“อดิศร” เผยส่ง “จตุพร-ณัฐวุฒิ” หาเสียงอีสาน โวเอาจริงเหมือนทุกครั้ง เย้ย ปชป.ทำให้ชาวบ้านหวง 1 เสียง หนุน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โวยม็อยทำชาวกรุงเดือดร้อน ศก.เสียหาย ดักคออดีตฝ่ายค้านอย่าไปโหวตจะได้ถูกตัดสิทธิ ถาม ผบ.หน่วยซีลเอาข้อมูลขนเขมรรบเพื่อรัฐมาจากไหน แนะ ผบ.ทร.เตือนเด็ก ด้าน “เด็จพี่” อ้างม็อบไม่สันติ หวังเลือกตั้งบรรลุผล ปัดแจก 1 ล้านให้ผู้สมัคร ยังป้อง “นช.แม้ว” ไม่เกี่ยวสั่งลุย ด่า “อภิสิทธิ์” ไม่แมนหาว่า “ยิ่งลักษณ์” โกหก
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยและ ผู้ดูแลการปราศรัย หาเสียงของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การปราศรัยหาเสียงของพรรคเพื่อไทยนั้นได้เดินสายในภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลาง เกือบครบทุกพื้นที่แล้ว แต่ทั้งนี้การปราศรัยของพรรคจะเดินทางปราศรัยให้ครบอีก 50 เขต นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ และในวันพรุ่งนี้พรรคเพื่อไทยก็จะไปเปิดเวทีปราศรัยหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้อย่างเอาจริงเอาจังของพรรคเพื่อไทย เหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่ลงเลือกตั้งในครั้งนี้ แต่ก็ต้องขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำให้ประชาชนเข้าใจระบอบประชาธิปไตยและหวงแหน 1 สิทธิ 1 เสียงที่มีมากยิ่งขึ้น
นายอดิศรกล่าวว่า สำหรับการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อวานนี้ ส่วนตัวเห็นด้วยกับรัฐบาล เพราะพฤติกรรมผู้ชุมนุมได้สร้างความเดือดร้อนให้คนกรุงเทพฯ มานานแล้ว อีกทั้งได้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้นช่วงนี้จึงถือเป็นเวลาที่เหมาะสมในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะสร้างความสงบสุขให้ประชาชนชาวโดยเร็ว
ทั้งนี้ นายอดิศรยังได้เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องไปลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ เพราะหากไม่ใช้สิทธิ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะถูกตัดสิทธิลงสมัครในครั้งต่อไป
นายอดิศรยังได้กล่าวถึงกรณีที่ พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) ออกมาพูดว่ามีรถตู้ขนคนกัมพูชา ถึง10 คันรถ เพื่อเตรียมก่อเหตุ จึงขอถามกลับไปว่า พล.ร.ต.วินัยนำข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน และการพูดเช่นนี้จะทำให้สังคมสับสนการพูดใส่ร้ายคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และขอเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการทหารเรือให้ออกมาเตือนผู้ใต้บังคับบัญชาอีกด้วย
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน ให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน เมื่อกลุ่มของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เริ่มต้นการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 56 จนถึงขณะนี้ 22 ม.ค. 57 นั้นไม่ได้ยึดมั่นแนวทางสันติ อหิงสา ตามมาตรา 63 ชุมนุมโดยสงบนั้น รัฐบาลจึงออกกฎหมายเพื่อใช้ดักกลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดสถานที่ราชการต่างๆ ได้กระทำการตัดน้ำตัดไฟ การปิดล้อมธนาคาร ภาครัฐวิสากิจ สถานที่ที่รับสมัครเลือกตั้งที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง และในส่วนของเขตภาคใต้ การกระทำเหล่านี้ทำให้ภาคเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ภาครัฐ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และประเทศเสียหาย หากรัฐบาลไม่ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สถานการณ์จะรุนแรงและบานปลายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การที่รัฐบาลเห็นชอบให้ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในระยะเวลา 3 เดือนนั้นรัฐบาลไม่เคยใช้ความรุนแรงกับประชาชน และเป็นผลดีต่อการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 รัฐบาลต้องการให้ภาครัฐของประเทศกลับมาสงบสุข ไม่กระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน
นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอข่าวว่ามีการประชุมพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ ได้มีการแจกเงิน 1 ล้านบาท ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เป็นการเรียกประชุม ส.ส.และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อมอบภารกิจในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยก็ได้ชี้แจงแนวทางข้อปฏิบัติกรณีที่มีข้อกล่าวหาจาก ป.ป.ช. อดีต ส.ส.ถูกกล่าวหาเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.เท่านั้นเอง ส่วนการเก็บเงินนั้นไม่มีแต่อย่างใดเป็นเพียงแค่ข่าวปล่อย เพื่อทำลายชื่อเสียงของพรรคเพื่อไทย และเป็นเกมการเมืองเท่านั้น
นายพร้อมพงศ์ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ได้กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้รัฐบาลเดินหน้าเลือกตั้ง และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี นั้นโกหกซ้ำซาก ตนของปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง พ.ต.ท.ทักษิณนั้นไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ก็เป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 108 เมื่อยุบสภาแล้วต้องกำหนดวันเลือกตั้ง ถือว่าเป็นกล่าวหาโจมตีทางการเมือง และกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าโกหกซ้ำซากนั้นนายอภิสิทธิ์ นั้นไม่เป็นสุภาพบุรุษ เป็นถึงอดีตนายกฯหลายสมัย
นายพร้อมพงศ์ ขอท้านายอภิสิทธิ์ว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค. และการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 ก.พ. 57 นายอภิสิทธิ์อย่าได้ไปลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าเห็นว่าการเลือกตั้งนั้นไม่ดี จะทำก็ต้องทำให้สุดซอย