“ธาริต” รับบทขี้ข้าสุดใจขาดดิ้น ออกหมายเรียกแกนนำ กปปส.เพิ่ม 17 คน รับทราบข้อหากบฏ พร้อมสั่งอายัดบัญชีธนาคาร “สุเทพ” และแกนนำ บัญชีรับบริจาค กปปส.โดนด้วย เตรียมเช็กบิลผู้บริจาคเงินเป็นท่อน้ำเลี้ยง ขู่จะเอาผิดแน่ อีกทั้งเรียกเจ้าของยานพาหนะ บริษัท ร้านค้า ที่ให้การสนับสนุนการชุมนุม
วันนี้ (18 ธ.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงข่าวหลังการประชุมพนักงานสอบสวนจากดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอัยการเพื่อวางแนวทางในการสอบสวนคดี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.พร้อมพวก หลังจากที่คณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ.ได้มีมติรับเป็นคดีพิเศษ โดยเป็นการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเป็นครั้งแรก เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องเร่งด่วนและจำเป็น
ซึ่งที่ประชุมได้มีมติดำเนินการเร่งด่วนทันที โดยมีการออกหมายเรียกแกนนำผู้ชุมนุมอีก 17 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา วันที่ 26 ธ.ค.ประกอบด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายชุมพล จุลใส, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, นายอิสสระ สมชัย, นายวิทยา แก้วภราดรัย, นายถาวร เสนเนียม, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, นายเอกณัฎ พร้อมพันธุ์ และนางสาวอัญชลี ไพรีรัก ส่วนวันที่ 27 ธ.ค.ดีเอสไอออกหมายเรียก นายนิติธร ล้ำเหลือ, นายอุทัย ยอดมณี, ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์, พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์, พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ และ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ
ขณะเดียวกัน ได้ออกคำสั่งอายัดบัญชีของแกนนำผู้ชุมนุมรวม 18 คน เนื่องจากศาลได้อนุมัติหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกแกนนำอีก 17 คน มารับทราบข้อกล่าวหาบุคคลทั้ง 18 คนดังกล่าวจึงอยู่ในข่ายผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด มีมูลเบื้องต้นจากการถูกออกหมายจับ และหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาและทำการสอบสวนแล้ว จึงมีพยานหลักฐานตามสมควรว่ามีเหตุน่าเชื่อว่าได้ร่วมกระทำความผิด เพื่อประโยชน์ในการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ในการจะใช้พิสูจน์ความผิดหรือบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ตามที่พนักงานสอบสวนของ สตช.ได้ดำเนินการเบื้องต้น ดีเอสไอจึงออกคำสั่งแจ้งไปยังธนาคารทุกแห่งให้อายัดบัญชีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำรวม 18 คน ในทุกบัญชี ทุกประเภท ทุกธนาคาร และให้ธนาคารนั้นๆ จัดส่งหลักฐานเป็นรายการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ให้ดีเอสไอโดยด่วนที่สุด โดยจะส่งหนังสือแจ้งคำสั่งไปยังธนาคารทุกธนาคารในวันพรุ่งนี้
นายธาริต กล่าวว่า การสั่งอายัดบัญชีของแกนนำทั้ง 18 คนนี้ จะกระทำพร้อมกับสั่งอายัดบัญชีที่แกนนำ กปปส.ได้ประกาศไว้ให้เป็นบัญชีรับบริจาคเพื่อสนับสนุนการชุมนุม ขณะนี้พบมี 2 บัญชี การอายัดบัญชีและตรวจสอบย้อนหลัง 6 เดือนนี้ เพื่อการตรวจสอบแสวงหาพยานหลักฐาน คาดว่าผลการตรวจสอบย้อนหลัง 6 เดือนในบัญชีทำให้เห็นความเคลื่อนไหวของกระแสเงิน และจะทำให้ทราบว่ามีผู้ให้การสนับสนุนในลักษณะท่อน้ำเลี้ยงที่ให้เงินผ่านบัญชีแกนนำและบัญชีรับบริจาคกี่คน กี่ครั้ง จำนวนเงินเท่าใดบ้าง จึงขอเตือนให้กลุ่มทุนหรือท่อน้ำเลี้ยงที่สนับสนุนการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ให้หยุดการสนับสนุนการกระทำผิดเสียทันที โดยเฉพาะเมื่อดีเอสไอได้ประกาศแจ้งเตือน หากยังฝ่าฝืนจะถือว่ามีเจตนาสนับสนุนหรือร่วมกระทำผิดกับบรรดาแกนนำอย่างเจตนาโดยชัดเจน
นอกจากนี้ ยังได้ออกหมายเรียกเจ้าของยานพาหนะ บริษัท ร้านค้า ที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมมาสอบสวน เนื่องจากข้อมูลที่พนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ดำเนินการร่วมกันมาพบว่ามีเจ้าของยานพาหนะ บริษัท ร้านค้า ให้การสนับสนุนการชุมนุมที่ผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง เพื่อคัดกรองว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาร่วมให้การบริการ เพราะรับจ้างมาหรือจงใจสนับสนุนเป็นข้อเท็จจริงประการใด จึงจะได้ออกหมายเรียกบุคคลดังกล่าวมาสอบสวน เพื่อให้ได้ทราบความจริงประกอบการดำเนินคดีต่อไป ซึ่งจะเริ่มดำเนินการทันที
ทั้งนี้ หากผู้ที่ออกหมายเรียกแล้วไม่มาพบตามกำหนด ทางดีเอสไอจะขออำนาจออกหมายจับทันที ในฐานความผิดและข้อกล่าวหา “ร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญ ว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ และเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกไปแต่ไม่เลิก