xs
xsm
sm
md
lg

“เด็จพี่” จี้ ปชป.ส่งคนลงเลือกตั้ง เสนอ กกต.เอาทหารคุมคูหา อ้าง กปปส.จะป่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (ภาพจากแฟ้ม)
โฆษกเพื่อไทย จี้ “อภิสิทธิ์” ส่งคนลงสมัครเลือกตั้ง เหน็บอย่าสำคัญตัวเองผิดว่าอนาคตชาติขึ้นอยู่กับม็อบ ซัด “เทือก” อ้างปฏิรูปการเมืองนำหน้าทำลายบ้านเมือง วอนม็อบฟังอีกฝ่ายบ้าง เตรียมเสนอ กกต.เอาทหารมาคุมเลือกตั้ง อ้าง กปปส.จะป่วน เตรียมเอาผิด 40 ส.ว.หนุนเลื่อนเลือกตั้ง “หมวดเจี๊ยบ” เจ็บแทนนาย ซัดม็อบผู้หญิงไปบ้านนายกฯ คุกคาม วอนเลิกเอาแต่ใจตัวเอง

วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าว โดยกล่าวแสดงความยินดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่ได้รับเลือกให้เข้ามาบริหารพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองด้วยกัน หวังว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะทำงานให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ประเทศ รวมทั้งส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย เพื่อหาทางออกให้บ้านเมืองในการลดความขัดแย้งในขณะนี้

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกแปลกใจกรณีที่นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่าจะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคและอดีต ส.ส.ของพรรคในวันที่ 21 ธ.ค. เพื่อพิจารณาและมีมติส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 หรือไม่ รวมทั้งยังระบุด้วยว่าหนักใจที่สุด เพราะการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ว่าจะออกทางไหนก็เจ็บทุกทาง หมายความว่าหากส่งผู้สมัครจะเสียมวลชน แต่ถ้าไม่ส่งประเทศจะไม่มีทางออกใช่หรือไม่

ทั้งนี้ ขณะนี้มี พ.ร.ฎ.ยุบสภา และกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 แล้ว ดังนั้นตนไม่อยากให้นายอภิสิทธิ์และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์สำคัญผิดว่า ชีวิตคนไทยและอนาคตประเทศไทยจะขึ้นอยู่กับนายอภิสิทธิ์และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น เพราะคนไทยและประเทศไทยต้องเดินหน้าไปสู่การพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองต่อไป

“พรรคเพื่อไทยเห็นว่าต้องมีการเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจและช่วยหาทางออกให้ประเทศผ่านการเลือกตั้ง เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ว่า คนไทยส่วนใหญ่เห็นอย่างไร และต้องการให้ใครมาบริหารประเทศ” โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุ

ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ประกาศยกระดับการชุมนุม โดยนัดเดินขบวนไปตามเส้นทางต่างๆในวันที่ 19-20 ธ.ค. และนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 22 ธ.ค.เพื่อขัดขวางการรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การดำเนินการของนายสุเทพเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยอ้างการปฏิรูปการเมืองบังหน้า แต่แท้จริงแล้วเป็นการทำลายบ้านเมืองอย่างเห็นได้ชัด

โดยพิจารณาได้จาก 6 ข้อดังนี้ คือ 1. การชุมนุมที่อ้างการคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม แต่ที่จริงแล้วต้องการล้มล้างรัฐบาลแต่แรก เพราะเมื่อเงื่อนไขดังกล่าวยุติ กลับสร้างเงื่อนไขเพิ่มเป็นขับไล่รัฐบาล และยกวาทกรรม เรื่องล้มระบอบทักษิณ ขึ้นมาทั้งที่ไม่มีระบบทักษิณอยู่จริง 2. อ้างว่าชุมนุมโดยสงบ แต่กลับนำประชาชนไปยึดสถานที่ราชการ บังคับข่มขู่ข้าราชการไม่ให้ทำงาน 3. การประกาศจะตั้งสภาประชาชนเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การปกครอง ทั้งที่มีรัฐธรรมนูญบังคับใช้อยู่ เป็นสิ่งที่ไม่อาจทำได้ เนื่องจากขณะนี้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายได้

4. เมื่อข้ออ้างเรื่องขับไล่ระบอบทักษิณเริ่มไม่ได้รับการตอบสนอง และนายกฯประกาศยุบสภา ก็เปลี่ยนเป็นเสนอปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งแทน ซึ่งแนวทางดังกล่าวต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญเมื่อไม่มีสภาผู้แทนราษฎร จะดำเนินการได้อย่างไร 5. รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนในการร่าง หากเห็นว่ารัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งไม่เป็นธรรม เหตุใดตอนที่นายสุเทพเป็นรัฐบาลจึงไม่ดำเนินการ และ 6. นายสุเทพประกาศจะล้มการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่านายสุเทพไม่เคารพเสียงประชาชนทั่วประเทศที่จะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของประเทศ

นายพร้อมพงศ์เรียกร้องไปยังประชาชนที่จะมาร่วมชุมนุมว่า ควรรับฟังเหตุผลจากทุกฝ่าย ไม่ควรหลงเชื่อเฉพาะคำพูดของนายสุเทพ ที่จะซ้ำเติมปัญหาให้กับบ้านเมือง และที่สำคัญเมื่อมีการโปรดเกล้า พ.ร.ฎ.ยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 57 แล้ว ประชาชนทุกคนต้องแสดงสิทธิทางการเมือง กำหนดอนาคตของประเทศผ่านการเมืองตั้ง ไม่ใช่มาชุมนุมเพื่อให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก จากนี้ตนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุเทพในข้อหากบฏ แต่จะเคยดำเนินการไปแล้วแต่ถือว่าเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ และจะร้องให้ กกต.พิจารณา การกระทำของสมาชิกพรรคบางคนที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลถึงการยุบพรรคได้

