โฆษก กปปส.ซัด “ยิ่งลักษณ์” ตั้งสภาปฏิรูป ฉวยโอกาสโหมกระแสแค่รักษาอำนาจ แฉทำได้แค่เสนอแนะไม่มีอำนาจกฎหมาย สุดท้ายต้องพึ่งนักการเมือง ย้ำต้องทำก่อนเลือกตั้ง มีนัยแอบแฝง ไร้ความจริงใจ บีบเอกชนร่วมซักฟอกตัวเอง ไล่ลาออก ปูดตำรวจดูแลม็อบโดนหักเบี้ยเลี้ยง
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่เวทีชุมนุมราชดำเนิน นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวว่า ข้อเสนอของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมรักษาการ ให้มีการจัดตั้งสภาปฏิรูปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี โดย กปปส.เห็นว่า การกระทำดังกล่าวไม่เป็นตามเจตนารมณ์ของประชาชน และฉวยโอกาสโหมกระแสเพื่อรักษาอำนาจตัวเองไว้
อย่างไรก็ดี กปปส.มีข้อสังเกต คือ 1. การตั้งสภาปฏิรูป เป็นเพียงการตั้งชื่อไว้ให้หรู โดยมีคำว่าปฏิรูป แต่ไม่มีอำนาจกฎหมาย ทำหน้าที่เพียงเสนอแนะ ซึ่งไม่ต่างสภาโจ๊ก สภาหุ่นเชิด 2. เมื่อสภาปฏิรูปไม่มีอำนาจ ก็ต้องพึงใบบุญนักการเมือง และเห็นได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และตระกูลชินวัตร ไปอยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งชัดเจนว่าตระกูลชินวัตร ต้องการเข้าไปก้าวก่ายในการทำงานของสภาปฏิรูป
“ขอย้ำว่า สภาปฏิรูปไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และหวังพึ่งใบบุญนักการเมือง อาจทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน อีกทั้ง ประชาชนต้องการให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง แก้ไขกฎหมายเพื่อลงโทษนักการเมือง ทุจริต คอร์รัปชัน โกงเลือกตั้ง แต่วันนี้จะไปพึ่งหวังนักการเมืองให้ออกกฎหมายลงโทษตัวเองคงทำไม่ได้ ดังนั้น ประชาชนต้องการปฏิรูปองค์กรต่างๆ ให้ปราศจากการครอบงำของพรรคและนักการเมือง ซึ่งถือว่าไม่ตอบโจทย์” นายเอกนัฏกล่าว
3. ตามข้อเสนอนายกฯ มีการปฏิรูป 5 ข้อย่อย และหนึ่งในนั้นเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเกรงว่าการตั้งสภาปฏิรูปมีนัยยะแอบแฝง หวังรวบอำนวจ เหมือนที่เคยพยายามแก้ไขเรื่องที่มา ส.ว. หรือแก้ส่วนเกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคลากรตุลาการและองค์กรอิสระ และทำให้เชื่อว่าการตั้งสภาปฏิรูปไม่มีความจริงในการปฏิรูปจริงๆ แต่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง
และ 4. ห่วงว่าการจัดตั้งสภาปฏิรูปจะมีการบีบบังคับภาคเอกชน เช่น สภาหอการค้าไทย และสภาอุตสหากรรม ให้เข้ามาสมยอม เพื่อหวังซักฟอกขบวนการ และไม่เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน ทั้งนี้ ขอย้ำว่าสภาปฏิรูปแบบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน วันนี้ (25 ธ.ค.) ประชาชนต้องการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไม่ใช่ปฏิรูปไปเลือกตั้งไป ไม่อยากให้ตั้งในลักษณะปาหี่ พึ่งนักการเมือง เพราะไม่ไว้ใจนักการเมืองโกงบ้านเมืองเข้าร่วม อยากเรียกร้องให้นายกฯรับผิดชอบด้วยการลาออก เพื่อปูทางปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
นายเอกนัฏกล่าวว่า นอกจากนี้ มีความเป็นห่วงว่าวันนี้นายกฯเสพติดอำนาจ ด้วยการต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคงออกไปถึงวันที่ 1 มี.ค. 2557 เพื่อต่อสู้กับประชาชน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน อีกทั้งนายกฯ ถือเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด ดังนั้น อยากให้นายกฯลาออกจากรักษาการ เพื่อเปิดทางปฏิรูปประเทศ อย่างไรก็ตาม มีหลายองค์กรเห็นด้วยกับการปฏิรูป และมีเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยอ่อนล้าต่อการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ และอยากเป็นตัวแทนตำรวจร้องไปยังรัฐบาล ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ยังไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง และมีการหักหัวคิวจากเบี้ยเลี้ยงไปจ่ายค่ากับข้าวจำนวน 200 บาท อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เบื่อหน่ายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ใช้อำนาจรังแกประชาชน ดังนั้น นายกฯ ควรลาออกเพื่อปูทางปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง