วันนี้การเมืองไทยได้เดินมาถึงทางสองแพร่ง และคนไทยจะต้องเลือกทางใดทางหนึ่งก่อนที่จะปล่อยให้การเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก้าวต่อไป
ทางสองแพร่งที่ว่านี้ก็คือ
1. จัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกายุบสภา แล้วค่อยจัดให้มีการปฏิรูปประเทศ
2. ให้รัฐบาลรักษาการลาออกทั้งคณะ และไม่มีการตั้งใครขึ้นมารักษาการแทน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจขึ้นมาทำการปฏิรูปประเทศไทยในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการเมือง และด้านอื่นๆ ซึ่งเกี่ยวข้องและมีส่วนได้เสียกับการเลือกตั้งก่อนแล้วค่อยจัดให้มีการเลือกตั้ง
ในสองทางนี้ ทางที่หนึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรักษาการ และกลุ่มคนที่อยู่ข้างรัฐบาลอันได้แก่พรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มคนเสื้อแดง รวมไปถึงข้าราชการ นักวิชาการ และกลุ่มทุนซึ่งได้รับผลประโยชน์ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม จากทุกรัฐบาลซึ่งมีรากเหง้ามาจากระบอบทักษิณ
ส่วนทางที่สองได้รับการสนับสนุนจากมวลมหาประชาชน ซึ่งนำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำอีก 8 คนที่กำลังชุมนุมเรียกร้องอยู่ที่ถนนราชดำเนิน และพันธมิตรอีก 2 แห่งซึ่งนำโดยกองทัพธรรม และนายอุทัย ยอดมณี ร่วมกับนายนิติธร ล้ำเหลือ รวมไปถึงประชาชนในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทยมีจำนวนหลายสิบล้านคน ทั้งที่ออกมาร่วมชุมนุม และคอยให้กำลังใจอยู่ที่บ้าน
ดังนั้นจึงถือได้ว่าการเมืองไทยในขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะหักเห และต้องการทางเลือกจากประชาชนเจ้าของประเทศ โดยยึดประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับในอนาคตเป็นหลัก และการที่จะทำเช่นนี้ได้ทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบในการรับใช้ประเทศเพื่อปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันได้แก่ทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน จะต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนในการเลือกทางใดทางหนึ่งในสองทางนี้ ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศมีทางออกโดยเร็ว อันเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
แต่ก่อนจะเลือกทางใดทางหนึ่ง ควรอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียที่ประเทศชาติ และประชาชนโดยรวมจะได้รับจากการเลือกที่ว่านี้
การเลือกตั้งก่อนมีข้อดี และข้อเสียดังต่อไปนี้
1. ข้อดี
เป็นการสนองความอยากความต้องการของผู้ที่เชื่อว่า การเลือกตั้งและมีระบบรัฐสภาคือการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยไม่ดูว่าเนื้อหาของความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นมาแล้ว และกำลังเป็นอยู่ในประเทศไทยในขณะนี้เลวทรามขนาดไหน และประเทศชาติเสียอะไรจากความเป็นประชาธิปไตยในลักษณะนี้
2. ข้อเสีย
เป็นที่รู้และยอมรับกันทั่วไปว่า การที่ประเทศไทยตกต่ำทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่ในขณะนี้ เป็นผลพวงของรัฐบาลที่มีรากเหง้ามาจากระบอบทักษิณ และถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้งโดยมีระบอบทักษิณยังฝังรากหยั่งลึกอยู่ในระบบการเมือง ก็คงจะได้รัฐบาลและรัฐสภาที่เหลวแหลก และรับใช้นายทุนสามานย์อย่างเดิม
ดังนั้นถ้าจะให้การเมืองมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น คงหลีกเลี่ยงการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งไม่ได้
ส่วนว่าจะปฏิรูปด้านใดบ้าง และใช้เวลานานเท่าใดคงจะต้องรอให้รัฐบาลเฉพาะกิจ และสภาประชาชนตั้งขึ้นมาเป็นรูปร่างก่อน แล้วจะบอกได้ว่า ถ้าไม่ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งจะเสียอะไร โดยการนำสิ่งที่ได้มาเปรียบเทียบกับปัจจัยต่างๆ ที่เป็นอยู่ก่อนการเลือกตั้ง
ส่วนการปฏิรูปก่อนแล้วเลือกตั้งมีข้อดี และข้อเสียดังนี้
1. ข้อดี
จะทำให้เหตุปัจจัยที่ทำให้การเมืองเลวร้ายดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้ลดลงหรือหมดไป และเป็นหลักประกันได้ว่าประเทศและประชาชนจะได้ระบบการเมืองที่ดีกว่าเดิม ส่วนว่าจะดีมากเท่าที่คาดหวังไว้หรือไม่ จะต้องดูว่าองค์ประกอบของสภาปฏิรูปอันเกิดจากการที่ประชาชนเลือกตั้งขึ้นมาประกอบด้วยคนดี คนเก่ง และมีคุณธรรมมากน้อยแค่ไหน เป็นสัดส่วนเท่าใดเทียบกับคนที่ด้อยคุณภาพ และด้อยคุณธรรมที่เป็นองค์ประกอบของสภาฯ ที่เป็นมาแล้วก่อนการปฏิรูป
ถ้าได้คนเก่ง และคนดีมาประกอบกัน เป็นผู้เสียสละทำเพื่อประเทศชาติ และราชบัลลังก์อย่างแท้จริง เป็นส่วนใหญ่หรือทั้งหมดแล้วก็เป็นอันเชื่อได้ว่าดีกว่าปล่อยให้มีการเลือกตั้งก่อนแน่นอน
2. ข้อเสีย
จะทำให้ผู้ที่อยากเห็นการเลือกตั้งตามที่กำหนดไว้ ตามพระราชกฤษฎีกาผิดหวัง และอาจนำข้อมูลในลักษณะนี้ไปให้นักข่าวต่างประเทศที่ไม่เข้าใจลักษณะของการเมืองไทย พูดจาโจมตีประเทศไทยทำให้เสียภาพลักษณ์ได้ ดังที่รัฐบาลโดยรักษาการรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศกำลังทำอยู่ในขณะนี้ โดยการนำคำพูดของผู้มีชื่อเสียงจากต่างประเทศให้ความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งมาเผยแพร่เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ อยู่ในขณะนี้
แต่อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้เห็นว่า ถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้งโดยไม่มีการทำการปฏิรูปก่อน ก็เท่ากับการยอมรับว่าการเมืองไทยเท่าที่เป็นมาแล้ว และเป็นอยู่ในขณะนี้ และการมองการเมืองไทยในลักษณะนี้ก็คือการยอมรับว่าความเลวเป็นความดี จึงไม่จำเป็นต้องแก้ไขใดๆ
แต่ในความเป็นจริง การเมืองไทยภายใต้ความคิดของ ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ได้พิสูจน์แล้วว่าล้มเหลว ทั้งนี้จะเห็นได้จากการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และอันดับต่อมาคือทุจริตคอร์รัปชันของประเทศไทยที่ได้เพิ่มจากอันดับที่ 88 เป็น 102 และอันดับการศึกษาที่ได้ตกลงเป็นอันดับ 8 ของอาเซียน เป็นต้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงต่อการที่จะก้าวต่อไปในเส้นทางแห่งระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย หรือว่าจะต้องปล่อยให้ประเทศไทยล่มจมมากกว่านี้แล้วค่อยปฏิรูป
ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนใคร่ขอวิงวอนคนไทยทุกคนไม่ว่าสีไหน และสังกัดกลุ่มใดขอได้โปรดเปิดตาเปิดใจมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นจริง แล้วเลือกการปฏิรูปการเลือกการตั้งเพื่อให้ประเทศไทยก้าวต่อไปบนเส้นทางประชาธิปไตยที่ดีกว่าเดิม เพียงแค่นี้ก็จะช่วยให้คนที่ออกมาชุมนุมและคนที่คอยให้กำลังใจอยู่ที่บ้านเห็นคุณค่าแห่งความเป็นคนไทยหัวใจรักชาติ รักศาสนา และรักพระมหากษัตริย์ได้แจ่มแจ้งชัดเจนมากกว่าที่อยู่เฉย หรือออกมาพูดแบบกำกวมดังที่บางคนพูด ทั้งๆ ที่อยู่ในฐานะที่พูดได้ดีกว่า
