัย กล่าวว่า จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การเลื่อนเลือกตั้งเป็นสิ่งที่กระทำได้ แต่ต้องปรึกษากันระหว่าง กกต.และนายกฯ หมายความหากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ไปต่อได้ ก็สามารถกำหนดวันเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ได้ โดยวันนี้ได้มีการประชุม เพื่อนำข้อเสนอทั้งสองฝ่ายมาพิจารณาร่วมกัน กกต.ได้เสนอให้รัฐบาลเห็นถึงปัญหาทั้งก่อนและหลังวันเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้ก็มีปัญหาในเรื่องของกรรมการประจำหน่วยที่ลาออก เนื่องจากถูกกดดันจากผู้ชุมนุม สะท้อนว่าบางหน่วยไม่สามารถจะจัดการเลือกตั้งได้ บัตรเลือกตั้งที่บางส่วนยังส่งไปไม่ถึงหน่วยเลือกตั้ง เพราะติดอยู่ที่ไปรษณีย์ คือ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช, อ.เมือง จ.ชุมพร และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็น 3 ไปรษณีย์หลักที่รวมบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ที่จะส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งใน 14 จังหวัดภาคใต้ หากนำบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อออกมาไม่ได้ก็จะเลือกตั้งไม่ได้ ส่วนบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตก็อาจจะมีปัญหาในการจัดส่งได้
นายสมชัย กล่าวอีกว่า อีกทั้งในการเลือกตั้งล่วงหน้า วันที่ 26 ม.ค.ก็มีปัญหาในเรื่องที่มีผู้ชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้ง ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ในเมื่อกรณีนี้เกิดขึ้น ก็เป็นห่วงในวันเลือกตั้งจริง วันที่ 2 ก.พ.ที่จะเกิดเหตุการณ์ขัดขวางเช่นนี้อีก และอาจจะเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ กกต.เห็นตรงกันกับรัฐบาล คือ จะยึดตามกฎหมายเป็นหลัก หลีกเลี่ยงความรุนแรง โดยจะกำชับผู้อำนวยการเขตเลือกตั้งว่า ถ้าหากเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ก็ให้สั่งยุติการลงคะแนนได้ทันที หากหน่วยเลือกตั้งใดปิดการลงคะแนนแล้ว แม้เหตุการณ์ความวุ่นวายสงบก็เปิดใหม่ไม่ได้ เพราะเป็นข้อจำกัดในข้อกฎหมาย ดังนั้นหน้าที่ของ กกต.และรัฐบาล คืออำนวยความสะดวกในการจัดเลือกตั้งให้เกิดความสงบและเรียบร้อย ขณะที่หลังการเลือกตั้ง เราเสนอว่ามีความเป็นไปได้สูงว่า จะประกาศรายชื่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง 125 คน ไม่ได้ เพราะต้องได้คะแนนเลือกตั้งครบจากทุกหน่วย เราได้ชี้แจงให้รัฐบาลทราบว่า จะสามารถจัดการเลือกตั้งให้ครบทุกเขต ได้ภายใน 4-6 เดือน
นายสมชัย กล่าวว่า ส่วน ส.ส.แบ่งเขต 375 คน ก็ยังมีปัญหาว่าผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ในวันที่ 26 ม.ค.ยังเหลือผู้ใช้สิทธิไม่ได้อีก 2 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ กกต.จะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เมื่อเหตุการณ์สงบลง คาดว่าจะเป็นปลายเดือน ก.พ.หรือนานกว่านั้นก็ได้ ซึ่งหากสำเร็จคะแนนก็จะถูกส่งไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อนำไปรวมกับคะแนนเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ดังนั้นหมายความว่า วันที่ 2 ก.พ.ยังไม่มีการประกาศผล ส.ส.แบบเขต ทั้งนี้ในวันนี้รัฐบาลกับ กกต.ยังไม่สามารถมีความเห็นตรงกันได้ในการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ดังนั้นพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ.จึงมีผลบังคับใช้ กกต.ก็ต้องเดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไป
“การพูดคุยในวันนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความเข้าใจกันมากขึ้น รัฐบาลจะได้เห็นถึงข้อจำกัด และความเสียหายในการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาลก็ยืนยันที่จะช่วยสนับสนุนจัดการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดีที่รัฐบาลเข้าใจปัญหาของ กกต.แล้ว และประโยคที่ผมชอบมากที่สุด ที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ได้พูดว่า จากนี้ไปจะไม่ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากรัฐบาล ในทำนองต่อว่า กกต.เพราะเข้าใจว่า กกต.ทำงานอย่างเต็มที่” นายสมชัยกล่าว
นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณี 28 เขตใน 8 จังหวัดภาคใต้ที่ยังไม่มีผู้สมัครว่า กกต.จะดำเนินการรับสมัครใหม่ แต่ขณะนี้ยังมีปัญหาและข้อแตกต่างจากความคิดว่า การกำหนดให้มีการรับสมัครใหม่นั้น จะให้ออกเป็นประกาศของ กกต.หรือให้รัฐบาลออกเป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่ง กกต.ก็ต้องไปหารือกับรัฐบาลอีกครั้งว่าจะดำเนินการแบบใด แต่คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 เดือน อย่างไรก็ตาม ใน 28 เขตที่ไม่มีผู้สมัคร ก็ต้องมีการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในวันที่ 2 ก.พ.แต่ก็ต้องดูว่าจะสามารถนำบัตรเลือกตั้งออกจากไปรษณีย์ทั้ง 3 แห่ง คือ ทุ่งสง ชุมพร และหาดใหญ่ ได้หรือไม่
ขณะที่ นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.กล่าวภายหลังการหารือว่า เมื่อนายกฯ ไม่เลื่อนการเลือตั้ง กกต.ต้องทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งต่อไป โดยรัฐบาลให้เหตุผลว่าถ้าเลื่อนการเลือกตั้งออกไปปัญหาก็จะไม่หมด ปัญหาจะเยอะ และประชาชนส่วนใหญ่อีก 66 จังหวัดที่สามารถเลือกตั้งได้ รัฐบาลจะตอบประชาชนว่าอย่างไร ส่วนเรื่องของความรับผิดชอบหากเกิดปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้มีการหารือกัน แต่ทาง กกต.ได้เสนอปัญหาความขัดข้องในการเลือกตั้งไปแล้ว ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มจัดการเลือกตั้งมา 1 เดือน 3 วัน ส่วนจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือไม่ เราไม่อาจจะคาดเดาได้ ซึ่งการร้องขอให้ฝ่ายรัฐบาลอำนวยความสะดวกการเลือกตั้งนั้น เราได้ร้องขอไปตามปกติ ให้มีตำรวจไปช่วยดูแลหน่วยต่างๆ หากหน่วยไหนมีความเสี่ยงจะเกิดความรุนแรงจะร้องขอให้ทหารเข้ามาช่วยดูแล ที่ผ่านมาเราไม่ได้นิ่งเฉยคิดทุกวินาทีในการจัดการเลือกตั้ง ประชุมกันดึกดื่น ส่วนกรณีที่ทาง ศรส.จะฟ้อง กกต.ที่ไม่พยายามจัดการเลือกตั้งนั้นไม่เป็นไรถือเป็นสิทธิของเขา ถ้าเห็นว่า กกต.ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบก็ฟ้อง
ประธาน กกต.กล่าวต่อว่า สาเหตุที่รัฐบาลเดินหน้าเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.นั้น เพราะรัฐบาลกลัวว่าจะไม่มีกฎหมายรองรับแล้วจะมีความผิดตามมา และกลัวว่าหากเลื่อนเลือกตั้งออกไปเหตุการณ์ก็จะไม่สงบ กปปส.ก็ยังคงชุมนุมอยู่ ทั้งนี้ กกต.ได้เน้นว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ เน้นความสงบ ปราศจากความรุนแรง ไม่ให้เกิดการทำร้ายร่างกาย หรือทรัพย์สินเสียหาย แต่ถ้าถูกปิดล้อมจะใช้แนวทางการเจรจาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่ กกต.ให้เหตุผลกับทางรัฐบาลว่าถ้าเดินหน้าเลือกตั้ง ก็จะไม่สามารถที่จะเปิดสภาได้ รัฐบาลให้เหตุผลอย่างไร ประธาน กกต.กล่าวว่า รัฐบาลบอกว่าให้ทำไป เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลดื้อแพ่งเกินไปหรือไม่ ที่ไม่เลื่อนการเลือกตั้งแม้จะเกิดปัญหา ประธาน กกต.