xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.สส.ปัดจ่อนั่งนายกฯ คนกลาง เชื่อรัฐ ผู้ชุมนุมยึดสันติ เหตุสูญเสียเรื่องสุดวิสัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร (แฟ้มภาพ)
“พล.อ.ธนะศักดิ์” เผยห่วงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับ กปปส. แนะผู้ชุมนุมร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐดูแลความปลอดภัย ระบุรัฐบาล ผู้ชุมนุมยึดสันติ เหตุสูญเสียเป็นเรื่องสุดวิสัย เชื่อคู่ขัดแย้งต้องการเจรจา แต่หากคนกลางยาก ย้ำจุดยืนทหารทำตามกติกา ดูแลประชาชน ค้านให้ต่างชาติจุ้นเหตุการณ์ในประเทศ ปฏิเสธจ่อนั่งนายกฯ ด้าน “ประยุทธ์” ไม่เข้าร่วมวางพวงมาลาวันกองทัพไทย


พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันกองทัพไทย ณ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ โดยไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เข้าร่วมถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่บริเวณการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ว่า กองทัพเป็นห่วงอยู่แล้ว เพราะหน้าที่ของทหารคือการรักษาอธิปไตย ความมั่นคง ปกป้องชีวิต และทรัพย์สินของประเทศ แต่ทั้งหมดต้องอยู่ในขอบเขต การดำเนินการอะไรจะมีทั้งสีดำ และ สีขาว แต่เมื่อรวมกันแล้วจะเป็นสีเทา เหมือนทหารสมัยนี้ที่ทหารจะทำงานร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ซึ่งทุกอย่างเราเป็นห่วงหมดจึงพยายามให้มีการคุยกันเพื่อทำให้เกิดความเรียบร้อย โดยเราพูดคุยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำอาสาสมัครรักษาความปลอดภัย หรือผู้ชุมนุมมาร่วมกันทำให้เกิดความปลอดภัย คนไทยทุกคนรักประเทศ แต่ตนงงนิดๆ ว่าเมื่อทุกคนรักประเทศ แต่ทำไมไม่ทำความรักให้เป็นโอกาสที่ทำให้ประเทศเจริญขึ้น

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า การเดินขบวนของผู้ชุมนุม กฎหมายระบุว่าสามารถทำได้ แต่จะทำอย่างไรให้เดินแล้วมีความปลอดภัย ดังนั้นน่าจะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะหากทำร่วมกันได้ก็จะไม่มีเรื่อง ประเทศขณะนี้เหมือนร่างกายอ่อนแอและมีโรคแทรกซ้อนจึงต้องดูแลไม่ให้อ่อนแอ เปรียบกับการวางกำลังแนวชายแดน เพื่อป้องกันภัยแทรกซ้อน เปรียบเหมือนมะเร็ง ถ้าป้องกันได้ มะเร็งก็ไม่แพร่เข้ามา นี่คือสิ่งที่เป็นห่วง

“ผมเป็นห่วง ไม่อยากให้ใครเป็นอะไร ถ้าร่วมกันได้ อยากทำอะไรก็ทำ แต่ต้องทำในสิ่งที่อยู่ในกรอบกฎหมาย ไม่ใช่ทุกคนอยากทำอะไรก็ทำได้ หากต่างคนต่างทำก็จะยุ่งกันไปหมด เรื่องอาวุธ กระสุน เป็นเรื่องของความรุนแรงที่ไม่ควรให้เกิด ละเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ แต่ยังสามารถแก้ไขได้ด้วยการดูแลร่วมกัน ส่วนบางจุดที่ไม่เกิดเหตุรุนแรง ผมก็ขอชื่นชม ในที่สุดความเห็นที่เหมือนกันจะได้ความลงตัวที่ดี ประเทศจะได้ชัยชนะ”

ผบ.สส.กล่าวว่า ส่วนเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นบริเวณถนนบรรทัดทองนั้น ทราบจากข่าวว่าผู้ชุมนุมมีการเปลี่ยนเส้นทางเดินกะทันหัน ถ้าผมจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนไปในเส้นทางที่ไม่ถูกลอบทำร้าย แต่บังเอิญไปโดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย แต่ กปปส. ไม่อยากให้เข้าไปทำ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำได้ดีก็ต้องจัดเจ้าหน้าที่มาสังเกตการณ์ว่าตำรวจทำตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ สิ่งใดไม่ดีก็จะได้แจ้งกันได้จะได้ช่วยขยายสิ่งที่ไม่ดี

ทั้งนี้ จากที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางตำรวจต้องทำหน้าที่เหมือนเดิม แต่ทางตำรวจบอกว่า ทางกลุ่ม กปปส.ไม่ให้ทำ แต่จะให้ทหารทำอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ใช่หน้าที่จึงต้องพาตำรวจหรือนำอาสาสมัครที่ดูแลความปลอดภัยไปด้วย เพราะหากไม่มีใครทำงานก็ต้องเลิกหมด ดังนั้นตนหรือคนอื่นไม่ทำก็ไม่ได้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ดีที่มีคนอื่นมาคุยตรงนี้ได้

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ส่วนความพยายามให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหานั้น มองว่า บ้านเราต้องแก้กันเอง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้นำประเทศอื่นมาช่วยแก้ปัญหาชายแดน แต่ปัญหาก็จบด้วยดี ถ้าเอาคนอื่นเข้ามาจะเหมือนกับเป็นการสาวไส้ให้กากิน ทั้งนี้ตนได้พูดคุยกับทางผู้นำทางทหารของต่างประเทศเป็นประจำ โดยตนพยายามสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติว่าทหารจะปฏิบัติตามกติกา ไม่ให้มีใครเป็นอะไร และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่างประเทศเข้าใจและชื่นชมว่าทหารวางตัวได้เหมาะสม

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังสันติ ไม่ตีกัน ซึ่งตนมั่นใจว่ากลุ่มผู้ชุมนุมและรัฐบาลไม่อยากให้มีใครเป็นอะไร แต่บางครั้งสุดวิสัย เมื่อเกิดแล้วเราต้องจับวิกฤติให้เป็นโอกาส มาพุดคุยกัน ยิ่งคุยกันเร็ว คุยกันบ่อยดีกว่าพูดกันมาก แต่ไม่ได้หมายความว่า ให้เลิกประท้วง ซึ่งสามารถทำให้ทุกคนกลับมาวิน-วินได้

“บางทีทุกอย่างเสียหมดเลยทั้งรัฐบาล และกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ประเทศชาติได้ ผมมั่นใจว่าทั้งรัฐบาลและม็อบก็เอา แต่จะทำอย่างไร ถ้าไม่คุยกันจะไม่เห็นวิธี ความจริงมองว่าการมาประท้วงก็เหมือนการมาเลือกตั้งที่บอกว่าอันไหนดีหรือไม่ดี แต่ระบบกฎหมายยังเดินหน้าอยู่ และการตรวจสอบดำเนินคดีต้องทำต่อไป เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นอำนาจของศาลเราไม่สามารถไปยุ่งได้ แต่เราสามารถตั้งคนเข้าไปสังเกตการณ์ คอยดูได้ ความเห็นคน 100 คนไม่เหมือนกัน แต่ต้องมีย่านกลางที่ใกล้กัน ความเห็นของคนที่มีสิทธิเลือกตั้งมีประมาณ 40 ล้านคน ก็ไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ต้องมีเส้นอยู่คู่หนึ่งที่ทุกคนเห็นคล้ายกันและเป็นประโยชน์ต่อชาติ ผมมีอยู่อย่างเดียว คือ อยากให้ทุกคนคุยกันและปลอดภัย ในจุดที่ทหารยืนอยู่ตรงนี้ กองทัพมั่นใจว่าคุยกับตำรวจ รัฐบาลหรือใครก็ได้เพื่อไม่ให้มีเรื่อง จะสังเกตว่าถ้ามีการพูดคุยและทำตามที่คุยจะไม่มีเรื่อง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหล่าทัพจะเป็นคนกลางในการพูดคุยระหว่างสองฝ่ายได้หรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ใครๆ ก็เป็นได้ ถ้าทุกคนยอมรับก็เป็นคนกลางได้ ทุกคนพร้อมให้ประเทศกลับมาสู่สิ่งดีๆ ตนมองโลกในแง่ดี ทุกคนอยากให้ประเทศดีจึงมีการแสดงออกมา

เมื่อถามว่า รัฐบาลกับ กปปส.เหมือนเส้นขนานหาทางบรรจบกันไม่ได้ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายอาจอยากคุยกันก็ได้ แต่ยังหาคนกลางไม่ได้ และเรายังตอบไม่ได้ว่า ใครจะมาเป็นคนกลาง ส่วนจะให้นายกฯ ลาออกเพื่อให้สถานการณ์ยุติหรือไม่นั้น ก็ต้องกลับไปถามกันอีกที เพราะขณะนี้ตัวละครมีมาก ก่อนหน้านี้ตัวละครน้อย แต่ตอนนี้มี 3-6 คนจึงต้องกลับไปถามตัวละครทั้งหมด อีกทั้งตัวละครหลักมีอยู่

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลาง พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า หากใครรู้จักตน ตนจะลาออกจากราชการเมื่อ 6 ปีที่แล้ว แต่ไม่สามารถลาออกได้ แล้วจะให้ตนมาทำงานหลังเกษียณจ้างให้ก็ไม่ทำ ตนจึงพูดว่าแมงโม้เยอะ

ผู้สื่อข่าวถามว่ากำชับกำลังพลที่ลงไปทำหน้าที่ร่วมกับตำรวจอย่างไร พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า เรามีกติกาอยู่แล้ว ใครรักใครชอบใครเชียร์กันไป แต่ถึงเวลาก็ต้องทำงาน ขอให้สังเกตว่าในส่วนทหารไม่มีปัญหาอะไร เพราะงานต้องเดิน หยุดไม่ได้ ถ้าต่างคนต่างทำก็ไม่ใช่ทหาร และเป็นพวกไม่ทีระเบียบวินัย ส่วนการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ไม่ใช่ว่าประกาศ พ.ร.ก.แล้วทหารต้องออกมา เพียงแต่ พ.ร.ก.ดังกล่าวทำให้มีอำนาจทางกฏหมายมากขึ้น แต่ตราบใดที่เรายังรักษาความสงบเรียบร้อยไม่ให้มีใครเจ็บใครตาย จะเป็น พ.ร.บ.อะไร เราก็ช่วยกันประคองไปได้

ต่อข้อถามว่ากองทัพรู้สึกกดดันหรือไม่ ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ ผบ.เหล่าทัพ ออกมาไล่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า นั่นคือความเห็นและมั่นใจว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่พูดกันคือไม่อยากให้มีความรุนแรง ลองไปถาม ผบ.ตร.หรือทหารว่าพกปืนหรือไม่ ถ้าพกปืนแสดงว่าอยากให้มีความรุนแรง แต่นี่ไม่มี

“ขณะนี้เราต้องเป็นเหมือนตาสับปะรดคือต้องช่วยกันดูแล ไม่ใช่ปากสับปะรด ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง ผบ.เหล่าทัพกับนายกฯ ถือว่าปกติ และมีการพูดคุยกันตลอด ซึ่งเราคุยกับทุกฝ่ายไม่ใช่เฉพาะนายกฯ เพราะหากเราไม่คุย สถานการณ์จะไม่นิ่ง จึงจำเป็นต้องคุยเพื่อไม่ให้มีปัญหา ตอนนี้มีปัญหา คือ การชอบไปสอนคนอื่นทำงาน ตอนนี้ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีเสียก่อน ผมเคารพและให้เกียรติทุกคน ทหารสมัยใหม่ต้องไม่ยืนหน้าคนอื่น แต่ให้เกียรติคนอื่นไปยืนข้างหน้า เราต้องเกาะกติกา เพื่อประเทศชาติ การมีคนเจ็บ-ตายเป็นเรื่องน่าเสียใจ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ขณะนี้มีการชุมนุมมา 101 วัน มีทั้งคนเจ็บและตาย ถ้าเปรียบกับบางประเทศวันเดียวมีคนตาย 30 กว่าคน”

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนของทหารมีการพูดคุยและประเมินกันทุกวัน เพื่อประคองสถานการณ์ไม่ให้มีปัญหา ทหารก็เป็นคนๆ หนึ่งมีแค่ 4 แสนคนจากคนทั้งประเทศ 60 ล้านคน แม้ทหารจะมีอาวุธแต่เรามีวินัย แต่ถ้าใครทำผิดวินัยต้องถูกลงโทษ ถ้าไม่มีวินัย ประเทศคงไม่พัฒนามาขนาดนี้ ตอนนี้คือทำอย่างไรก็ได้เพื่อไม่ให้ใครเป็นอะไร และทำให้ประเทศได้ดี ประเทศและคนไทยได้ผลประโยชน์ ซึ่งตนมั่นใจว่านี่คือเป้าหมายของประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น