รองนายกฯ อ้าง ท่าที กกต.ชัดเจนลุยจัดเลือกตั้ง ย้อนตั้งแต่ 40 ไม่เคยมี พ.ร.ฎ.ในเขตเลือกตั้งที่มีปัญหา แจงนายกฯ ยังไม่ได้หนังสือ กกต.เชิญพบ ยันไม่เกี่ยวให้ศาล รธน.วินิจฉัย ชี้ตั้งใจทำไม่เหนือบ่ากว่าแรง โยนสื่อ-สาธารณชน บอกได้การทำหน้าที่ “สมชัย” หลังถ่ายคู่ม็อบ ชี้ประชามติทำไม่ทัน อ้างเลื่อนเลือกตั้งตามอำเภอใจไม่ได้ ต้องยึด กม. ยันดูแลความปลอดภัยเต็มที่ มีปัญหาควรโทษ รปภ.หรือคนก่อเหตุ
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความชัดเจนในการจัดการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 57 ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าต้องจัดการเลือกตั้งไปตามหน้าที่ต่อไป จะเป็นประเด็นเพียงแต่การเลือกตั้งบางเขตที่ผู้สมัครไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ เพราะมีข่าวว่าจะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาสำหรับเขตเลือกตั้งที่มีปัญหา ทั้งนี้ ขอเรียนว่าตั้งแต่มี กกต.ในปี 40 กรณีที่มีการเลือกตั้งและยังไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.ในเขตใดแล้วต้องมีการเลือกตั้งอีก ที่ผ่านมาไม่เคยมีการต้องออกพระราชกฤษฎีกาใหม่ แต่เป็นเรื่องของ กกต.ต้องดำเนินการเอง ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมเดินไปปิดคุรุสภา ลาดพร้าว ซึ่งเป็นสถานที่พิมพ์บัตรเลือกตั้ง เชื่อว่า กกต.ฝ่ายจัดการเลือกตั้งคงดำเนินการได้ เพราะเป็นแค่เรื่องของการพิมพ์เลือกตั้งเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลได้รับหนังสือขอเข้าพบนายกฯ จาก กกต.หรือยัง นายพงศ์เทพกล่าวว่า ยืนยันได้ว่า กกต.ยังไม่มีหนังสือขอเข้าพบนายกฯ หรือเชิญรัฐบาลไปหารือแต่อย่างใด จะมีแค่หนังสือขอให้นายกฯ พิจารณาออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ซึ่งส่งมาเมื่อวันที่ 12 ม.ค. และกรณีดังกล่าวรัฐบาลได้เชิญพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งมาหารือจนนำไปสู่ข้อสรุป โดยทางเลขาฯนายกฯได้ทำหนังสือตอบกลับไปยัง กกต.แล้ว เมื่อถามว่า ยังมีโอกาสที่รัฐบาลและกกต.จะหารือกันหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ยังไม่มีหนังสือ ดังนั้น เมื่อกกต.มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง และรัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนการเลือกตั้งก็ต้องดำเนินการไป
เมื่อถามว่า หาก กกต.และรัฐบาลไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ จะสามารถยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้หรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันเลย เมื่อยุบสภาแล้วรัฐบาลมีหน้าที่ตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้ง จากนั้นเป็นหน้าที่ของ กกต. ในการจัดการเลือกตั้ง ไม่ได้มีอะไรที่ขัดแย้งในเรื่องของอำนาจหน้าของ กกต.และรัฐบาล ซึ่ง กกต.เองสามารถทำหนังสือขอให้หน่วยงานราชการให้การสนับสนุนในการจัดการเลือกตั้ง และมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ถ้าตั้งใจทำเชื่อว่าไม่เหนือบ่ากว่าแรง
เมื่อถามว่า กรณีที่ปรากฏภาพของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ถ่ายคู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. จะส่งผลต่อความเป็นกลางในการทำหน้าที่หรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า คิดว่าสื่อมวลชนและสาธารณชนคงบอกได้
นายพงศ์เทพกล่าวถึงข้อเสนอในเวทีปฏิรูปที่ให้มีการทำประชามติถามประชาชนว่าควรจะปฏิรูปก่อนหรือหลังการเลือกตั้งว่า ในการทำประชามติ ตามรัฐธรรมนูญอย่างน้อยต้องใช้เวลา 90 วันขึ้นไปในการดำเนินการ ขณะที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าเมื่อมีการยุบสภาแล้วจะต้องจัดการเลือกตั้งภายในเวลาไม่เกิน 60 วัน จะเห็นได้ว่าไม่สามารถทำประชามติได้ทัน และการทำประชามติรัฐธรรมนูญบอกไว้แล้วว่า ทำในสิ่งที่ขัดกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ ส่วนข้อเสนอของภาคเอกชนที่อยากให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อนนั้น รัฐบาลได้นำไปพิจารณาทั้งในเรื่องของกฎหมาย จะเห็นว่าประเทศไทยของเราปกครองโดยนิติรัฐและรัฐบาลต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ใช่ปฏิบัติตามอำเภอใจ ขณะนี้เรื่องของกรอบเวลาการเลือกตั้งต้องเป็นไปตามกฎหมาย รัฐบาลมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามนั้น ไม่สามารถทำเป็นอย่างอื่นได้ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะเอาเรื่องข้อกฎหมายมาสู้ แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามตรงนั้นคนถึงจะมาโต้แย้งหรือกล่าวหารัฐบาลได้ คุณต้องการหรือรัฐบาลที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือ ซึ่งไม่ต้องการแน่นอน และเป็นกติกาของรัฐบาลทั่วโลกว่าเป็นรัฐบาลต้องปฏิบัติตามกฎหมายทั้งสิ้น ในการเสนออะไรที่ให้รัฐบาลปฏิบัตินอกกฎหมายคงไม่มีรัฐบาลไหนที่จะทำตามได้
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 57 จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้หรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เมื่อประชาชนมาใช้สิทธิก็จะส่งสัญญาณให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นอะไร ทุกประเทศเมื่อมีปัญหากันจริงๆ สุดท้ายแล้วคนที่เป็นเจ้าของอำนาจควรเป็นคนที่ต้องตัดสินใจ โดยในวันเลือกตั้งจะเห็นว่าคนส่วนใหญ่ต้องการอะไร ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ในขณะนี้ เมื่อถามว่า หากวันที่ 2 ก.พ. 57 ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ หรือเกิดความวุ่นวายใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ นายพงศ์เทพกล่าวว่า หากจัดการเลือกตั้งอย่างดีก็มีการเลือกตั้งแน่นอน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งก็ต้องช่วยกัน เมื่อถามว่า รัฐบาลสามารถดูแลชีวิตของผู้ที่ต้องทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งได้ใช่หรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนการเลือกตั้ง เมื่อมีการขอกำลังมาก็มีทหารอยู่ 4 แสนคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัยต้องทำอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน หากมีคนไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ใครควรเป็นคนที่ถูกประณามมากที่สุด คนที่รักษาความปลอดภัยหรือคนที่ก่อเรื่อง