xs
xsm
sm
md
lg

ผู้แทนยูเอ็นพบ “มาร์ค” ตรวจสอบเหตุรุนแรงในไทย แฉรัฐบาลล็อบบี้ ตปท.เอื้อตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ยูเอ็น เข้าพบ “อภิสิทธิ์” ตรวจสอบเหตุรุนแรงระหว่างมวลชน กปปส.ชุมนุม แนะผู้แทนยูเอ็นอย่าหลงเป็นเครื่องมือรัฐบาล พร้อมแจงเหตุรุนแรงเกิดกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล รับต่างประเทศยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริงในประเทศไทย เหตุ “ปึ้ง” ให้ข้อมูลเท็จ แฉรัฐบาลพยายามดึงต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในอย่าเป็นระบบ มีการล็อบบี้ทั้งสื่อ-สภาสหรัฐฯ สร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง ขณะเดียวกันนำทัวร์ชมความเสียหายร้านกาแฟ ปชป.ที่ถูกกราดยิงกลางดึก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (17 ม.ค.) นางมาทิลดา บ็อกเนอร์ ผู้แทนข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (OHCHR) องค์การสหประชาชาติ และคณะ เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้เวลาหารือร่วมกันนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยนายอภิสิทธิ์ได้นำนางมาทิลดาและคณะไปดูสภาพความเสียหายของร้านกาแฟหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกยิงด้วย

นายอภิสิทธิ์เปิดเผยว่า องค์กร OHCHR ได้รับการร้องขอจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้เข้ามาตรวจสอบความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมของ กปปส. โดยนางมาทิลดามีความเป็นห่วงต่อปัญหาความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งตนได้ประเมินสถานการณ์การชุมนุมว่าทุกฝ่ายเป็นห่วง แต่อยากให้ติดตามข้อเท็จจริงการใช้ความรุนแรงที่ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่การชุมนุมด้วย เพราะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการใช้ปืน ระเบิด ใช้ความรุนแรงกับนักการเมืองที่เป็นฝ่ายค้านอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการและเป็นระบบ แต่อาจไม่ได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ เพราะสนใจเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม จึงให้ภาพรวมและอธิบายปัญหาการข่มขู่และความรุนแรงจากฝ่ายรัฐและผู้สนับสนุนรัฐว่ามีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้การจัดกิจกรรมของพรรคก็จะมีปัญหาความรุนแรงอยู่ตลอดเวลา

ส่วนข้อมูลที่กระทรวงการต่างประเทศให้กับนานาชาติว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของ กปปส.นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในส่วนของนางมาทิลดาและคณะจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่ติดตามเฉพาะปัญหาความรุนแรง อย่างไรก็ตาม ตนให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศทั้งซีเอ็นบีซี และสื่อจากออสเตรเลีย เพื่อให้เข้าใจว่าจุดยืนของพรรคเป็นอย่างไร ซึ่งตนก็บอกว่าหากอยากช่วยแก้ปัญหาไม่ให้เกิดความรุนแรงต้องระมัดระวัง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และจะต้องมีท่าทีที่ชัดเจนต่อความรุนแรงในทุกรูปแบบจากทุกฝ่าย ถ้าเป็นอย่างนี้จะช่วยได้

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แต่ที่ตนเป็นห่วงคือหลังจากได้พบทูตานุทูตและหลายๆ คนยังไม่เข้าใจกระแสที่ผู้ชุมนุมต่อต้าน ต่างชาติจึงอธิบายว่ามาจากตัวนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ที่มักบิดเบือนคำแถลงของประเทศต่างๆ ให้คนเข้าใจว่าต่างประเทศเลือกข้างเพื่อเป็นประโยชน์ในทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม ตนคงตอบไม่ได้ว่านางมาทิลดาและคณะจะเข้าใจสถานการณ์ที่ถูกต้องในประเทศไทยหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็จะได้ข้อมูลที่รอบด้านมากขึ้น เพราะจะมีการไปพบรัฐบาล รวมทั้งส่งทีมงานลงพื้นที่ชุมนุมด้วย ซึ่งนางมาทิลดาและคณะไม่ได้มาในนามของสหประชาชาติ แต่ได้รับการติดต่อจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้เข้ามาติดตามการชุมนุม

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อรัฐบาลเป็นคนเชิญจะมั่นใจได้หรือไม่ว่ารายงานนี้จะสรุปตรงกับความจริง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนได้เตือนไปแล้วว่าต้องค้นหาข้อมูลรอบด้าน อย่างน้อยการมาพบตนก็แสดงให้เห็นว่าเขาพยาามแสวงหาข้อมูลรอบด้าน การที่รัฐบาลพยายามดึงต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศนั้นทำกันอย่างเป็นขบวนการ มีการล็อบบี้ด้วย แม้แต่สื่อต่างประเทศ สภาของสหรัฐฯ ก็มีกระบวนการล็อบบี้ด้วย แต่ตนเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเพราะรัฐบาลหวังผลว่าหากสถานการณ์บานปลายออกไปจนรัฐบาลต้องพึ่งพาต่างประเทศเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง แต่คนไทยเข้าใจดีว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรและในที่สุดต่างชาติก็จะเข้าใจมากขึ้น

ส่วนความพยายามดึงต่างชาติเข้ามาเพราะรัฐบาลเตรียมแผนสำรองในการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นหากไม่สามารถรักษาอำนาจไว้ได้นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงตอบไม่ได้เรื่องแผน แต่กระบวนการที่พยายามส่งข้อมูลเท็จให้กับนายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ เห็นได้ชัดเจนว่าต้องการให้ประชาคมโลกเข้าใจข้อมูลที่เป็นเท็จเพื่อเพิ่มความชอบธรรมให้กับตัวเอง

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงเหตุปาระเบิดบ้านพัก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. และเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลอย่างต่อเนื่องว่า ความรุนแรงเป็นการกระทำต่อผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล โดยที่รัฐบาลไม่ได้แสดงท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจอะไร ซึ่งตนก็ได้กำชับสมาชิกพรรคให้ระมัดระวังตัวเองอย่าประมาท แต่ไม่มีใครยอมจำนนกับการใช้วิธีการแบบนี้แน่นอน ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยก็จะทำเท่าที่ทำได้ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตกรณีปาระเบิดบ้านผู้ว่าฯ กทม.ว่า คนทำกล้าทำบนถนนหลักอย่างถนนศรีอยุธยา ในเวลาที่ไม่ดึกมาก มีแสงสว่าง ซีซีทีวี เหมือนกับมั่นใจมากว่าจะไม่ถูกจับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจมีส่วนรู้เห็นอำนวยความสะดวกให้คนร้ายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนหวังว่าไม่ แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าทำไมกล้าทำขนาดนั้น เหมือนกับรู้ว่าไม่ถูกจับ ทั้งนี้ตนอยากให้คนที่รับผิดชอบคือรัฐบาลมีท่าทีที่ชัดเจนว่าอยากเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อยและคุ้มครองสวัสดิภาพทุกคน แต่รัฐบาลพยายามพูดให้คนเข้าใจว่าผู้ชุมนุมจะใช้ความรุนแรงหรือไม่ แต่บรรดาความรุนแรงที่กระทำต่อการชุมนุมหรือผู้ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล รัฐบาลไม่เคยประณาม ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบเอาจริงเอาจังในการจัดการเลย ส่วนกลุ่มที่ออกมาจุดเทียนเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงก่อนหน้านี้นั้นตนก็ไม่ทราบว่าคนเหล่านี้จะช่วยเป็นปากเสียงแทนผู้ที่ถูกกระทำหรือไม่ หรือว่าจะเป็นปากเสียงแทนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น



กำลังโหลดความคิดเห็น