กล่าวพร้อมยิ้มว่า เราอย่าไปว่าอย่างนั้นดีกว่า เมื่อถามว่า ในฐานะฝ่ายปฏิบัติรู้สึกอย่างไรเมื่อรับทราบปัญหาที่จะเกิดขึ้น แต่ผู้มีอำนาจไม่เลื่อนการเลือกตั้ง ประธาน กกต.กล่าวว่า แม้ไม่ได้รับการตอบสนองเราไม่ท้อ และไม่คิดลาออก เพราะเราได้สมัครเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว และไม่รู้สึกอึดอัดใจ เพราะอาสามาแล้วต้องทำตามหน้าที่ เจอปัญหาเราก็แก้ไปไม่ได้กังวลอะไร ส่วนจะถูกร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะในภายหลังหรือไม่นั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิเราทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว เป็นสิทธิที่เขาจะร้องถ้าเห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรม
เมื่อถามว่า จะส่งตัวแทนไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.หรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่ เพราะไม่ใช่หน้าที่ เมื่อถามว่า กกต.รู้สึกอย่างไรที่จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใต้กฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประธาน กกต.กล่าวว่า มีกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่าสวนทางกับประชาธิปไตยกับแนวทางรัฐบาลหรือไม่ ประธาน กกต. กล่าวว่า ประเด็นนี้เราได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลไปแล้ว วันนี้เรามาหารือไม่ได้มาเถียงกัน วันนี้ไม่ผิดหวัง เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะเป็นแบบนี้ และ กกต.เชื่อการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.สถานการณ์ก็ยังไม่จบ และให้ต่อเวลาไปอีก 180 วันก็ยังไม่จบ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ นายศุภชัย กำลังเดินขึ้นรถนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าสู้หรือไม่ นายศุภชัย ได้ยิ้ม และบอกว่าสู้สิ พร้อมกับชู 2 นิ้ว เพื่อแสดงสัญลักษณ์
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวงหารือระหว่างรัฐบาล และ กกต.ในที่ประชุม นายสมชัย ได้เสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป 120 วัน โดยอ้างว่าหากเดินหน้าเลือกตั้งอาจทำให้ไม่สามารถประกาศรับรอง ส.ส.125 คน หรือไม่ครบ 95% ทำให้เปิดสภาไม่ได้ ขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง เห็นว่าการที่มีรัฐบาลรักษาการนานเกินไปไม่เป็นผลดีกับประเทศ ซึ่งภายหลังจากมีการพิจารณาถึงปัญหาต่างๆ กันพอสมควร ในที่ประชุมก็มีข้อสรุปว่า ให้ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันเดินหน้าจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ต่อไป ทั้งนี้ กกต.ได้ขอให้หน่วยงานที่สนับสนุนการเลือกตั้งได้ช่วยเหลือ กกต.ด้วยทั้งบุคลากรและอุปกรณ์ต่างๆ
นอกจากนี้ ระหว่างที่ นายพงศ์เทพ และนายสมชัย กำลังแถลงข่าวอยู่ ปรากฏว่าได้มีชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นกลุ่มสหายเดียร์ นักกิจกรรมทางการเมืองในเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดงที่รวมกลุ่มกันในเฟซบุ๊ก ได้มาแจกแถลงการณ์และชูแผ่นกระดาษที่เขียนข้อความว่า “เห็นหัวเราบ้าง” พร้อมเรียกร้องให้ กกต.ทบทวนตัวเอง หากจัดการเลือกตั้งไม่ได้ก็ลาออกไป เพื่อเปิดโอกาสให้มีการสรรหาผู้ที่เป็นกลางและมีเจตจำนงที่บริสุทธิ์ใจในการจัดการเลือกตั้งในประเทศได้ เข้ามาทำหน้าที่แทน อยากให้ กกต. เห็นหัวประชาชนที่ใช้สิทธิบ้าง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สื่อที่กำลังทำข่าวแถลงร่วมระหว่างรัฐบาล และ กกต.ให้ความสนใจ และงุนงงว่า ชายหญิงคู่นี้เข้ามาในพื้นที่นี้ได้อย่างไร และทำไมจึงเข้ามาง่ายดายโดยไม่มีการตรวจค้นใดๆ