โฆษกเพื่อไทย อยากเป็น ส.ส.จนตัวสั่น จี้ กกต.ฟันอาญาม็อบ กปปส. ขู่ระวังเจอ 157 เตรียมยื่นยุบพรรค ปชป. ยันเลื่อนเลือกตั้งไม่ได้ ไม่งั้นศาลรัฐธรรมนูญเล่นงาน เหน็บข่มขู่สื่อเนี่ยนะจะปฏิรูปประเทศ ทำสอนมวลชนหัดมีสติบ้าง “พ่อหมอแคน” ถาม “มาร์ค” หนุนหลังหรือไม่ เตือนต้องรับผิดชอบ
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ปิดล้อมอาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันนี้ (24 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการรับสมัคร ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานในการจัดการเลือกตั้ง ถือว่าผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) มาตรา 138 และ 139 และถือว่าผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ จึงขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะหากไม่ดำเนินการ จะทำให้ผู้ชุมนุมเหิมเกริมมากขึ้น รวมทั้งขอให้ กกต.ตรวจสอบว่าแกนนำ กปปส. ทั้ง 9 คน ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อยู่หรือไม่ และการขัดขวางการเลือกตั้ง หากกรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็น นายทะเบียนพรรคการเมืองสามารถดำเนินการยุบพรรคได้
“กกต.อย่าไปกลัว เพราะเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ที่ต้องจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อย หากไม่ทำถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ผิดตาม ป.วิอาญา มาตรา 157 และการที่บอกว่าไม่ต้องการเติมเชื้อไฟนั้น วันนี้ กกต.ต้องทำให้สงบเรียบร้อย ต้องดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้อยากขอให้ กกต. ประชุมเพื่อมีมติย้ายสถานที่รับสมัคร เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยด้วย” นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง เสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 108 กำหนดไว้ชัดเจนให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45-60 วันหลังจากมีการยุบสภา ทั้งนี้หาก นายกฯ และ ครม.เสนอ กกต.ให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปตามที่ กปปส.เสนอ ก็จะมีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่ากระทำผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะทำให้มีการตัดสิทธิ์ทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ และหากพรรคการเมืองเสนอให้มีการเลื่อนการเลือกตั้ง ก็อาจจะถูกร้องเช่นเดียวกัน ส่งผลให้มีการยุบพรรคการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ กปปส.คุกคามสื่อมวลชนว่า เป็นการลุแก่อำนาจ เอาอำนาจอะไรไปตรวจค้นสื่อที่เข้าไปทำหน้าที่ จึงอยากถามว่าคนเหล่านี้จะมาปฏิรูปประเทศไทยได้อย่างไร และขอเรียกร้องไปยังมวลชนและกลุ่มท่อน้ำเลี้ยงที่ให้การสนับสนุนกลุ่ม กปปส. ให้ใช้สติ เพราะการช่วยเหลือ กปปส. จะยิ่งทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม วันนี้ทีมกฎหมายรวบรวมเอกสารไปแจ้งความเอาผิดในทุกคดีกับนายสุเทพและแกนนำทั้ง 9 คน ที่กองบังคับการปราบปรามด้วย
ด้านนายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และแกนนำคนเสื้อแดง แถลงข่าวว่า การที่กลุ่ม กปปส.นำมวลชนมาปิดล้อมบริเวณด้านหน้าสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ถือเป็นความผิดทางอาญาอย่างชัดเจน เพราะวัตถุประสงค์เพื่อกีดขวางการเลือกตั้งเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ ใช้ความรุนแรง ยึดสถานที่ราชการ และการเคลื่อนไหวสอดคล้องกับการบอยคอดการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้คนทั่วไปเข้าใจตรงกันว่า กปปส.และพรรคประชาธิปัตย์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อีกทั้งบุคลากรยังเป็นคนเดียวกัน ตนอยากถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุน กปปส.อยู่หรือไม่ หากใช่ก็เหมือนกับสุภาษิตไทยที่ว่า มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ หรือปากว่าตาขยิบ
“ในอนาคตหากมีการขัดขวางการเลือกตั้งจากสมาชิกที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะรับผิดชอบอย่างไร เพราะในอดีตที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส.เป็นเหมือนคอหอยและลูกกระเดือกกันมาตลอด ยิ่งตอนนี้นายสุเทพ ทำเหมือนอันธพาลครองเมือง ผมขอบอกนายสุเทพเลยว่าหากจะปฏิรูปประเทศควรปฏิรูปตัวเองเสียก่อน” นายอดิศรกล่าว