โฆษกประชาธิปัตย์ จี้ “ยิ่งลักษณ์” ถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ยืมเงิน “ทักษิณ” มาจ่ายชาวนา พร้อมซื้อข้าวในสต๊อกไปขาย-เร่งจับมือบึ้มหลังมีข่าวเขมรแฝง, คุย กกต.หาทางออกเลือกตั้ง ก่อนประณาม “สุรพงษ์” บิดเบือนแถลงการณ์สหรัฐฯ ทำชาวไทยรู้สึกด้านลบ แนะมหาอำนาจดูรัฐยักคิ้วใช้ความรุนแรงกับม็อบหรือไม่
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเรียกร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดำเนินการ 4 ข้อ คือ 1. ให้เพิกถอนการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที เพราะเป็นการประกาศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อเท็จจริง และยังทำให้การท่องเที่ยวถูกซ้ำเติมโดยรัฐบาล และยังกระทบความความชื่อมั่นประเทศจนอาจถูกปรับลดความน่าเชื่อถือลง เพราะกระทบบรรยากาศลงทุนของประเทศและอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ องค์กรสื่อก็ออกมาคัดค้านเพราะเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน 2. ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอยืมเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 130,000 ล้านบาทมาจ่ายให้เกษตรกรชาวนา เพราะเป็นเรื่องที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ และให้ซื้อข้าวในสต๊อกจากโกดังของรัฐบาลไปเพื่อทำกำไรเพื่อพิสูจน์ว่านโยบายประชานิยมดีจริงหรือไม่
“ถ้ายังบอกว่าดีต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คิดและทำ แต่ถ้าไม่ให้เงินชาวนาก็ต้องถามว่าที่รัฐบาลอ้างว่ามีการระบายข้าวได้แล้ว 2.2 ล้านตัน น่าจะมีรายได้เข้ามา 88,000 ล้านบาท คำถามคือเงินของชาวนาส่วนนี้หายไปไหน ทั้งนี้ตนเกรงว่านอกจากชาวนาไม่ได้รับเงินแล้ว รัฐบาลยังไม่มีข้าวคืนชาวนาเพราะถูกลักลอบขายไปหมดแล้ว ไม่เช่นนั้นต้องคืนข้าวทุกเมล็ดให้ชาวนาพร้อมดอกเบี้ยที่ชาวนาต้องแบกรับหลังจากรัฐบาลไม่จ่ายค่าจำนำข้าวนานกกว่า 8 เดือน” นายชวนนท์กล่าว
3. ให้เร่งจับกุมตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงโดยด่วน โดยเฉพาะมีการเปิดเผยว่ามีการขนทหารรับจ้างจากกัมพูชาเข้ามา 10 คันรถจากการเปิดเผยของ พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ เป็นเรื่องใหญ่ที่ตำรวจต้องสานต่อ ไม่ใช่ปล่อยให้มีผู้ก่อการร้ายชาวเขมรเข้ามาปะปนใน กทม.นับร้อยคน เพราะเป็นข้อมูลทางการข่าวที่แม่นยำ ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องเร่งจับกุมตัว หากไม่ดำเนินการจนเกิดความสูญเสีย น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบทุกชีวิตที่สูญเสียจากความรู้เห็นเป็นใจของรัฐบาล
และ 4. ปลดล็อกการแก้ปัญหาเลือกตั้งด้วยการทบทวนและร่วมหาทางออกกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ให้การเลือกตั้งเป็นพิธีกรรมสร้างความชอบธรรมซ้ำเติมปัญหาประเทศ ขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์พิจารณาบนข้อเท็จจริงและกฎหมาย มีเวลาเหลือเพียง 2 วันที่ต้องเร่งพิจารณา และตนไม่แน่ใจว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นทางออกได้หรือไม่ เพราะคนที่ทำให้ชาติมีทางออกคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง และการเลิกเห็นแก่ตัวของตนเอง
นอกจากนี้ ยังได้ประนามนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ที่อ้างแถลงการณ์สหรัฐอเมริกามาบิดเบือนกล่าวร้ายผู้ชุมนุม และชี้นำว่าต่างประเทศเลือกข้างอยู่ฝั่งตรงข้ามกับประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายและจะเป็นภาระทางการทูตในอนาคต
“นายสุรพงษ์ทำตัวเป็นบ่างช่างยุให้คนไทยมีความรู้สึกเป็นลบต่อต่างประเทศ เพราะชี้นำว่าต่างประเทศเลือกข้างอยู่ฝั่งตรงข้ามกับประชาชน และยังทำตัวเหมือนกับเป็นกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ หรือประจำ ศอ.รส. เพราะมีการนำแถลงการณ์ต่างประเทศมาใช้ประโยชน์ทางการเมืองให้กับตัวเอง ทั้งๆ ที่แถลงการณ์ของสหรัฐฯ เพียงแต่ขอให้ยุติความรุนแรง และให้เจ้าหน้าที่รัฐเร่งหาตัวผู้กระทำความผิด จึงขอให้ยุติการกระทำดังกล่าวและเรียกร้องไปยังรัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุมเพราะมีการใช้อำนาจมืดจากรัฐบาลทำร้ายอย่างต่อเนื่อง และให้จับตาดูพฤติกรรมรัฐบาลไทยว่าอำนวยความสะดวกให้มีการทำร้ายประชาชนหรือไม่ อีกทั้งยังขอให้ทูตไทยที่ประจำทุกประเทศระมัดระวังในการให้ข้อมูล เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของรัฐบาลด้วย” นายชวนนท์กล่าว
