ผ่าประเด็นร้อน
จนถึงนาทีนี้ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจาก ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะยอม “เลื่อน” วันเลือกตั้ง หรือ“กำหนดวันเลือกตั้งใหม่”ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ เพราะถ้าพิจารณาจากคำพูดของบรรดา “ลิ่วล้อใกล้ชิด” อย่าง สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็พูดในความหมายว่าต้องเลือกตั้งตามกำหนดวันที่ 2 กุมภาพันธ์ อ้างว่าหากเลื่อนออกไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะข้อเรียกร้องผู้ชุมนุมคือต้องการให้ ยิ่งลักษณ์ ลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี หรือไม่ก็ต่อรองว่าหากเลื่อนวันเลือกตั้งการชุมนุมต้องยุติ อะไรประมาณนั้น
ขณะเดียวกัน เสียงจาก สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ขี้ข้าอีกคนที่ได้รับคำสั่งกำกับดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศรส.) ก็ยืนยันว่าต้องเลือกตั้งตามกำหนดเดิม โดยอ้างถึงการประท้วงคัดค้านการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมาว่ามีแค่ร้อยละ 10 เท่านั้น พื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศไม่มีปัญหา และยังอ้างถึงขนาดว่ากรณีที่มีการยิง สุทิน ธราทิน แกนนำผู้ประท้วงคัดค้านการเลือกตั้งดังกล่าวในทำนองว่า “สร้างเรื่อง” เพื่อโยนความผิดให้กับรัฐบาลไปเสียฉิบ “เพี้ยน” ไปไกลถึงขนาดนั้นเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีท่าทีแข็งกร้าวกว่าเดิมนั่นคือพยายาม “ขอคืนพื้นที่” บางแห่งกับผู้ชุมนุม
ส่วนผู้อำนวยการ ศรส.อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ออกมาสำทับขู่ว่าจะแจ้งจับ กกต.และถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ้างปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ขัดขวางการเลือกตั้งอะไรประมาณนั้น อีกทั้งบรรดาคนเสื้อแดงที่เป็นหัวโจกก็ออกโรงกดดันให้มีการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ทำให้ยังมองไม่เห็นสัญญาณว่าจะมีการ “เลื่อนวันเลือกตั้ง” หรือสนับสนุนให้มีการ “กำหนดวันเลือกตั้งใหม่” ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
ก่อนหน้านี้หากจำกันได้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนกรานว่า “เลื่อนวันเลือกตั้งไม่ได้”เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาแล้วก็ต้องเดินหน้าไปตามกำหนด แต่เมื่อ กกต.เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปรากฏว่า “เลื่อนได้” โดยใช้คำว่า “สามารถกำหนดวันเลือกตั้งใหม่” โดยออกเป็นพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ โดยให้ ประธานกกต.ซึ่งก็คือ ศุภชัย สมเจริญ กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ มีอำนาจดูแลการเลือกตั้งตามกฤษฎีกาการเลือกตั้งความหมายคือ “มีอำนาจร่วมกัน” ไม่ใช่อย่างที่เห็นในเวลานี้ที่ฝ่ายรัฐบาล และขี้ข้าระบอบทักษิณพยายามไล่บี้ กกต.ราวกับเป็น “ลูกน้อง” ไม่เห็นอยู่ในสายตา
ที่ผ่านมาทางกรรมการการเลือกตั้งได้รีบเสนอนัด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทันทีหลังจากทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าสามารถ “เลื่อนวันเลือกตั้ง” ได้ โดยออกเป็นพระราชกฤษฎีกาใหม่ โดยเสนอนัดหารือกันวันที่ 25 มกราคม ก่อนการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26 มกราคม เพื่อป้องกันความวุ่นวาย แต่ฝ่ายรัฐบาลก็โยกโย้ จนต้องปล่อยให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าที่มีความวุ่นวาย มีเหตุเสียชีวิตและได่บาดบาดเจ็บจำนวนมาก โดย ยิ่งลักษณ์ ได้ขอนัดวันที่ 28 มกราคม แต่ก่อนหน้านั้นอย่างที่บอกจนถึงตอนนี้ยังมีท่าทีเดินหน้าเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ อ้างว่าความวุ่นวายและเสียงคัดค้านที่เกิดขึ้นมีเพียงพื้นที่ส่วนน้อย ไม่มีเหตุผลต้องเลื่อนวันเลือกตั้ง
ท่าทีดึงดันดังกล่าวของรัฐบาล และระบอบทักษิณ ทำให้ต้องมาพิจารณาว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนั้นทั้งที่รู้ว่าขืนเลือกตั้งภายใต้บรรยากาศแบบนี้มันต้อง “ฆ่า” กันแน่ เสื่ยงต่อการเกิดจลาจลแน่ ซึ่งบรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมาก็เป็นตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้ว คำตอบก็คือ “ยื้อ” นานกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะแค่ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี่ก็ “แทบรากเลือด” หมดสภาพอยู่แล้ว ถ้าขืนยืดออกไปอีกพักใหญ่ ที่มีการแย้มออกมาว่าอาจจะเป็น 120-150 วัน ถ้าออกมาแบบนั้นจริงมันก็ฉิบหายซีพี่น้อง เพราะแค่เกินสิ้นเดือนมกราคม ชาวนาที่รอเงินจำนำข้าวไม่ “ฉีกอกตาย” หรือ นานไปยิ่งประจานความ “ห่วย” ออกมาให้เห็นหมดเปลือก นี่ยังไม่นับกรณีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนหาความผิดกรณีทุจริตจำนำข้าวตามมาอีก คาดว่าจะสรุปอีกเดือนสองเดือนนี้ซ้ำเติมอีก มันจะไปเหลืออะไร
ดังนั้น มีทางเลือกทางเสี่ยงเดียวคือ ต้องดึงดัน “ลุยถั่ว”เลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ให้ได้ ใครจะเป็นจะตายก็ไม่ต้องไปสนใจ และที่สำคัญเวลานี้ได้ล็อบบี้ตะวันตกให้สนับสนุน “ระบอบทักษิณ” เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเป็นการแลกเปลี่ยน “ผลประโยชน์” ด้านพลังงาน และตามระบบ “ทุนสามานย์” ที่ ทักษิณ ชินวัตร มีลักษณะไม่ต่างจาก “นายหน้าข้ามชาติ” ที่ “จับเสือมือเปล่า” ผ่านทางรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล่าสุดเท่าที่เห็นก็มีสหรัฐอเมริกายังสนับสนุนใหัมีการเลือกตั้งตามกำหนด และแสดงความเห็นในเชิงตำหนิมวลมหาประชาชนที่ออกมาประท้วงคัดค้านเสียอีก
นี่แหละคือคำตอบว่าทำไมถึงต้อง “ด้าน” กันขนาดนี้ ไม่ต้องสนใจว่าจะเหยียบไปอีกกี่ศพ เพราะถ้าเลื่อนออกไป นั่นหมายความว่าจะสูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ ทั้งที่รู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็ไม่สนใจ!!