โฆษก ปชป.รับน่าเสียใจรัฐเห็นแก่อำนาจ ไม่ฟังศาลชี้เลื่อนเลือกตั้ง เมินทางออกชาติ ฉะอย่าอ้างนายกฯจะถูกคดี เหตุ กกต.ยังไม่กลัว ข้องใจไม่รีบคุย กกต.ติงส่อนำงบละลายน้ำ จี้เลิกใส่ร้ายองค์กรอิสระ เลื่อนเลือกตั้งให้ชัด “องอาจ” เตือนฝืนไปสูญเปล่า ตอกรัฐต้องการอะไรทำ ปชช.เผชิญหน้ากัน มีเหตุต้องรับผิดชอบ “จุรินทร์” ชำแหละ 5 ข้อยึกยักเลื่อนเลือกตั้ง รีบสร้างความชอบธรรมนำอำนาจไปแก้จำนำข้าว มีคดีจ่อก้น มุ่งชนะ กกต.
วันนี้ (26 ม.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่าสามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้ โดยเป็นหน้าที่ของประธาน กกต.และนายกรัฐมนตรี ต้องหารือกันนั้น เป็นทางออกที่จะทำให้สังคมเดินออกจากทางตันได้ แต่น่าเสียใจที่บุคลากรของพรรคเพื่อไทยเห็นประโยชน์ทางอำนาจ และพรรคตัวเองมากกว่าประเทศ ทั้งระดับหัวหน้าพรรค ทีมกฎหมาย และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ยังยืนยันจะเดินหน้าเลือกตั้ง เพราะต้องการกระชับอำนาจผ่านการเลือกตั้ง ไม่มีเจตนารมณ์ในการปฏิรูปประเทศ ไม่มีความจริงใจที่จะหาทางออกให้กับประเทศ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่คำแนะนำ แต่พรรคเพื่อไทยกลับตีความว่าเป็นแค่คำแนะนำ และถ้าเดินหน้าเลือกตั้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะถูกดำเนินคดีนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ จุดนับหนึ่งที่จะแก้ปัญหาคือการเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะไม่มีใครดำเนินคดีกับนายกฯแน่ อย่าเอามาเป็นข้ออ้างรักษาความได้เปรียบของตัวเอง ปิดทางออกประเทศไทย เนื่องจาก กกต.ยังไม่กลัวว่าจะถูกฟ้อง พร้อมกับตั้งคำถามว่าเหตุใดนายกฯที่พักผ่อนอยู่เชียงใหม่ จึงไม่ให้เวลากับประเทศ เพื่อที่จะพบกับประธาน กกต.ให้เร็วขึ้น แทนที่จะกำหนดวันที่ 28 ม.ค.57 หรือว่านายกฯเห็นการพักผ่อนส่วนตัวที่บ้านเกิดสำคัญกว่าปัญหาความไม่สงบภายในประเทศที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ถ้าตนเป็นนายกรัฐมนตรีตนบินด่วนกลับมาหารือกับประธาน กกต.แล้ว ประเทศไทยเสียสละเพื่อครอบครัวท่านมานานเกินพอแล้ว วันนี้นายกฯต้องเสียสละให้กับประเทศด้วย
“ขอถามว่าถ้าเดินหน้าเลือกตั้งแล้วสุดท้ายเป็นโมฆะ นายกฯและพรรคเพื่อไทยจะนำเงินมาจ่ายคืนภาษีประชาชนหรือไม่ เพราะวันนี้ท่านยืนยันที่จะนำภาษีประชาชนไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ อีกทั้งการเลือกตั้งสามารถเลื่อนได้ด้วยการประกาศพระราชกฤษฎีกาออกมาใหม่ เพื่อขยายวันเลือกตั้งออกไป หรือเพราะว่าทีมยุทธศาสตร์ประเมินว่าพรรคเพื่อไทยจะอยู่ในภาวะสุญญากาศ ถูกบีบโดยองค์กรอิสระนั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยสุจริตไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ แต่ถ้าทุจริตไม่ว่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ก็ต้องถูกดำเนินคดีอยู่ดี ดังนั้น หยุดกล่าวหาองค์กรอิสระได้แล้ว เลื่อนการเลือกตั้งให้ชัดเจน เป็นบันไดขั้นที่หนึ่ง บันไดขั้นที่สองเลิกตั้งเงื่อนไขการเจรจา ให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปให้องค์กรที่มีความน่าเชื่อถือเป็นผู้ประสานงานปฏิรูปประเทศไทย เพื่อดำเนินการปฏิรูปก่อนเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในครั้งต่อไป ไม่มีการสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบกับใคร ประเทศจะได้ความสงบกลับมา”