ทางสองแพร่งที่ว่านี้ก็คือ
1. จัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกายุบสภา แล้วค่อยจัดให้มีการปฏิรูปประเทศ
2. ให้รัฐบาลรักษาการลาออกทั้งคณะ และไม่มีการตั้งใครขึ้นมารักษาการแทน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจขึ้นมาทำการปฏิรูปประเทศไทยในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการเมือง และด้านอื่นๆ ซึ่งเกี่ยวข้องและมีส่วนได้เสียกับการเลือกตั้งก่อนแล้วค่อยจัดให้มีการเลือกตั้ง
ในสองทางนี้ ทางที่หนึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรักษาการ และกลุ่มคนที่อยู่ข้างรัฐบาลอันได้แก่พรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มคนเสื้อแดง รวมไปถึงข้าราชการ นักวิชาการ และกลุ่มทุนซึ่งได้รับผลประโยชน์ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม จากทุกรัฐบาลซึ่งมีรากเหง้ามาจากระบอบทักษิณ
ส่วนทางที่สองได้รับการสนับสนุนจากมวลมหาประชาชน ซึ่งนำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำอีก 8 คนที่กำลังชุมนุมเรียกร้องอยู่ที่ถนนราชดำเนิน และพันธมิตรอีก 2 แห่งซึ่งนำโดยกองทัพธรรม และนายอุทัย ยอดมณี ร่วมกับนายนิติธร ล้ำเหลือ รวมไปถึงประชาชนในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทยมีจำนวนหลายสิบล้านคน ทั้งที่ออกมาร่วมชุมนุม และคอยให้กำลังใจอยู่ที่บ้าน
ดังนั้นจึงถือได้ว่าการเมืองไทยในขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะหักเห และต้องการทางเลือกจากประชาชนเจ้าของประเทศ โดยยึดประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับในอนาคตเป็นหลัก และการที่จะทำเช่นนี้ได้ทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบในการรับใช้ประเทศเพื่อปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันได้แก่ทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน จะต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนในการเลือกทางใดทางหนึ่งในสองทางนี้ ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศมีทางออกโดยเร็ว อันเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
แต่ก่อนจะเลือกทางใดทางหนึ่ง ควรอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียที่ประเทศชาติ และประชาชนโดยรวมจะได้รับจากการเลือกที่ว่านี้
การเลือกตั้งก่อนมีข้อดี และข้อเสียดังต่อไปนี้
1. ข้อดี
เป็นการสนองความอยากความต้องการของผู้ที่เชื่อว่า การเลือกตั้งและมีระบบรัฐสภาคือการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยไม่ดูว่าเนื้อหาของความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นมาแล้ว และกำลังเป็นอยู่ในประเทศไทยในขณะนี้เลวทรามขนาดไหน และประเทศชาติเสียอะไรจากความเป็นประชาธิปไตยในลักษณะนี้
2. ข้อเสีย
เป็นที่รู้และยอมรับกันทั่วไปว่า การที่ประเทศไทยตกต่ำทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่ในขณะนี้ เป็นผลพวงของรัฐบาลที่มีรากเหง้ามาจากระบอบทักษิณ และถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้งโดยมีระบอบทักษิณยังฝังรากหยั่งลึกอยู่ในระบบการเมือง ก็คงจะได้รัฐบาลและรัฐสภาที่เหลวแหลก และรับใช้นายทุนสามานย์อย่างเดิม
ดังนั้นถ้าจะให้การเมืองมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น คงหลีกเลี่ยงการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งไม่ได้