นายพร้อมพงศ์ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่พอใจการทำหน้าที่ของอดีต ส.ส.ในส่วนของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. จนส่งผลถึงการพิจารณาการส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยจะเปลี่ยนจากการลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อเป็นแบบเขตแทนว่า ได้ตรวจสอบกับคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้แสดงความไม่พอใจอดีต ส.ส.กลุ่มดังกล่าวแต่อย่างใด เป็นการปล่อยข่าวเพื่อให้เกิดความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยเท่านั้น และยืนยันว่าการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 พ้นโทษการตัดสิทธิทางการเมืองทำให้การจัดสรรพื้นที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคไม่ลงตัวนั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะทางพรรคจะจัดสรรผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างยุติธรรม และรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อก็จะเสร็จสิ้นในวันที่ 22 ธ.ค. ก่อนวันรับสมัครวันที่ 23 ธ.ค.อย่างแน่นอน ส่วน ส.ส.แบบเขตเลือกตั้ง ที่จะมีการเปิดรับสมัครในวันที่ 28 ก.พ. ก็คาดว่าทางพรรคจะจัดรายชื่อผู้สมัครเสร็จสิ้นในวันที่ 26 ธ.ค.เช่นกัน

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ตนและทีมกฎหมายของพรรค จะเป็นตัวแทนพรรคไปรับฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง จาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และขณะนี้ที่ นายสุเทพ พยายามทำทุกอย่างเพื่อเลื่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 ออกไปนั้น ก็จะเสนอให้ กกต.ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตรา 20 ที่ให้อำนาจ กกต.ในการสั่งการให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามหน้าที่ในการสนับสนุนการเลือกตั้ง ให้ขอกำลังพลจากกองทัพมาช่วยดูแลการเลือกตั้ง ทั้งการรับสมัคร และการลงคะแนนเสียง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ป้องกันการขัดขวางจากกลุ่ม กปปส.

นายพร้อมพงศ์ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ และสมาชิกกลุ่ม 40 ส.ว.บางส่วนออกมาระบุว่าสามารถเลื่อนการเลือกตั้งออกไปได้ โดยใช้ช่องทางรัฐธรรมนูญมาตรา 108 ที่ระบุว่า พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ และมาตรา 187 ที่ระบุว่าพระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการตราพระราชกฤษฎีกาโดยไม่ขัดต่อกฎหมายนั้น ตนได้ตรวจสอบแล้ว การตรา พ.ร.ฎ.เพื่อให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งไม่มีรัฐธรรมนูญรองรับ การตีความกฎหมายดังกล่าวเป็นการตีความกฎหมายแบบเข้าข้างตัวเอง เมื่อกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 2 ก.พ.แล้วก็ต้องดำเนินการตามนั้น หากเลื่อนออกไปก็จะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในหลักนิติธรรมนิติรัฐ จึงไม่อยากให้ผู้ที่ออกมาเรียกร้องอ้างข้างๆคูๆ โดยไม่สนใจรัฐธรรมนูญ และหลังจากนี้จะมีการดำเนินการร้องเอาผิดกับผู้ที่ออกมาให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อหวังผลทางการเมืองต่อไป

ด้าน ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ มีแนวคิดส่งแนวร่วม กปปส.ไปที่บ้านพัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนายสุเทพยังไม่เลิกคุกคามนายกฯเสียที ก่อนหน้านี้ก็เคยข่มขู่ ด.ช.ศุภเสกข์ หรือน้องไปป์ บุตรชายนายกฯ ครั้งนี้ยังคิดส่งม็อบสตรีไปบุกบ้านนายกฯ อีก แม้จะอ้างว่าเอาดอกไม้ไปให้ แต่จริงๆแล้วต้องการคุกคามนายกฯ และครอบครัว แสดงให้เห็นว่านายสุเทพ ไม่เคยรับฟังคำพูดทักท้วงของทุกฝ่ายที่ตำหนิว่าไม่ควรเอาเด็กมาเกี่ยวข้องกับการเมือง

“ที่ผ่านมานายสุเทพไม่เคยมีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม มีแต่ข่มขู่ฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ อย่างเช่น ข่มขู่นายกฯ บุตรชายและครอบครัวชินวัตร ข่มขู่ประชาชนที่เห็นต่าง คุกคามสื่อ คุกคามสถานทูตสหรัฐฯ คุกคามข่มขู่ไม่ให้ข้าราชการทำงาน และข่มขู่กองทัพให้เลือกข้างนายสุเทพและให้ล้มการเลือกตั้ง” ร.ท.หญิง สุณิสากล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้นายสุเทพเลิกให้นายกฯ ลาออกจากรักษาการได้แล้ว เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง โดยเฉพาะกองทัพที่วางตัวเป็นกลางแม้จะถูกนายสุเทพกดดันหนักก็ตาม นอกจากนี้ยังเหลือทีท่าของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะบอยคอตการเลือกตั้งหรือไม่

“ดิฉันหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์และนายสุเทพจะไม่ทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจ ที่เห็นว่าเลือกตั้งไปก็แพ้เลยล้มการเลือกตั้งเสียเลย” ร.ท.หญิง สุณิสากล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น