xs
xsm
sm
md
lg

ทบ.แจงความห่วงใย “ผบ.ทบ.” ลั่นทหารเลือกข้างไม่ได้ ต้องฝืนทนแม้ถูกตำหนิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (แฟ้มภาพ)
“กองทัพ” ท่องบทอดทนต่อเสียงตำหนิ ลั่นน้อมรับทุกคำชี้แนะ แต่ไม่สามารถเอาใจใครนอกเหนือกรอบกฎหมายได้ วอนทุกฝ่ายยอมรับกติกา ด้าน ผบ.สส.ส่งคนสนิทปฏิเสธหนุนเลือกตั้ง ชี้แค่บอกต้องทำตามพระราชกฤษฎีกา ขณะที่ปลัด กห.ย้ำเหล่าทัพหนุนให้มีเลือกตั้ง ปฏิบัติการใดๆ จะคิดและทำภายใต้ รธน.เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 16 ธ.ค. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความห่วงใยของ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ว่าจากสถานการณ์ความขัดแย้งของคนในชาติขณะนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ดังนั้น คำกล่าวที่ว่าทหารไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนั้นคงพูดไม่ได้เสียทีเดียว เนื่องจากทหารนอกจากจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องดูแลเรื่องความมั่นคงของประเทศแล้ว ยังมีอีกหน้าที่คือการเป็นประชาชนชาวไทยเช่นเดียวกัน

ในงานด้านความมั่นคงที่ทหารต้องเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น มีงานที่สำคัญ คือ การปกป้อง เทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ และการสร้างความสามัคคีให้กับประชาชนในชาติ ซึ่งได้กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ของกองทัพมาโดยตลอด ด้วยการบูรณาการหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกัน ระงับยับยั้งความรุนแรง รวมทั้งพยายามลดความขัดแย้งของประชาชนทุกพวกทุกฝ่าย ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน

“ปัจจุบันกองทัพมุ่งคิดแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรสถานการณ์ความขัดแย้งจะไม่ขยายตัว ลุกลามจนเกิดสงครามประชาชน ดังเช่นที่เกิดขึ้นในหลายประเทศในโลก สำหรับประเทศไทยเรามี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงใช้พระราชอำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญ ผ่านทางอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ โดยมีข้าราชการ ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร อยู่ในฐานะผู้ปฏิบัติงาน”

รองโฆษกองทัพบกกล่าวว่า ความคิดเห็นทางการเมือง ทุกคนสามารถเห็นต่างได้ แต่ต้องหาข้อยุติให้ได้ด้วยสันติวิธี ควรใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ เพื่อให้กลไกของรัฐสามารถทำงานได้ ภายใต้กรอบกฎหมาย มีความชอบธรรม พร้อมด้วยจริยธรรม และคุณธรรม หลักการก็คือ ทุกฝ่ายควรพอใจ และยอมรับกติกาหรือตัวบทกฎหมายที่มีอยู่ ไม่ควรละเมิดหรือกล่าวโทษกันไปมาจนหาข้อยุติไม่ได้ เพราะหากระบบ และกติกาถูกทำลายจนเสียหายไปหมด จะไม่มีอะไรให้ยึดถือและสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศในที่สุด

“ไม่ว่า ผบ.ทบ.และกองทัพจะถูกตำหนิติเตือน หรือได้รับคำแนะนำอย่างไร กองทัพจะพยายามใช้ความอดทนอดกลั้น ซึ่งจะไม่สามารถนำทั้งคำแนะนำ และคำตำหนิเหล่านั้น มาตัดสินใจกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่นอกเหนือจากกฎกติกาหรือกรอบกฎหมายได้ เพราะจะเป็นการสร้างทั้งความพอใจ และไม่พอใจให้กับผู้ที่ยังเห็นต่างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่เสมอ โดยกองทัพจะต้องวางตัวอยู่ในจุดที่สมดุลย์อย่างเหมาะสม และไม่ขัดต่อหลักการของกองทัพ ที่ต้องส่งเสริมให้คนไทยในประเทศมีความรัก และสามัคคีกันและยังคง เป็นทหารของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนอยู่เสมอไป และจะยังคงเคารพในความคิดเห็นของประชาชนทุกฝ่ายด้วยเช่นกัน” พ.อ.วินธัยกล่าว

รองโฆษกกองทัพบกยังกล่าวว่า การแก้ปัญหาโดยการใช้ความรุนแรง หรือการไม่เคารพในเกียรติ ศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน อาจทำให้ไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้แน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ตามที่มีหนังสือจากกลุ่มนายทหารนอกราชการที่ภักดีต่อสถาบันฯ และยึดมั่นในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถึงปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเป็นไปด้วยความสงบและเรียบร้อย เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.นั้น พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้รับเป็นที่เรียบร้อย และขอบคุณที่ทุกท่านได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมือง และกองทัพที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน ในส่วนของแนวทางในการแก้ไขปัญหายังคงยืนยันในอุดมการณ์เดิมคือ กระทรวงกลาโหมจะต้องพิทักษ์ รักษารัฐธรรมนูญการปฏิบัติใดๆก็ตาม จะคิดและปฏิบัติในกรอบของรัฐธรรมนูญไทยเท่านั้น และในส่วนของการที่จะนำกำลังพลของกองทัพเข้ามาดูแล สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง จะต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะทำเรื่องเสนอถึงแนวทางว่า จะให้กองทัพเตรียมการและดำเนินการและสนับสนุนอย่างไร