ส่วนว่าจะปฏิรูปด้านใดบ้าง และใช้เวลานานเท่าใดคงจะต้องรอให้รัฐบาลเฉพาะกิจ และสภาประชาชนตั้งขึ้นมาเป็นรูปร่างก่อน แล้วจะบอกได้ว่า ถ้าไม่ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งจะเสียอะไร โดยการนำสิ่งที่ได้มาเปรียบเทียบกับปัจจัยต่างๆ ที่เป็นอยู่ก่อนการเลือกตั้ง
ส่วนการปฏิรูปก่อนแล้วเลือกตั้งมีข้อดี และข้อเสียดังนี้
1. ข้อดี
จะทำให้เหตุปัจจัยที่ทำให้การเมืองเลวร้ายดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้ลดลงหรือหมดไป และเป็นหลักประกันได้ว่าประเทศและประชาชนจะได้ระบบการเมืองที่ดีกว่าเดิม ส่วนว่าจะดีมากเท่าที่คาดหวังไว้หรือไม่ จะต้องดูว่าองค์ประกอบของสภาปฏิรูปอันเกิดจากการที่ประชาชนเลือกตั้งขึ้นมาประกอบด้วยคนดี คนเก่ง และมีคุณธรรมมากน้อยแค่ไหน เป็นสัดส่วนเท่าใดเทียบกับคนที่ด้อยคุณภาพ และด้อยคุณธรรมที่เป็นองค์ประกอบของสภาฯ ที่เป็นมาแล้วก่อนการปฏิรูป
ถ้าได้คนเก่ง และคนดีมาประกอบกัน เป็นผู้เสียสละทำเพื่อประเทศชาติ และราชบัลลังก์อย่างแท้จริง เป็นส่วนใหญ่หรือทั้งหมดแล้วก็เป็นอันเชื่อได้ว่าดีกว่าปล่อยให้มีการเลือกตั้งก่อนแน่นอน
2. ข้อเสีย
จะทำให้ผู้ที่อยากเห็นการเลือกตั้งตามที่กำหนดไว้ ตามพระราชกฤษฎีกาผิดหวัง และอาจนำข้อมูลในลักษณะนี้ไปให้นักข่าวต่างประเทศที่ไม่เข้าใจลักษณะของการเมืองไทย พูดจาโจมตีประเทศไทยทำให้เสียภาพลักษณ์ได้ ดังที่รัฐบาลโดยรักษาการรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศกำลังทำอยู่ในขณะนี้ โดยการนำคำพูดของผู้มีชื่อเสียงจากต่างประเทศให้ความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งมาเผยแพร่เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ อยู่ในขณะนี้
แต่อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้เห็นว่า ถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้งโดยไม่มีการทำการปฏิรูปก่อน ก็เท่ากับการยอมรับว่าการเมืองไทยเท่าที่เป็นมาแล้ว และเป็นอยู่ในขณะนี้ และการมองการเมืองไทยในลักษณะนี้ก็คือการยอมรับว่าความเลวเป็นความดี จึงไม่จำเป็นต้องแก้ไขใดๆ
แต่ในความเป็นจริง การเมืองไทยภายใต้ความคิดของ ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ได้พิสูจน์แล้วว่าล้มเหลว ทั้งนี้จะเห็นได้จากการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และอันดับต่อมาคือทุจริตคอร์รัปชันของประเทศไทยที่ได้เพิ่มจากอันดับที่ 88 เป็น 102 และอันดับการศึกษาที่ได้ตกลงเป็นอันดับ 8 ของอาเซียน เป็นต้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงต่อการที่จะก้าวต่อไปในเส้นทางแห่งระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย หรือว่าจะต้องปล่อยให้ประเทศไทยล่มจมมากกว่านี้แล้วค่อยปฏิรูป
ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนใคร่ขอวิงวอนคนไทยทุกคนไม่ว่าสีไหน และสังกัดกลุ่มใดขอได้โปรดเปิดตาเปิดใจมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นจริง แล้วเลือกการปฏิรูปการเลือกการตั้งเพื่อให้ประเทศไทยก้าวต่อไปบนเส้นทางประชาธิปไตยที่ดีกว่าเดิม เพียงแค่นี้ก็จะช่วยให้คนที่ออกมาชุมนุมและคนที่คอยให้กำลังใจอยู่ที่บ้านเห็นคุณค่าแห่งความเป็นคนไทยหัวใจรักชาติ รักศาสนา และรักพระมหากษัตริย์ได้แจ่มแจ้งชัดเจนมากกว่าที่อยู่เฉย หรือออกมาพูดแบบกำกวมดังที่บางคนพูด ทั้งๆ ที่อยู่ในฐานะที่พูดได้ดีกว่า