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากสภาพการณ์การเลือกตั้งล่วงหน้าวันนี้ รัฐบาลไม่ควรดันทุรังเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 และการเลือกตั้งล่วงหน้าก่อน 2 ก.พ.57 ด้วย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเห็นชัดเจนว่าการเลือกตั้งในหลายพื้นที่เกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อเกิดขึ้นไม่ได้การนับคะแนนทำไม่ได้ ก็ประกาศผลการเลือกตั้งไม่ได้ กลายเป็นการเลือกตั้งที่สูญเปล่าโดยใช่เหตุ
นายองอาจ ยังตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่าถ้าจะไปเลือกตั้งให้ได้อะไรจะเกิดขึ้น เพราะคงจะมีคนไปเลือกตั้งส่วนหนึ่ง แต่จะมีประชาชนอีกส่วนหนึ่งไปคัดค้าน กลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่างประชาชนตามหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ จะต้องกระจายเจ้าหน้าที่ออกไปไม่สามารถดูแลเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยได้เพียงพอ จะทำให้เกิดความรุนแรงระหว่างประชาชน จึงอยากถามว่ารัฐบาลต้องการอะไรจึงต้องการให้มีการเผชิญหน้า หากนายกฯยังมีจิตใจปกติก็น่าจะมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น ควรต้องระงับยับยั้งอย่าให้คนไทยต้องเผชิญหน้ากัน เพราะทางออกอยู่ที่นายกฯจะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ถ้านายกฯไม่พยายามยับยั้งเรื่องนี้ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าต่อไป หรือการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57
ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า รัฐบาลมีเหตุผล 5 ข้อที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังยึกยักเรื่องเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะ 1.ต้องการรีบเอาผลการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาลได้เปรียบแน่ เพราะไม่มีคู่แข่ง ไปอ้างความชอบธรรมในการรักษาอำนาจต่อไปกับคนไทย มวลมหาประชาชน และสังคมระหว่างประเทศ 2.กลัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลก่อนวันเลือกตั้งคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฐานไม่ยับยั้งการทุจริตจำนำข้าว ทำให้ขาดความชอบธรรมในการหาเสียงเป็นนายกฯอีกสมัย 3.กลัว ป.ป.ช.ชี้มูล ส.ส.รัฐบาลที่ถูกกล่าวหาทำผิดรัฐธรรมนูญ กรณีแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.ก่อนวันเลือกตั้ง กระทบต่อการตัดสินใจของฐานเสียงรัฐบาลและผู้ลงคะแนน 4.รีบเลือกตั้งเพื่อจะได้เอาอำนาจเต็มในฐานะรัฐบาลปกติ ไม่ใช่รักษาการไปจัดการปัญหาคาราคาซังที่รัฐบาลเองสร้างขึ้นให้จบๆ โดยเร็ว เช่น จำนำข้าวไม่มีเงินจ่ายชาวนา 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งจะสร้างภาระมหาศาลให้กับประเทศต่อไป และ 5.ต้องการเอาชนะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เห็นควรให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป ซึ่งก็ยังไม่แน่ว่าจะเอาชนะได้หรือไม่ เพราะเหตุผลดันทุรังเลือกตั้ง 2 ก.พ.ให้ได้ เลือกไปก็แค่เดินหน้าสู่ความว่างเปล่า