พ.อ.ธนาธิปกล่าวว่า สำหรับการจัดการประชุมเสวนาในเรื่อง “ประเทศไทยของเรา จะไปทางไหน” มีผู้แทนของแต่ละส่วนงานได้เสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา ในส่วนของข้าราชการทหาร มีปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้แทนในการชี้แจงในภาพรวมของกระทรวงกลาโหม โดยได้ชี้แจงถึง 1. จุดยืนของกระทรวงกลาโหมจะดำเนินการพิทักษ์และรักษารัฐธรรมนูญ 2. การดำเนินการใดๆ ก็ตาม จะคิดและปฏิบัติในกรอบตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น 3. กองทัพสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง และพร้อมจัดกำลังพลดูแลให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ถูกต้อง ยุติธรรม สำหรับข้อมูลดังกล่าว เป็นผลมาจากข้อสรุปของการเสวนาสาธารณะ เพื่อความสงบสุขและประโยชน์สูงสุดของประเทศ ณ กองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 56 และมีการแถลงข่าว โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ตามที่มีการนำเสนอข่าวให้ทราบกันไปแล้ว

ขณะที่วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพไทย นายทหารคนใกล้ชิด พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวภายหลังการจัดเวทีเสวนาสาธารณะ โฆษกกลาโหมย้ำกองทัพหนุนเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม ที่กองบัญชาการกองทัพไทยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเชิญนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เข้าร่วมพร้อมกับนักวิชาการจากองค์กรต่างๆว่า เป็นการแสดงเจตนารมย์ของ ผบ.ทหารสูงสุด และผบ.เหล่าทัพ เพราะสิ่งที่พูดไปนั้นเป็นการยืนยันความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ อยากให้ประเทศเกิดความสงบ โดย ผบ.เหล่าทัพ ยินดีพูดคุยกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะประเด็นการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 57 ในวงเสวนาหากฟังดีๆ ผบ.ทหารสูงสุดไม่ได้ระบุว่าจะต้องมีการเลือกตั้งหรือไม่ เพียงแต่ได้ฝากนายสุเทพให้ไปดูว่าถ้าบ้านเมืองเกิดความสงบประเทศชาติก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ไม่ได้ระบุว่า ต้องมีเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ซึ่งเป็นคำพูดที่ ผบ.ทหารสูงสุด มั่นใจในท่าทีอย่างที่พูดออกไป

“เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดต่อสังคม สื่อมวลชนต้องช่วยกันชี้แจง เพราะทุกคนทุกฝ่ายต่างปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง ทุกคนมีความรักชาติ โดยเวทีเสวนาสาธารณะที่กองทัพไทยจัดขึ้น ถือเป็นภารกิจหนึ่งของกองทัพที่สามารถดำเนินการได้ตามรัฐธรรมนูญ และหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดหากนายสุเทพ เข้าพบ ผบ.ทหารสูงสุดและ ผบ.เหล่าทัพเป็นการส่วนตัว เกรงว่าจะไม่ดีหลายฝ่ายอาจมองว่าเป็นการเลือกข้างซึ่งไม่เป็นผลดีต่อกองทัพในภาพรวม ซึ่งหลังจากการเสวนาฯ ผบ.ทหารสูงสุด จะคอยดูว่า ผลจะออกมาอย่างไร ประเทศชาติจะเดินหน้าไปอย่างไร เพราะถือว่าเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงในสถานการณ์การเมืองขณะนี้”นายทหารคนเดียวกันกล่าว

นายทหารคนเดียวกันกล่าวถึง กรณีที่ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ไปร่วมเสวนาในเรื่อง “ประเทศไทยของเราจะไปทางไหน” ซึ่งจัดขึ้นโดยรัฐบาล ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาพร้อมกับนำคำปรารภของ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด ไปกล่าวยืนยันในวงเสวนาว่ากองทัพสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง พร้อมจัดกำลังพลดูแลให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ถูกต้อง ยุติธรรม นั้นเรื่องดังกล่าว ผบ.ทหารสูงสุด รู้สึกไม่สบายใจอยากจะให้พิจารณาให้รอบคอบ เพราะบางครั้งอาจจะเลยเถิดไปบ้าง หรือใจร้อนที่พูดออกไป การยืนยันของ พล.อ.นิพัทธ์ ว่ากองทัพสนับสนุนให้เลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.เป็นความเห็นของปลัดกระทรวงกลาโหมเพียงคนเดียว ไม่ใช่ความเห็นของกองทัพทั้งหมด เพราะกองทัพซึ่งประกอบด้วยกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ โดยผบ.เหล่าทัพ จะแสดงออกมีความเป็นเอกภาพเป็นแนวทางเดียวกัน ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนเข้าใจในเรื่องดังกล่าวด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น