“สุรพงษ์” ถก ศอ.รส. “ภราดร” เชื่อสัปดาห์หน้าม็อบแรงขึ้น หลังภาคใต้จ่อปิดสถานที่ราชการเป็นตัวอย่าง พร้อมขวางเลือกตั้งล่วงหน้า สั่งเฝ้าระวังพิเศษยับยั้งสถานการณ์ ยันยิงการ์ดลาดพร้าวปืนธรรมดา อ้างตามการข่าวรัฐเป๊ะคนไม่พอใจชุมนุมห้าแยก พร้อมป้องกันการเผชิญหน้ากับแดงสวมขาว แย้มบานปลายค่อยใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน “นิวัฒน์ธำรง” บอกไม่รู้ “ยิ่งลักษณ์” จะมาหรือไม่
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการณ์รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล ศอ.รส.ได้ร่วมประชุมประเมินสถานการณ์การชุมนุมปิดกรุงเทพฯของกลุ่ม กปปส.เป็นวันที่ 7 ร่วมกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมกับฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะหารือเตรียมพร้อมรับการชุมนุมที่จะยกระดับขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในสัปดาห์หน้า
พล.ท.ภราดรเปิดเผยว่า จะต้องจับตาการชุมนุมของ กปปส.ในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด เพราะมีแนวโน้มอาจจะรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่จะปิดสถานที่ราชการทุกแห่ง เพื่อเป็นตัวอย่างให้แต่ละภาคดำเนินการตาม อีกทั้งต้องประเมินการขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 มกราคมนี้ ดังนั้นจะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพิ่มมาตรการดูแลประชาชนและเน้นเรื่องการข่าวให้มากขึ้น เพื่อยับยั้งสถานการณ์ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็จะเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงผลกระทบการชุมนุมที่จะเกิดขึ้น และชี้ว่าการชุมนุมครั้งนี้มีนัยทางการเมือง
พล.ท.ภราดรกล่าวว่า สำหรับเหตุยิงการ์ดผู้ชุมนุมที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าวนั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการสืบสวนหาข่าวในเชิงลึก ยืนยันไม่ใช่สไนเปอร์ แต่เป็นปืนธรรมดาเท่านั้น เหตุที่เกิดขึ้นเป็นไปตามการข่าวของรัฐบาลที่เห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเหตุรุนแรงมากกว่าจุดชุมนุมอื่นๆ เพราะมีความหลากหลายผู้คนที่ผ่านไปมาและอาศัยอยู่ ซึ่งอาจจะไม่พอใจการชุมนุมในครั้งนี้ อีกทั้งมีกลุ่มมือที่ 3 ที่แฝงตัวอยู่ในม็อบจ้องสร้างสถานการณ์เพื่อใส่ร้ายรัฐบาลและฝ่ายตรงข้าม
เลขาฯ สมช.ยังกล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามจะไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนการเลือกตั้งและกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะกลุ่มที่สนับสนุนการเลือกตั้งเริ่มเคลื่อนไหวทำกิจกรรมมากขึ้น อย่างไรก็ตามฝ่ายความมั่นคงยังใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงดูแลสถานการณ์ แต่หากมีเหตุรุนแรงบานปลายก็อาจจะหยิบยก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาพิจารณา
ขณะที่ช่วงเช้าผู้สื่อข่าวยังไม่พบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมประเมินสถานการณ์ชุมนุมกับรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนายนิวัฒน์ธำรงระบุว่ายังไม่ได้รับแจ้งว่านายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมหรือไม่