“พงศ์เทพ-วราเทพ” ประสานเสียงปิดทางออก กม.ตั้งสภาปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เมินข้อเสนอ 7 องค์กรเอกชน เตรียมชงแนวทางอื่นเข้า ครม.พรุ่งนี้ ด้าน “อำนวย” จุดพลุเลือกตั้งในค่ายทหาร ส่วน “เหวง” บอกเสื้อแดงโคตรแฮปปี้ลำดับปาร์ตี้ลิสต์ “เฮียหวัง มิตซูชิต้า” กระสันเลือกตั้ง โร่แจกโบรชัวร์หาเสียงจองที่สมัคร ส.ส.เขต “ทวีวัฒนา-หนองแขม”
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอของ 7 องค์กรภาคเอกชน ให้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) จัดตั้งองค์กรทำหน้าที่ปฏิรูปประเทศ ว่า ประเด็นการปฏิรูปประชาชน และพรรคการเมือง เห็นพ้องว่าต้องปฏิรูปอีกครั้ง แม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้จัดเวทีขึ้นมาแล้วแต่ต้องหยุดชะงัก ไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้จากเหตุการณ์หลายอย่าง แต่การตั้งสถาปฏิรูปการเมืองโดยออก พ.ร.ก.นั้นทำไม่ง่ายนัก เพราะมีเงื่อนไขมากมายภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ
“เรื่องแบบนี้ไม่ใช่อยากออกก็ออกได้ ต้องมีความจำเป็นเร่งด่วนตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งอำนาจของรัฐบาลรักษาการค่อนข้างมีจำกัด จึงเป็นไปได้ยาก แต่มีกลไกที่สามารถทำได้ในรูปแบบอื่น ซึ่งจะมีการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ก่อนนำเสนอ ครม.ในวันที่ 25 ธ.ค.” นางพงศ์เทพ ระบุ
ด้าน นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในกรณีเดียวกันว่า การออก พ.ร.ก.จะกระทำในช่วงเป็นรัฐบาลและมีสภาผู้แทนราษฎร แต่การออกในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการยังไม่เคยเห็น ไม่แน่ใจว่าในอดีตเคยเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าออกไปแล้วมีคนท้วงติง หรือไปยื่นร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความก็จะยุ่งไปกันใหญ่ จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ส่วนข้อเสนอที่จะมีองค์กรขึ้นมา ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอต่างๆ เมื่อสามารถตกผลึกได้หลายๆแนวทางแล้ว น่าจะความชัดเจนมากขึ้นหลังปิดรับสมัครรับเลือกตั้ง
“กระแสข่าวรัฐบาลเตรียมออกพระราชกฤษฎีกาตั้งสภาปฏิรูปนั้น ส่วนตัวไม่ทราบเรื่อง แต่การออก พ.ร.ฎ.ต้องเสนอเข้า ครม.และยังไม่เห็นหน่วยงานใดเสนอ อาจเป็นการแสดงความเห็นเบื้องต้นมากกว่า แต่ตามกฎหมายไม่น่าจะทำได้เร็วขนาดนั้น เพราะการออก พ.ร.ฎ.ต้องมีความชัดเจน ในเนื้อหาสาระว่าออกมาแล้วมีโครงสร้าง องค์ประกอบอะไร ดังนั้นส่วนตัวเชื่อว่ายังไม่พร้อมดำเนินการ” นายวราเทพ กล่าว
ขณะที่ นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความวุ่นวายในการสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ตนขอเสนอให้ กกต.กำหนดสถานที่รับสมัครในกรมทหาร การรับสมัคร ส.ส.เขต และการเลือกตั้งทั่วประเทศ ขอให้ทำกันในกรมทหารแต่ละจังหวัด เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นอีก เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่กล้าเข้าไปแน่ สำหรับแนวทางการปฏิรูปที่ถกเถียงกันอยู่นั้น ตนคิดว่ามีช่องทางทำคู่ขนานไปกับการเลือกตั้งได้ โดยการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.2557 จะต้องจัดตามกำหนดเดิมต่อไป เลื่อนไม่ได้ ขณะเดียวกันก็นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่ค้างอยู่ ให้วุฒิสภาดำเนินการในนามสภาผู้แทนฯ จากนั้นตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.มาปฏิรูปการเมือง
นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.เปิดเผยว่า การจัดลำดับบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งแกนนำ นปช.ส่วนใหญ่อยู่ในลำดับต้นนั้น เท่าที่ฟังท่าทีแกนนำส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาและพอใจกับลำดับที่ได้รับ เพราะทุกคนเข้ามาทำงานเพื่อให้การเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเท่านั้น ไม่ได้มีปัญหา ยืนยันว่าไม่ใช่การปูนบำเหน็จ หรือต่างตอบแทน เพราะหากเทียบกับปี 2554 แกนนำ นปช.ได้ลำดับดีกว่านี้ อีกทั้งการจัดลำดับคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาจากการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ส่วนตัวยังมั่นใจว่าการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 จะเกิดขึ้นได้ เพราะยังมีเวลารับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อถึงวันที่ 27 ธ.ค.จึงไม่น่ามีปัญหาอะไร
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ในพื้นที่ย่านแขวงหนองค้างพลู เขตทวีวัฒนา ซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 29 กทม.ปรากฏว่า นายสมหวัง อัสราษี รองประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งมีความใกล้ชิดกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เริ่มลงพื้นที่แจกแผ่นพับหาเสียงด้วยตัวเอง โดยอ้างว่าได้รับมอบหมายจากทางพรรคเพื่อไทยให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตในพื้นที่ดังกล่าว โดยในแผ่นพับมีการนำภาพผลงานการช่วยเหลือประชาชนจากเหตุการณ์อุทกภัย การมอบถุงยังชีพ และทำกิจกรรมอื่นๆ รวมไปถึงประวัติของนายสมหวัง ที่ระบุว่าเป็นอดีตที่ปรึกษาและเลขาฯ รมช.พาณิชย์ และที่ปรึกษา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ด้วย
สำหรับพื้นที่เขต 29 กทม.(หนองแขม-ทวีวัฒนา) นั้น เดิมมี นายแสวง ฤกษ์จรัล คนสนิทของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย แต่พ่ายให้แก่ นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ก่อนหน้านี้ได้ลาออกจาก ส.ส.มาทำหน้าที่โฆษก กปปส.ขณะที่นายสมหวังแม้ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็มีได้รับตำแหน่งข้าราชการการเมืองมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันว่า นายสมหวัง หรือ เฮียหวัง เป็นอดีตประธานบริษัท สแกนเนอร์ อิเลคทริค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อมิตซูชิต้า และเป็นนายทุนให้แก่กลุ่ม นปช.
